โบสถ์สเตนเลส"วัดพระธาตุน้อย"แห่งแรกในภาคอีสาน

(19ส.ค.67) ที่ จ.นครพนม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลายเป็นที่ตื่นตาตื่นใจ สร้างความสวยงามศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น สำหรับวัดพระธาตุน้อย ศรีบุญเรือง ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม หรือชาวบ้านเรียกว่า "วัดพระธาตุน้อย" ถือเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์โบราณ ก่อตั้งขึ้นในยุคการก่อสร้างองค์พระธาตุพนม อายุกว่า 2,500 ปี เกิดจากการรวบรวมเอาวัตถุโบราณ สิ่งของมีค่า สิ่งก่อสร้าง ของพลังศรัทธาที่จะนำไปร่วมสร้างองค์พระธาตุพนม พอทราบข่าวมีการก่อสร้างแล้วเสร็จจึงรวบรวมไว้ในวัดแห่งนี้ และชาวบ้านได้ร่วมสร้างองค์พระธาตุน้อยศรีบุญเรืองขึ้น ตั้งแต่ปี 2469 จากนั้นได้พังทลายตามอายุ จึงมีพลังศรัทธาบูรณะเรื่อยมา และก่อสร้างองค์พระธาตุน้อยศรีบุญเรืององค์ใหม่ขึ้น เมื่อปี 2559 แล้วเสร็จเมื่อปี 2563 รูปแบบเป็นการจำลองแบบองค์พระธาตุพนม จึงได้ชื่อว่า "วัดพระธาตุน้อย" ส่วนซากปรักหักพังพระธาตุองค์เดิม ยังคงอยู่ โดยกรมศิลปากร ได้ขึ้นทะเบียน เป็นโบราณสถาน เมื่อปี 2526 

ล่าสุด ทางด้าน ท่านพระครู วินัยธร วิวัฒน์ ญาณวฑฺฒโน อายุ 36 ปี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุน้อยศรีบุญเรือง ได้ร่วมกับพลังศรัทธา มีการพัฒนาบูรณะอุโบสถหลังเดิม ที่มีอายุเก่าแก่ก่อสร้างมาไม่ต่ำกว่า 80 ปี เพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์ สวยงามมากยิ่งขึ้น โดยเกิดไอเดียว่าจ้างช่างฝีมือจัดสร้างโบสถ์ ตกแต่งด้วยงานสเตนเลสทั้งหลัง เน้นความสวยงาม วิจิตรตระการตา ตั้งแต่ฐานราก หน้าบัน ลายพญานาค ไปจนถึงหลังคา ที่มีการตกแต่งด้วยลวดลายกนก รวมถึงลายพญานาค ที่เกิดจากการขึ้นรูปงานตอกดุน เป็นลวดลายนูนต่ำ เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง ส่วนภายในมีการตกแต่งด้วยสเตนเลสทั้งหลัง พร้อมประดิษฐานพระพุทธรูป ปางสมาธิไว้ภายใน ตั้งเป้าใช้งบประมาณก่อสร้าง รวม 30 ล้านบาท ปัจจุบันการก่อสร้าง คืบหน้าประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ โดยออกแบบภายในจะมีการตกแต่งลวดลาย ตอกดุน เป็นพุทธประวัติ และความเป็นมาตำนานองค์พระธาตุพนม ทั้งหลัง รอรวบรวมพลังศรัทธา บริจาคสมทบทุน จนกว่าจะแล้วเสร็จ

ทั้งนี้ ท่านพระครู วินัยธร เปิดเผยว่า สำหรับ วัดพระธาตุน้อยศรีบุญเรือง ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ถือเป็นวัดโบราณสำคัญ ก่อตั้งในยุคเดียวกันกับองค์พระธาตุพนม อายุเก่าแก่กว่า 2,500 ปี นอกจากมีร่องรอยประวัติศาสตร์ องค์พระธาตุน้อย องค์เดิม รวมถึงองค์พระธาตุน้อยศรีบุญเรืององค์ใหม่ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์สวยงาม ตั้งอยู่เส้นทางเดียวกันกับทางไปนมัสการองค์พระธาตุพนม 

ท่านพระครู วินัยธร บอกอีกว่า จึงมีแนวคิดพัฒนาก่อสร้างโบสถ์ จากศิลปะล้านช้างงานตอกดุนสเตนเลส เป็นงานฝีมือทุกชิ้น เพราะต้องการสร้างความตื่นตา เป็นที่สนใจของพลังศรัทธา สายบุญ ให้ความสนใจมาท่องเที่ยวทำบุญมากขึ้น และจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมะ เชื่อว่าเป็นโบสถ์สเตนเลสแห่งแรกของอีสาน 

ท่านพระครู วินัยธร บอกด้วยว่า ปัจจุบันมีการสมทบทุนสร้างได้ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ มูลค่าราว 10 ล้านบาท เหลือตกแต่งลวดลายภายใน ทั้งหลัง ส่วนใหญ่จะเน้นภาพลวดลายพุทธประวัติ ตำนานพระธาตุพนม คาดว่าจะใช้ปัจจัยสร้างไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท 

"ฝากเชิญชวนพุทธศาสนิกชน สายบุญสายศรัทธา มาท่องเที่ยว ร่วมทำบุญเสริมบารมี ส่วนหนึ่งเชื่อว่าจะเป็นการดึงดูดให้ประชาชน นักท่องเที่ยว เข้าวัดทำบุญมากขึ้น" ท่านพระครู วินัยธร กล่าว