สุดเศร้า รับร่างไรเดอร์ ลูกสาวร่ำไห้ เผยพ่อเป็นเสาหลักของครอบครัว พ่อคือโลกทั้งใบของหนู

สุดเศร้า รับร่างไรเดอร์ ลูกสาวร่ำไห้ เผยพ่อเป็นเสาหลักของครอบครัว พ่อคือโลกทั้งใบของหนู

81322 ม.ค. 68 17:07   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

สุดเศร้า รับร่างไรเดอร์ ลูกสาวร่ำไห้ เผยพ่อเป็นเสาหลักของครอบครัว พ่อคือโลกทั้งใบของหนู ยังไม่สามารถให้อภัยผู้ก่อเหตุได้ ยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ด้านผู้ต้องหา ศาลให้ประกันตัว 6 แสนบาท พร้อมติดกำไล EM และห้ามออกนอกประเทศ

(22 ม.ค.68) จากกรณีไรเดอร์ถูกชายชาวต่างชาติขับรถพุ่งชนอัดเสาไฟดับ บรรยากาศที่วัดคลองเตยใน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ครอบครัวได้นำร่างของฤทธิศักดิ์ จากนิติเวชโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มายังด้านในศาลา เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา โดยนางสาวสายใจ ภรรยาของผู้เสียชีวิต ได้พูดคุยร่างของสามีว่า "ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว ลูกหนูดูเอง ไม่ต้องห่วงแล้ว หนูดูได้ แค่นี้พี่ฤทธิ์ก็ทำให้หนูเยอะแล้ว" โดยระหว่างที่นำร่างของผู้เสียชีวิตเข้ามายังศาลาวัด นางสาวสายใจภรรยาของผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ในอาการโศกเศร้าอยู่ตลอดเวลา ด้านนางสาวพั้นช์ อายุ 19 ปี ลูกสาวของนายฤทธิศักดิ์ ผู้เสียชีวิต ได้เข้าไปจับมือของพ่อ พร้อมกับร้องไห้ออกมาอย่างหนัก



โดยนางสาวพั้นช์ ลูกสาววัย19ปี เล่าทั้งน้ำตาว่า อยากให้พ่อได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรุนแรงมากๆ ตนยังทำใจไม่ได้ และตนอยากบอกพ่อว่า ตนจะดูแลแม่กับน้องให้ ไม่ต้องเป็นห่วง และขอให้พ่อพักผ่อนให้สบาย ส่วนคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนยังไม่กล้าแม้แต่จะเปิดโทรศัพท์ดูเพราะเสียใจมาก ๆ 


เนื่องจากพ่อเป็นเสาหลักของครอบครัว และตนอยากให้ผู้ก่อเหตุคิดกลับกันว่าถ้าในอนาคตตัวเองมีลูกบ้าง และมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น จะไม่สงสารลูกบ้างหรือ ส่วนตอนนี้ตนยังไม่สามารถให้อภัยผู้ก่อเหตุได้ เพราะพ่อคือโลกทั้งใบของตน ขณะที่ตนทราบเรื่องตนก็กำลังเรียนอยู่ เหมือนกับโลกทั้งใบของตนถล่มลงมาตรงหน้า เพราะในตอนเช้าก่อนเกิดเหตุ พ่อของตนเพิ่งให้เงินกับตนไปโรงเรียนอยู่เลย พร้อมกับบอกให้ตั้งใจเรียน อีกทั้งพ่อยังได้สอบถามเรื่องที่ตนจะเข้ามหาวิทยาลัย เพราะพ่อยอมเหนื่อย ยอมทำงานหนักเพื่อให้ลูกทุกคนสบาย ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนแต่ลูกต้องสบายทุกคนต้องได้เรียนหนังสือ พ่อไม่อยากให้ตนอายใครที่มีน้อยกว่าคนอื่น และพ่อก็ไม่เคยทำให้ตนรู้สึกขาดเลย พ่อเป็นคนที่ไม่ว่าตนอยากใช้ชีวิตแบบไหน พ่อสนับสนุนตนเสมอ แค่บอก เดี๋ยวตังค์พ่อจัดให้ได้ 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ระทึกกลางกรุง! ไรเดอร์มีปากเสียงกับเก๋ง ก่อนถูกชกและโดนไล่ชนอัดเสาไฟดับ


จากนั้นนางสาวสายใจ ได้นำรูปของนายฤทธิศักดิ์ สามีที่เสียชีวิต เข้าไปตั้งหน้าหน้าโลงศพ พร้อมกับมองรูปด้วยสลดใจ พร้อมกับนำมือไปลูบรูปของสามีตัวเอง เช่นเดียวกับลูกสาวทั้ง 4 คน


นางสาวพัทธิกา ลูกสาวคนโตของนายฤทธิศักดิ์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ครอบครัวของคู่กรณีได้มีการติดต่อขอโทษและแจ้งว่าจะเข้ามาขอขมาศพคุณพ่อ ซึ่งตนก็ยินดีที่จะให้เข้ามาเพราะครอบครัวของคู่กรณีไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ ส่วนคู่กรณีถ้าอยากจะเข้ามาขอขมาศพ ตนก็ยินดี แต่ตนคาดว่าคู่กรณีไม่น่าจะเข้ามาเพราะมีกลุ่มไรเดอร์และมีสื่อมวลชนอยู่ที่งานศพเยอะ เพราะก่อนหน้านี้ครอบครัวของคู่กรณีได้มีการแจ้งว่าจะไปรับศพที่ นิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ด้วย แต่พอตนบอกว่ามีสื่อมวลชนอยู่เยอะอีกฝั่งก็ไม่กล้ามา


ครอบครัวของคู่กรณีได้มีการรับปากว่าจะเยียวยาชดใช้อย่างสุดความสามารถ ทั้งค่าจัดงานศพ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ซึ่งในวันนี้ก็ได้มีการโอนเงินในเบื้องต้นมาแล้ว 30,000 บาท 


ลูกสาวของผู้เสียชีวิตได้ฝากบอกคู่กรณีว่า กล้าทำก็อยากให้ค่ารับผิดชอบ ทุกคนเห็นหมดว่าเกิดอะไรขึ้น ยืนยันว่าจะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนตอนนี้ยังไม่พบว่ามีครอบครัวคู่กรณีมาร่วมพิธีแต่อย่างใด มีเพียงแต่ส่งพวงหรีดแสดงความเสียใจมาเท่านั้น


ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่าศาลอาญากรุงเทพใต้พิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมให้ติดกำไล EM โดยให้ทำสัญญาประกัน หากผิดสัญญาให้ปรับเป็นเงิน 600,000 บาท โดยศาลได้กำหนดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลด้วย


นางสาวสายใจ ภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยภายหลังทราบข่าวศาลอนุญาตให้ประกันตัวนายเสรี ผู้ก่อเหตุ ว่า “ถ้าเป็นที่ศาลพิจารณาออกมาแล้ว เราก็แย้งอะไรไม่ได้ ขนาดเรายื่นค้านประกันไปแล้ว เราจะไปสู้อะไรได้” ยอมรับว่าตัวเองมีความกังวลใจแน่นอน เพราะแค่นี้ก็รู้แล้วว่าคนมีเงินมันยิ่งใหญ่อยู่แล้ว ก็กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมและกลัวว่าคดีมันจะเปลี่ยนไปหมด เขาได้ประกันตัวออกมาแล้ว คงเดินลอยหน้าลอยตาแล้วป่านนี้ 



ภรรยาของผู้เสียชีวิต ยังยืนยันว่า เธอจะสู้ให้ถึงที่สุด แม้จะไม่มีทนาย ไม่มีเงิน ต้องดิ้นรน แต่เชื่อว่าถ้ามีสื่อช่วยนำเสนอข่าว ก็จะได้รับความยุติธรรม โดยเขาเองมีทุกอย่างที่จะสู้ แต่ถ้ามองเรื่องของความเป็นมนุษย์ เขาทำผิดแล้วสำนึกผิด จะมารดน้ำศพ เราก็จะปล่อยให้เขาเข้ามาได้ แต่ในใจเธอไม่ขออโหสิกรรมให้ 


เบื้องต้นมีเพียงพ่อผู้ก่อเหตุที่ประสานเข้ามาช่วยเหลือ ตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้พูดอะไร ซึ่งเธอมองว่าเจ้าตัวควรรับผิดชอบเอง ไม่ใช่ให้พ่อมารับผิดชอบแทน ส่วนถ้าคู่กรณีมา ก็จะคุยกับกลุ่มไรเดอร์ ขอความร่วมมือไม่อยากให้มีเรื่องความรุนแรงเกิดขึ้นในงาน สามีเธอก็ได้เสียไปแล้ว อยากให้เขาไปสบาย

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง