ทนายตั้ม เคลื่อนไหว ใครๆก็ไม่รักผม ขนาดพัดลมยังส่ายหน้าเลย เฮ้อ…ชีวิต
ทนายตั้ม เคลื่อนไหว ใครๆก็ไม่รักผม ขนาดพัดลมยังส่ายหน้าเลย เฮ้อ…ชีวิต
ทนายตั้ม เคลื่อนไหว ใครๆก็ไม่รักผม ขนาดพัดลมยังส่ายหน้าเลย เฮ้อ…ชีวิต ด้านปอ-แซน แฉทนายดังปมแนะนำให้โยนความผิดคนบนเรือ พร้อมเผยมีคลิปเสียง แต่ยังไม่เปิด เจ๊หนึ่งบางปู แฉซ้ำ ปรึกษาทนายดังถูกเรียกเงิน 10 ล้านบาท ทำคดี ฟ้องหย่าสามีเก่า กู้เงินมาจ่าย แต่คดีไม่คืบ
(30 ต.ค.67) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม โพสต์ข้อความระบุว่า ใครใครก็ไม่รักผม ขนาดพัดลมยังส่ายหน้าเลย เฮ้อ…ชีวิต
ขณะเดียวกันสืบเนื่องจากกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความชื่อดัง ถูก "เจ๊อ้อย" ดำเนินคดีโกงเงิน 71 ล้านบาท หลังจากนั้น ถูก ไฮโซปอ-ตนุภัทร เจ้าของสปีดโบ๊ต พา "แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์" ดาราสาวชื่อดังนั่ง และได้พลัดตกลงจากเรือสปีดโบ๊ตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ออกมาแฉความจริงทั้งหมดในรายการทอล์คชื่อดัง(โหนกระแส) และอ้างว่ามีคลิปเสียง ที่แนะนำให้โยนความผิดคดีแตงโม จนหลายคนเชื่อมโยงไปถึงทนายตั้ม
ความคืบหน้า พบว่าหลังจบรายการ นายปอและแซน เดินเลี่ยงนักข่าวขึ้นรถ ไม่ขอพูดเพิ่มในประเด็นดังกล่าว โดยนายปอ อ้างว่า “ไม่ไหวแล้ว น่วมเลยวันนี้เหนื่อยแล้ว” และโยนให้ไปถามกับแซน ซึ่งแซนได้เดินออกมาตามหลัง ก่อนจะถูกวงนักข่าวรุมล้อม ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าจากเหตุการณ์ที่ออกมาแฉทนายตั้มในครั้งนี้มีอะไรอยากฝากถึงทนายตั้มอีกหรือไม่ แซนได้สัมภาษณ์สั้น ๆ บอกว่า “ไม่ฝากอะไรถึงทนายตั้มเพราะแค่นี้ก็ได้รับผลกรรมพอแล้ว ส่วนประเด็นของคลิปเสียงนั้นขอสอบถามกับนายปอก่อน” จากนั้นก็รีบตัดบท “ขอบคุณค่ะ” กับนักข่าวและวิ่งขึ้นรถไปทันที
ขณะเดียวกัน นางสาว วรัชญากรณ์ อ่อนธรรม หรือ หนึ่ง บางปู ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นที่ถูกทนายตั้มเรียกเงิน 10 ล้านบาท ทำคดี ฟ้องหย่าสามีเก่า กู้เงินมาจ่าย แต่คดีไม่คืบ
โดย หนึ่งบางปู ยืนยันว่า ถูกทนายตั้มเรียกเงิน 10 ล้านบาทจริง สิ่งที่เธอมีคือเช็กที่จ่ายจริงและความจริงที่ต่อให้พูดเป็นล้านครั้งก็พูดเหมือนเดิม เป็นเรื่องการคุยกันระหว่างคนสองคน เธอมีเจตนาที่ดีจึงไม่คิดที่จะอัดคลิป และตอนนั้นเธอป่วยจนเข้าไอซียูมีอาการป่วยซึมเศร้าขั้นรุนแรงและมีใบรับรองแพทย์ ไม่ได้แกล้งป่วย ถึงจะมีส่วนทำให้จดจำเรื่องราวได้ไม่หมดแต่ยืนยันเหมือนเดิม
หลังเกิดเหตุยังไม่ได้ติดต่อหรือพูดคุยกับทนายตั้ม แต่หากติดต่อมาก็มองว่าเป็นเรื่องที่พูดคุยกันได้ เป็นเรื่องคนในครอบครัว และเป็นเรื่องที่พูดคุยกันได้เพราะ 10 ล้านบาท ควรจะได้อะไรมากกว่านี้ เพราะกระบวนการหรือกฎหมายอะไรยังเกิดขึ้นแต่สุดท้ายเธอต้องไปจ่ายเงินอีก 200,000 บาท ในขณะที่ตัวเองก็ชีวิตพังในวันนี้ที่ออกมาก็ไม่ได้ชีวิตดีแต่ต้องอยู่ให้ได้ หากเมตตาสงสารก็เหมือนช่วยหมาตัวหนึ่ง
ในส่วนที่ออกมาแฉทนายตั้มนั้น เธอมองว่ามองไม่เห็นความหวังที่จะได้เงิน 10 ล้านคืนแต่ที่ออกมาเพราะเห็นแก่แม่ตัวเอง ต้องรักษาตัวและใช้หนี้ตามประสาคนแก่คนหนึ่ง ในขณะที่ลูกอาการป่วยดีขึ้นกว่า 90% แล้ว ตนเองไม่ได้ต้องการเงินเพื่อไปใช้หนี้แต่เหตุเริ่มต้นเพราะเธอไปเล่าให้กับบิ๊กเกรียนฟังและทราบว่าไม่ได้มีเธอคนเดียวที่เจอเหตุการณ์แบบนี้และไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนขนาดนี้
ในส่วนที่มีการพาดพิงถึงบิ๊กโจ๊กหรือบิ๊ก ม. ม้า ผู้ประกาศได้สอบถามว่ากลัวว่าจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ หนึ่งบางปู ยอมรับว่า ในส่วนนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดเป็นคดีความแต่ต้องพูดถึง เพราะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ตนเองออกมาพูดแบบนี้คนก็จะมองว่าออกมาโชว์โง่แต่ก็ยินดีและถือว่าเป็นบทเรียนกับชีวิตตนเอง และค่อนข้างซับซ้อนเพราะโดนเรื่องกับตัวเองทุกทาง มีคนเดียวที่เข้าข้างคือแม่ และยืนยันว่าที่ออกมาไม่ได้ต้องการอยากดัง เธอไม่ได้เป็นดาราไม่ได้เป็นเน็ตไอดอล และไม่ได้อยากดัง
หลังจากนี้ในส่วนของคดีแม่จะเป็นคนจัดการทั้งหมดเพราะเธอยังอยู่ระหว่างการรักษาและสมองยังไม่ไม่ครบสมบูรณ์กลัวว่าการตัดสินใจจะผิดพลาดทุกสิ่งจะกระทำจะถามคุณแม่ทั้งหมดหากแม่เอาเธอก็จะดำเนินคดีแต่เดี๋ยวจะมีการไปพูดคุยกับคุณแม่อีกครั้งหนึ่งวันนี้ ซึ่งมีการปรึกษาทนายด้วย ระหว่างออกรายการก็มีทนายของเธอดูอยู่ตลอด
เรื่องนี้มองว่าสามารถเยียวยาหรือพูดคุยกันได้ อยากให้ย้อนกลับไปดูในตัวเอง ครอบครัวเจ็บหนักมากแล้วไม่ได้อะไรเลยสูญเสียทุกอย่างแต่ได้ผู้ป่วยหนึ่งคนกับอาการป่วยที่สมองไม่ครบ 100% กลับมาดูแล