บุกช่วย 3 ชาวอินเดีย เหยื่ออุ้มรีดค่าไถ่ 2.5 ล้านรูปี รวบ 6 ผู้ต้องหาชาวอินเดีย-ปากีสถาน

บุกช่วย 3 ชาวอินเดีย เหยื่ออุ้มรีดค่าไถ่ 2.5 ล้านรูปี รวบ 6 ผู้ต้องหาชาวอินเดีย-ปากีสถาน

62918 เม.ย. 68 19:13   |     Tum1

สืบนครบาล บุกช่วย 3 ชาวอินเดีย เหยื่อเพื่อนร่วมชาติอุ้มรีดค่าไถ่ 2.5 ล้านรูปี ตามรวบ 7 ผู้ต้องหาชาวอินเดีย-ปากีสถาน ออกอุบายเป็นนายหน้าจัดหางาน

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 18 เม.ย.68 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. , พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 , พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6 และ พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผกก.สน.ยานนาวา นำกำลังชุดสืบสวนนครบาล เข้าช่วยเหลือชายชาวอินเดีย ซึ่งตกเป็นเหยื่อโดนเพื่อนร่วมชาติจับเรียกค่าไถ่ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย 

  1. นายอมันดีฟ อายุ 26 ปี (Amandeep ) 
  2. นายราเมช อายุ 47 ปี (Ramesh )
  3. นายวิปุลคูมาร์ ( Vipulkumar ) 


โดยทั้ง 3 คน อยู่ในสภาพถูกมัดมือมัดเท้า หลังถูกอุ้มเรียกค่าไถ่ 2.5 ล้านรูปี คิดเป็นเงินไทย ประมาณกว่า 9 แสนบาท และเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 ราย คือ นายซันดู ดีป อายุ 31 ปี (Mr.SANDHU DEEP) สัญชาติอินเดีย พร้อมพวกอีก 6 คน (อินเดีย 5 ปากีสถาน 1 ) ได้ที่เซฟเฮ้าท์หลังหนึ่งในซอยสันติคราม 8 สุขุมวิท 109 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ต่อเนื่องห้องพัก ในคอนโดมิเนียม อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งผู้ต้องหาออกอุบายหลอกเหยื่อชาวอินเดียว่าเป็นนายหน้าจัดหางาน ก่อนก่อเหตุจับเรียกค่าไถ่ดังกล่าว



สืบเนื่องจาก เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 14 เม.ย.68 ร.ต.ท.อัครวิชญ์ นวลตา รอง สว.(สอบสวน) สน.ยานนาวา รับแจ้งจากนายซันจีฟ คูมาร์ (Mr.Sanjeev Kumar) อายุ 27 ปี สัญชาติอินเดีย ว่าเมื่อวันที่ 5 เม.ย.68 ตนเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยกับเพื่อน 2 คน คือ นายราเมศ และนายอมันดีป ทั้งหมดสัญชาติอินเดีย ซึ่งพวตนได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในซอยสาทร 10 แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. และเมื่อวันที่ 11 เม.ย.68 ได้เปลี่ยนที่พักมาอยู่ที่โรงแรมอีกแห่ง ถนนสีลม โดยเมื่อวันที่ 14 เม.ย.68 เวลาประมาณ 18.00 – 19.00 น. นายราเมศ และนายอมันดีป ได้ออกจากโรงแรมโดยมีชายชาวอินเดีย 1 คน เรียกรถแท็กซี่ให้ไปรับทั้งคู่ที่โรงแรม แต่ไม่ได้พาไปขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางไปประเทศเวียดนาม แต่กลับพาไปที่เซฟเฮาส์ซึ่งเป็นบ้านหลังหนึ่ง ในซอยสันติคราม 8 


กระทั่ง วันที่ 16 เม.ย.68 นางฮาร์มัน (HARMAN) น้องสาวของนายราเมศ ได้ติดต่อผ่าน WhatsApp แจ้งต่อนายซันจีป ว่าได้รับการติดต่อจากบุคคลชื่อ ซันดู (Mr.SANDHU DEEP) โดยอ้างว่าควบคุมตัวนายราเมศและนายอมันดีปไว้ และเรียกร้องเงินค่าไถ่จำนวน 2,500,000 รูปี พร้อมทั้งข่มขู่จะทำอันตรายหากไม่ดำเนินการตาม โดยนายซันจีป ให้ข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ของนายซันดู ผู้ก่อเหตุ ที่ใช้ในการติดต่อ และได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา 


ต่อมา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ ผบก.สส.บช.น.นำกำลังฝ่ายสืบสวนนครบาล 6 , สืบสวนนครบาล และ ตม.จว.ชลบุรี ร่วมกันติดตามเบาะแสมา จนสามารถจับกุมนายซันดู ดีป (Mr.Sandu Deep) สัญชาติอินเดีย ตัวการที่โทรไปขู่เรียกเงินญาติของผู้เสียหาย ได้ที่ ห้องพักคอนโดมิเนียม จ.ชลบุรี ตรวจสอบพบหลักฐานจากโทรศัพท์ ติดต่อใช้ WhatsApp โทรฯ ติดต่อไปหาญาติและผู้เสียหายจริง และสอบสวนจนทราบว่า นำผู้เสียหายไปกักขังย่านสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่จึงสามารถช่วยเหลือผู้เสียหายออกมาได้ 3 ราย ขณะถูกมัดมือ เท้า แบ่งเป็นผู้เสียหาย สน.ยานนาวา 2 ราย และอีก 1 ราย ถูกหลอกมาจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 

ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้เสียหายเล่าว่า ผู้ก่อเหตุได้มีการขู่ตัดอวัยวะ และทุบตีด้วยไม้พันเทปตามร่างกาย เพื่อติดต่อญาติให้โอนเงินค่าไถ่ให้



ด้านนายวิรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี คนขับแท็กซี่ที่เคยรับผู้ก่อเหตุและผู้เสียหาย ไปส่งที่บ้านเซฟเฮาส์ที่กักขังผู้เสียหาย เล่าว่า วันเกิดเหตุมีชายชาวอินเดีย 1 คน โบกรถให้ตนเองจอดรับ โดยบอกว่าให้รอสักครู่ เพราะจะมีเพื่อนลงมาแล้วเดินทางไปด้วยกัน จากนั้น ก็มีชายชาวอินเดียอีก 2 คนพร้อมกระเป๋าเดินทาง เดินลงมาจากโรงแรม ขึ้นรถของตนเองบอกให้ไปส่งภายในซอยสุขุมวิท 109

ระหว่างทางชายชาวอินเดียทั้ง 3 ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดทาง ซึ่งตนเองก็ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง เพราะพูดภาษาอังกฤษสำเนียงอินเดีย แต่ไม่ได้มีการขู่บังคับ หรือใช้น้ำเสียงพูดจาที่รุนแรงต่อกันแต่อย่างใด เมื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง ชายชาวอินเดียทั้ง 3 คน ก็เดินเข้าบ้านไป โดยไม่มีการบังคับหรือมีพิรุธแต่อย่างใด



เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุทั้งหมด ในข้อหา "ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวและร่วมกันพยายามเรียกค่าไถ่" นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat