รวบแล้ว! คนฆ่าชายวัย 64 ทิ้งศพในสระน้ำ ที่แท้คือพระสำนักสงฆ์ใกล้ที่เกิดเหตุ

รวบแล้ว! คนฆ่าชายวัย 64 ทิ้งศพในสระน้ำ ที่แท้คือพระสำนักสงฆ์ใกล้ที่เกิดเหตุ

168018 มิ.ย. 67 16:58   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ฆาตกรคือพระ! รวบมือฆ่าชายวัย 64 ทิ้งศพในสระน้ำ ที่แท้คือพระสำนักสงฆ์ใกล้ที่เกิดเหตุ อ้างผู้ตายรบเร้าขออาหารหลังบิณฑบาตทั้งที่พระยังไม่ได้ฉัน จึงทะเลาะก่อนใช้ช้อนกระหน่ำแทงดับ

วันที่ 18 มิ.ย.67 จากกรณีที่นายศุภพงศ์ (สงวนนามสกุล) ชาว อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ได้หายออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา ซึ่งทางภรรยาพร้อมพร้อมญาติได้ออกค้นหาตลอดทั้งวัน ทุกที่คิดว่าสามีเคยไปอยู่เป็นประจำ เช่นโบราณสถานถ้ำเขาปีบ ซึ่งมีพระจำพรรษาอยู่ 2 รูป และทั้งคู่อ้างว่าไม่พบหน้าโยมศุภพงศ์เช่นกัน กระทั่งเช้าของวันที่ 15 มิ.ย.67 ได้มีชาวบ้านมาพบเป็นศพ ถูกทำร้ายด้วยของเเข็ง ทงเข้าที่ใบหน้า และศีรษะหลายแผล ลอยน้ำอยู่ในสระน้ำหน้าสวนปาล์มของชาวบ้าน เยื้องกับโบราณสถานฯ เพียง 200 เมตร โดยมีรางรถไฟกั้นกลาง


ล่าสุด จากการลงพื้นที่ของ ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 8 และตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทุ่งตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ได้สอบปากคำพระทั้ง 2 รูป ซึ่งเป็นพ่อลูกกัน พร้อมนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาเปรียบเทียบ พบว่าที่เคยให้การขัดกับข้อเท็จจริง โดยพบว่า วันเกิดเหตุในช่วงเช้า พระหัด ผู้เป็นพ่อเดินนำหน้า โดยมีพระสุนย์ทร (ลูก) เดินตามหลังห่างกันเพียง 4 นาที

แต่ขากลับ พบว่า พระสุนย์ทร ได้เดินกลับเพียงลำพัง โดยพระหัด ผู้เป็นพ่อ เดินตามมาห่างกันนานกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งทั้งคู่ยังยืนยันว่า ห่างกันเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงได้นิมนต์เฉพาะพระสุนย์ทร มาสอบปากคำอีกครั้งที่ สภ.ทุ่งตะโก เพื่อเค้นหาข้อมูล เพราะเป็นช่วงที่นายศุภพงศ์หายตัวไป ประกอบพบว่า บริเวณไหล่ขวาของพระสุนย์ทร มีร่องรอยขีดข่วนแนวยาว ซึ่งขัดกับคำกล่าวอ้างของพระสุนย์ทร ที่บอกว่ายุงกัด


       

ตำรวจ ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงในการเค้นสอบปากคำ กระทั่งพระสุนย์ทร ยอมเปิดปาก ว่าหลังจากที่กลับจากบิณฑบาตมาที่สำนัก ก็พบนายศุภพงศ์ มานั่งรอที่จะเอาอาหารจากตน ทั้งที่ตนเพิ่งมาถึงและยังไม่ได้ฉันอาหารเลย จึงเกิดการทะเลาะกัน ถึงขั้นลงไม้ลงมือ และตนได้ก็ใช้ช้อนสั้นเป็นอาวุธในการแทงนายศุภพงศ์ ซึ่งพระสุนย์ทร บอกเพียงว่า ทะเลาะและทำร้ายกันบริเวณศาลาที่สำนัก ส่วนศพและรองเท้า ไปอยู่จุดอื่นรวมทั้งศพไปอยู่ในสระนั้นตนไม่รู้ เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวไปทำลาสิกขา และรอการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจาก พระสุนย์ทร หรือนายสุนทร เริ่มมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด 



ด้านพระหัด ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า พระลูกชายสุขภาพไม่ดี เคยผ่าสมองตั้งแต่ยังเด็ก ด้วยสาเหตุจากอุบัติเหตุ และตนไม่รู้เลยว่า พระลูกจะมาก่อเหตุดังกล่าวได้ หากวันนั้นตนกลับมาพร้อมกัน เรื่องก็คงไม่เกิดแน่นอน เพราะพอจะห้ามปราบได้ ซึ่งเชื่อว่า พระลูกคงคุมอารมณ์ไม่ได้ เนื่องจาก เป็นคนอ่อนไหว โมโหร้าย และบางครั้งก็จะนิ่งเงียบ

ส่วนเรื่องคดีความ ปล่อยไปตามกฎหมาย ใครทำอะไรก็ได้เช่นนั้น ส่วนตนนั้นหลังจากนี้ ก็จะเดินทางไป จ.อุดรธานี บ้านเกิด เพื่อจะจัดการเรื่องที่ทาง เพื่อเก็บที่ดินส่วนหนึ่งไว้ให้กับนายสุนทร หลังจากที่พ้นคดีไว้ทำกินต่อไป

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง