KNU ถล่มยึดฐาน รอง ผบ.พัน ทหารเมียนมา ดับในสนามรบ
KNU ถล่มยึดฐาน รอง ผบ.พัน ทหารเมียนมา ดับในสนามรบ
กะเหรี่ยง KNU บุกถล่มยึดฐานที่มั่นทหารเมียนมา ค่ายคอโป๊ะ ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง แม่สะเรียง ทำรอง ผบ.พัน ทหารเมียนมา เสียชีวิตในสนามรบ
(30 ต.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แหล่งข่าวสมาชิกระดับสูงของ กองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNU เปิดเผยความคืบหน้าและสถานการณ์การรบว่า เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (29 ต.ค.67) กองกำลังติดอาวุธ KNU / KNLA สังกัดกองพลน้อยที่ 5 ได้โจมตีค่ายทหารเมียนมา ค่ายคอโป๊ะ ที่ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตก ของบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 21.5 กม. โดยกองกำลัง KNU สามารถยึดค่ายทหารเมียนมาดังกล่าวได้สำเร็จ
สำหรับค่ายคอโป๊ะ เดิมนั้นทหารเมียนมา พัน.ร.19 , พัน.คร.340 และ พัน.คร.434 มีกำลังพลรวม 120 นาย เป็นหน่วยขึ้นตรง กองบัญชาการยุทธศาสตร์ส่วนหน้า "ผาปูน" ได้ถอนกำลังออกจากค่ายริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน ไปรวมตัวกันที่ค่ายคอโป๊ะ ก่อนถูกฝ่ายกะเหรี่ยง KNU ปิดล้อมมาตั้งแต่ พ.ค.67
ซึ่งก่อนหน้านั้น กองกำลัง KNU สังกัดกองพลน้อยที่ 5 ได้เริ่มโจมตีค่ายทหารเมียนมา ค่ายคอโป๊ะ ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 18 ต.ค.67 มีการใช้โดรนโจมตี ส่งผลให้ทหารเมียนมาได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ต่อมาวันที่ 20 ต.ค.2567 เวลา 10.30-17.20 น. กองกำลัง KNU ได้บุกเข้าโจมตีทหารเมียนมาค่ายคอโป๊ะ อย่างหนัก โดยสามารถทำลายค่ายที่พักของทหารเมียนมาได้หลายหลัง ล่าสุดวานนี้ ก็สามารถยึดฐานที่มั่นดังกล่าวได้เบ็ดเสร็จ
แหล่งข่าวระดับสูงของ กองกำลัง KNU ระบุว่า ปัจจุบันทหารเมียนมา ได้พยายามเสริมกำลังเข้ามาทางด้านทิศใต้ของ ค่ายกองพลน้อยที่ 5 ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่คง ของไทย เพื่อจะเข้าโจมตีค่ายกองพลน้อยที่ 5 ของฝ่าย KNU ทำให้กองกำลัง KNU ต้องเปิดปฏิบัติการทางทหารต่อฝ่ายเมียนมา เพื่อผลักดันและควบคุมพื้นที่ของตนไว้เต็มความสามารถ
ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง :
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้าที่การเปิดปฏิบัติการยึดฐานคาโป๊ะ เมื่อวันที่ 23 ต.ค.67 กองกำลัง KNU ได้ทำการโจมตีทหารเมียนมา พัน.คร.406 บริเวณ "ค่ายกู้เส่ย" ขณะออกไปลำเลียงเสบียงอาวุธและอาหาร ห่างจากบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 31.23 กม.ส่งผลให้ นายทหารยศพันตรี ตำแหน่งรอง ผบ.พัน พัน.คร.406 ส่วนหน้า สังกัดหน่วยเฉพาะกิจ ที่ทำการทางยุทธวิธี ที่ 1 บก.ควบคุมที่ 8 ส่วนหน้า และกำลังพลรวม 8 นายเสียชีวิต และมีกำลังพลทหารเมียนมาได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 3 นาย