หนุ่มผู้เสียหายรู้สึกผิดเสียรู้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกสูญเงินกว่า 2 แสนบาท

หนุ่มผู้เสียหายรู้สึกผิดเสียรู้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกสูญเงินกว่า 2 แสนบาท

48817 ก.ย. 67 13:47   |     AdminNews

คอลเซ็นเตอร์นรก! อ้างเป็นตำรวจลวงหนุ่มออทิสติก สูญเงินกว่า 2 แสนบาท ญาติรับกังวลเหยื่อป่วยซึมเศร้า

จากกรณีมีชายคนหนึ่งได้มีการร้องเรียนผู้สื่อข่าวภายหลัง ลูกชาย อายุ 27 ปี ป่วยเป็นออทิสติกและมีภาวะซึมเศร้าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกสูญเงินไป 2 แสนกว่าบาท โดยอ้างว่ามีพัสดุสิ่งผิดกฎหมายให้ติดต่อพูดคุยผ่านวิดีโอคอล ก่อนจะสูญเงินไปนั้น 


ล่าสุด วันที่ 17 ก.ย. 67 ทีมข่าวได้เดินทางมาที่บริษัทแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ บริเวณ หมู่ 3 ซอยประชาอุทิศ 90 ตำบล บ้านคลองสวน อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เพื่อพบกับ นายวสุพล จันทร์พวง อายุ 53 ปี พ่อของผู้เสียหาย เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) เวลาประมาณ 11.00 น. ทางลูกชายได้เดินมาขอรหัสธนาคารบัญชี 4 ตัวของคุณตา ซึ่ง ณ ตอนนั้นคุณตารู้สึกเอะใจ จึงพยายามสอบถามหลานชายว่า เหตุใดต้องมาขอรหัสธนาคาร ซึ่งทางหลานชายได้มีการพูดประมาณว่า

“มีเจ้าที่ตำรวจ สภ.ภูเก็ตได้ให้มาขอเลขรหัสธนาคาร 4 ตัวของคุณตาด้วย” 

ด้วยความสงสัยคุณตาจึงเดินมาสอบถามตนในขณะที่ตนนั่งทำงานในออฟฟิตถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่ง ณ ตอนนั้น หลังจากที่ตนทราบเรื่องราวทั้งหมดจึงคาดว่า กลุ่มดังกล่าวน่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์จึงโทรศัพท์ไประงับธนาคาร แต่ไม่ทัน เงินจำนวนหลักแสนถูกดูดออกไปหมดแล้ว 


จากการสอบถามลูกชายตนจึงทราบว่า ก่อนเกิดเหตุแก๊งกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ได้มีการโทรศัพท์ และได้มีการแอด LINE และวิดิโอคอลมาพูดคุยกับลูกชายโดยอ้างว่า เป็นเจ้าที่ตำรวจ สภ.ภูเก็ต พร้อมแสดงเอกสารซึ่งมีสัญลักษณ์ตราครุฑว่า มีผู้แอบอ้างชื่อลูกชายไปส่งพัสดุที่ผิดกฎหมาย จึงจำเป็นต้องขออายัดบัญชีเพื่อตรวจสอบทางการเงิน ซึ่งทางลูกชายด้วยความที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงมีการให้ข้อมูลและรหัสธนาคารไป ก่อนเงินในบัญชีจะถูกดูดออกไปทั้งหมด เป็นจำนวนเงิน 238,000 บาท (ถอด 3 ครั้ง) ซึ่งเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตของลูกชายตน

ในขณะที่ลูกชายวิดีโอคอลพูดคุยกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น ลูกชายสังเกตเห็นว่า ฉากด้านหลังของมิจฉาชีพ ระบุว่า เป็นสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต จึงทำให้ลูกชายไม่ได้เอะใจ แต่อย่างใดคิดว่าเป็นตำรวจจริง  


หลังเกิดเหตุตนได้มีการไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรบ้านคลองสวน ซึ่งทางเจ้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งกับตนประมาณว่า คดีนี้อาจจะติดตามยาก เพราะว่าทางตัวบัญชีม้า เขาไม่สามารถอายัดบัญชีได้ทัน แต่มีการชี้แนะมาตราป้องกันเบื้องต้น คือ ให้ลูกชายตนลบล้างข้อมูลในเครื่องโทรศัพท์ทั้งหมด เพราะถ้าหากอนาคตภายหน้ามีการทำธุระกรรมผ่านทางโทรศัพท์นั้นกลุ่มมิจฉาชีพ สามารถที่จะลิ้งค์ข้อมูลมายังโทรศัพท์ได้ ลูกชายจึงตัดสินใจลบข้อมูลทิ้งทั้งหมดภายหลังส่งหลักฐานให้กับทางเจ้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะพาลูกชายไปที่ธนาคาร เพื่อทำการปิดบัญชีเก่า แล้วเปิดบัญชีบัญชี

นายวสุพล จันทร์พวง - พ่อของผู้เสียหาย 

นายวสุพล เผยต่อว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลูกชายรู้สึกเครียดอย่างเห็นได้ชัด กินข้าวแทบไม่ได้ซึ่งปกติลูกชายก็เป็นคนที่มีความเครียดมากอยู่แล้ว พอมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ลูกชายยิ่งมีภาวะเครียดอย่างหนัก ซึ่งตนก็เข้าใจเพราะลูกชายมีภาวะเป็นโรคซึมเศร้า โดยทางครอบครัวก็ได้แต่ให้กำลังใจ ถึงแม้ว่า ทางครอบครัวเองก็จะมีความเครียดไม่น้อยก็ตาม 


หลังเกิดเหตุตนได้มีโอกาสสอบถามไปยังเจ้าที่ตำรวจสถานีภูธรเมืองภูเก็ตเพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยทางเจ้าที่ตำรวจยืนยันว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหาลูกชายตนแต่อย่างใด และการทำงานของทางเจ้าที่ตำรวจจะไม่มีการโทรหาเหยื่อแต่อย่างใด จะ มีการรวบรวมข้อมูลและออกหมายเรียก ไม่มีการโทรศัพท์ตรวจสอบขอเลขบัญชีแต่อย่างใด 


ในส่วนของด้านคดี เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านคลองสวนได้ทำหนังสือตรวจสอบไปยังธนาคาร เพื่ออายัดบัญชี พร้อมทำเรื่องขอข้อมูลบัญชีปลายทางที่มีการให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ว่า บุคคลนั้นเป็นใคร ชื่ออะไร ส่วนจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตัวจริงหรือไม่นั้นก็ต้องมีการตรวจสอบ


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง