พี่ชายไล่ฟันน้อง ปมงัดบ้านลักของมีค่านำเงินซื้อยาบ้าเสพ

วันนี้ (12 พ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับภาพจากกล้องวงจรปิดของกู้ภัยตำรวจทางหลวงบ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พบชายคนหนึ่งวิ่งกุมศีรษะ คาดว่าถูกทำร้ายมา ขอความช่วยเหลือจากกู้ภัยฯ บริเวณหน้าสำนักงานกู้ภัยทางหลวงบ้านดุง บ้านไพจาน ต.โพนสูง อ.บ้านดุง โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 17.00 น.วานนี้ (11 พ.ย.67) 

ต่อมา เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยศรีสุทโธ อ.บ้านดุง ได้ออกช่วยเหลือ พบชายดังกล่าว นั่งกุมศีรษะหน้าสำนักงานกู้ภัยทางหลวง บริเวณศีรษะถูกของมีคมฟัน เลือดไหลเต็มใบหน้า และตามตัวมีบาดแผลถูกของมีคมหลายแห่ง กู้ภัยฯ จึงปฐมพยาบาลให้เบื้องต้น ก่อนนำส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชบ้านดุง ให้การช่วยเหลือต่อไป ทราบชื่อคนเจ็บคือนายวุฒจักร หรือ ไวย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาวบ้านบ้านโชคอำนวย ต.โพนสูง อ.บ้านดุง

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.บ้านดุง เจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งว่า เรื่องดังกล่าว ไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงไปยังจุดที่เกิดเหตุอีกครั้ง และหาตัวผู้ก่อเหตุ จากการสอบถามชาวบ้านรู้ว่า จุดที่เกิดเหตุนั้น อยู่ที่ ม.5 บ้านโชคอำนวย ต.โพนสูง อ.บ้านดุง จึงลงพื้นที่ไปที่บ้านหลังหนึ่ง โดยพบกับนายราชิต หรือ หนุ่ม (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นพี่ชายของคนเจ็บ จึงสอบสอบถามถึงสาเหตุที่ทะเลาะกัน

ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง :

• ทำร้ายร่างกาย รับโทษแบบไหน
• บทกำหนดโทษยาเสพติด
• ยาบ้า-ยาเสพติดที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท
• การบำบัดรักษายาเสพติด

นายราชิต กล่าวว่า เมื่อวานตนก็ออกไปรับจ้างเกี่ยวข้าว-สีข้าว พอกลับมาบ้านเห็นบ้านถูกงัด ก็เลยโมโห เพราะน้องชอบงัดบ้านประจำ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว โดยน้องจะงัดบ้านเข้าไปเอาพระเครื่อง และสิ่งของมีค่าไปขาย นำเงินไปซื้อเรื่องเดียว (ยาบ้า) เปลี่ยนแม่กุญแจใหม่ น้องชายคนนี้เข้าบ้านมาก็ทุบพังหมด ตนก็เลยโกรธและทะเลาะกัน โดยไปตีกันอยู่ริมถนนไม่มีใครเห็น ตอนทะเลาะกันน้องชายก็มีมีดปังตอ ส่วนตัวนั้นก็ใช้มีดขอสู้กลับ โดยน้องเป็นคนเอามีดฟันก่อน ตนก็เลยใช้มีดที่อยู่ในมือฟันกลับ ดีที่มีดบังตอของน้องฟันไม่เข้า จึงแค่เป็นแผลลอยถลอกเล็กน้อย ส่วนมีดของตนฟันเข้าที่หัวของน้องชายอย่างจัง ช่วงนั้นชุลมุนทำให้ มีดฟันถูกตามตัวของน้องชายอีกหลายแผล

ตอนนี้น้องหนีไปไหนไม่รู้ แต่หากกลับมาก็จะแจ้งฝ่ายปกครองและตำรวจเข้ามาจับกุมตัว ซึ่งหากน้องชายไปแจ้งความจับตน ยืนยันว่า ตนก็จะแจ้งความจับเช่นกันในข้อหาบุกรุกบ้าน

ขณะที่นางเบญญาภา (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี แม่ของผู้บาดเจ็บและผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อคืนหลังจากลูกชายคนเล็กออกจากโรงพยาบาล ก็กลับมาบ้านเก็บของแล้วก็ออกไป จนป่านนี้ยังไม่กลับมาอีกเลย ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน ส่วนลูกชายคนโต นั้นหลังก่อเหตุก็อยู่ที่บ้าน ไม่ได้หลบหนีไปไหน ตนในฐานะแม่ก็ไม่ได้เอาเรื่องนี้ไปแจ้งความและไม่เอาเรื่อง ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นก็ไม่ได้ไปแจ้งความเช่นกัน 

สำหรับนิสัยคนบาดเจ็บ เป็นน้องของคนก่อเหตุ บอกตรงๆว่า เป็นคนที่ไม่เอาการเอางาน มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทำงานรับจ้างได้เงินมาเท่าไหร่ก็เอาไปใช้จ่ายแต่เรื่องเดียว ส่วนคนพี่ที่ก่อเหตุ เป็นคนใจร้อนวู่วาม แต่เป็นคนขยันทำงาน เป็นเสาหลักให้ตนได้พึ่งพา

ส่วนตัวก็เสียใจที่ลูกทั้งสองคนมาทะเลาะวิวาทกัน แม่เป็นคนกลางไม่รู้จะวางตัวทำตัวอย่างไร คนน้องก็ชอบขโมย พี่วู่วามโมโหง่าย เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นในฐานะแม่ก็ไม่อยากให้เป็นคดีขึ้นโรงขึ้นศาล ยังไงก็ลูก จะชั่วจะดีก็ลูกทั้งสองคน แต่ไม่รับประกันว่าอนาคตจะรุนแนง ถึงขั้นฆ่ากันตายไหม เพราะครั้งนี้ถือว่าหนักสุด