“วิโรจน์” เตรียมยื่นสรรพากร ขอคำตอบชัดๆ “แพทองธาร” ผิดไหม?

(25 มี.ค. 68) สืบเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ได้อภิปรายในประเด็นการออกตั๋ว P/N หรือสัญญาใช้เงิน ที่ น.ส.แพทองธาร ออกให้กับบุคคลในครอบครัว รวม 9 ฉบับ มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท เมื่อปี 2559 เพื่อซื้อเชื่อ หุ้นบริษัทที่เป็นกิจการของครอบครัว โดยตั๋ว P/N เหล่านั้นไม่มีกำหนดระยะเวลาจ่ายเงิน และไม่มีกำหนดดอกเบี้ย ทำให้น่าสงสัยว่าการออกตั๋ว P/N ดังกล่าว เป็นการทำนิติกรรมอำพราง เพื่อเลี่ยงการจ่ายภาษีการรับให้หรือไม่?

ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้ชี้แจงว่าการออกตั๋ว P/N เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ปกติ ทำโดยถูกต้องตามกฎหมาย เป็นเรื่องการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นในบริษัท และมีกำหนดที่จะใช้เงินคืนภายในปีหน้า(2569)

ล่าสุดวันนี้ นายวิโรจน์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ยังมีเรื่องที่ประชาชนทั้งประเทศรอฟังคำตอบของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร  ชินวัตร เพราะประชาชนก็ต้องเป็นผู้ที่เสียภาษี  การที่นายกรัฐมนตรีออกมารับกลางสภาว่านิติกรรมใช้ตั๋ว P/N ทำนิติกรรมซื้อหุ้นจากคนในครอบครัว เป็นเรื่องจริง และจะจ่ายภาษีในปีหน้า

มีอยู่ประโยคหนึ่งที่ประชาชนยังรอคำตอบจากอธิบดีกรมสรรพากร ที่นายกรัฐมนตรีบอกว่า “เป็นเรื่องปกติคนในแวดวงธุรกิจก็ทำกัน”  จึงอยากถามอธิบดีกรมสรรพากรว่า ตกลงแล้วทำได้หรือไม่ เพราะมีเจ้าของกิจการเจ้าของบริษัทห้างร้านอีกจำนวนมากที่กำลังจะโอนหุ้น โอนทรัพย์สินให้กับทายาท จะได้เอาพฤติกรรมของนางสาวแพทองธาร มาเป็นแบบอย่าง โดยไม่ต้องมาชำระภาษีการรับให้

เรื่องนี้นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร จะให้ความเห็นอย่างไรจะมีระเบียบที่ประกาศชัดเจนหรือไม่ เพื่อให้การจัดเก็บภาษีการรับให้ ในอัตราร้อยละ 5 มีความเสมอภาคกันทั้งประเทศ แต่จนถึงปัจจุบันที่ตนเองเช็คมาล่าสุด นายปิ่นสาย ยังไม่ได้ให้ความเห็นเรื่องนี้เลย  และสื่อมวลชนก็ไม่ได้รับคำตอบ  จึงขอเรียกร้องให้อธิบดีกรมสรรพากรออกมาชี้แจง และให้คำตอบที่ชัดเจน 

นายวิโรจน์ ยังตั้งคำถามว่า เจตนาของกรมสรรพากร และภาษีรับให้ เกิดขึ้นมาเพื่อตอบสนองพฤติกรรมของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แบบนี้หรือ และหากรองรับก็ให้ออกระเบียบมาประชาชนคนไทยทั้งประเทศที่จะโอนทรัพย์สิน โอนหุ้นให้กับลูก จะได้เอาอย่างนางสาวแพทองธาร และเรื่องนี้หากตนเองไม่พูด จะมีการชำระภาษีหรือไม่ เพราะนายกรัฐมนตรีพูดออกจากปากเองว่าเตรียมจะไปชำระภาษีปีหน้า และถ้าเรายอมรับเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติ แน่นอนจะมีผลกระทบอย่างมากต่อการจัดเก็บภาษีของประเทศ และคนที่เป็นระดับผู้นำของประเทศควรทำพฤติกรรมอย่างนี้หรือไม่

นายวิโรจน์ ยังบอกอีกว่า ตนเองจะไปยื่นหนังสือสอบถามอธิบดีกรมสรรพากรด้วยตนเอง ภายในสัปดาห์นี้