รวบแก๊งตุ๋นข้าราชการเกษียณ อ้างแจกเงินแล้วลวงสแกนใบหน้า สุดท้ายเงินหาย 2 ล้านกว่าบาท

รวบแก๊งตุ๋นข้าราชการเกษียณ อ้างแจกเงินแล้วลวงสแกนใบหน้า สุดท้ายเงินหาย 2 ล้านกว่าบาท

46820 ธ.ค. 67 16:43   |     Tum1

ตำรวจไซเบอร์รวบแก๊งตุ๋นข้าราชการวัยเกษียณ อ้างแจกเงินก่อนลวงให้สแกนใบหน้า สุดท้ายโดนดูดเงินหาย 2 ล้านกว่าบาท

(20 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 นำโดย พ.ต.ท.สมพร บุตรวงศ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 เข้าจับกุมตัว น.ส.เด่นณภา (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 1 ต.ลมศักดิ์ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ตามหมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ 226/2567 ลงวันที่ 12 ก.ย.67 ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป , ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นฯ , ร่วมกันทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนฯ” หลังสืบทราบว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีดังกล่าว หลบหนีอยู่ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ


เบื้องต้น น.ส.เด่นณภา ให้การว่า ได้ถูกเพื่อนชักชวนให้รับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร จึงได้เปิดไปจำนวน 6 บัญชี และเพื่อนได้พาเดินทางไปทำงานยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยทำหน้าที่สแกนใบหน้าเพื่อโอนเงินออกจากบัญชี หลังจากที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลวงเหยื่อให้โอนเงินเข้ามายังบัญชีตนแล้ว โดยตลอด 10 วันที่ผู้ต้องหาทำงานอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน ได้มีเงินถูกโอนเข้ามาในบัญชีตนหลายล้านบาท และตนได้ค่าจ้างจำนวน 30,000 บาท เมื่อบัญชีถูกอายัดจึงได้เดินทางกลับประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.3 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


คดีนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 มี.ค.67 เวลาประมาณ 14.00 น. ขณะที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นอดีตข้าราชการที่เกษียณอายุ ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ได้มีมิจฉาชีพโทรศัพท์หาผู้เสียหายโดยอ้างว่า เป็นผู้จัดการธนาคารและจะทำการโอนเงิน ชคบ. จำนวน 83,000 บาท ซึ่งค้างจ่ายอยู่ ให้แก่ผู้เสียหาย ซึ่งผู้เสียหายเองก็ไม่ทราบว่า ชคบ. คืออะไร แต่ก็ได้หลงเชื่อและทำตามขั้นตอนที่มิจฉาชีพแนะนำ

โดยมิจฉาชีพสอบถามเรื่องบัญชีธนาคารกับผู้เสียหาย ว่ามีกี่บัญชี เลขบัญชีอะไรบ้าง ผู้เสียหายจึงแจ้งข้อมูลไป และมิจฉาชีพได้ชวนคุยเรื่องทั่วไป จากนั้น คนร้ายได้ให้ผู้เสียหายแอดไลน์และส่งลิงก์ปลอมของแอปฯกรมบัญชีกลางให้ ผู้เสียหายจึงกดลิงก์และทำตามขั้นตอนที่คนร้ายแนะนำ



ต่อมา มิจฉาชีพได้ส่ง QR Code ให้ผู้เสียหายสแกน และทำการสแกนใบหน้า โดยอ้างว่า เพื่อความสะดวกในการโอนเงินเข้าบัญชี เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนต่างๆ คนร้ายจึงแจ้งผู้เสียหายว่า จะโทรกลับมาหาใหม่ในวันถัดไป

แต่หลังจากวางสาย ผู้เสียหายรู้สึกสงสัยว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่ธนาคารสาขาของบัญชีตนเอง ปรากฎว่า เงินของผู้เสียหายได้ถูกโอนออกจากบัญชีจำนวน 2 บัญชี บัญชีที่ 1 จำนวน 2,000,000 บาท และบัญชีที่ 2 จำนวน 49,999 บาท รวมสูญเงินไปทั้งหมด 2,049,999 บาท จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนในเวลาต่อมา และได้รวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้หลายราย และตำรวจสืบสวนจนนำมาซึ่งการจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ในที่สุด - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง