แม่เฒ่าโดนหลอกทำงานแม่บ้านที่ปอยเปต ที่แท้ให้เปิดบัญชีม้า
แม่เฒ่าโดนหลอกทำงานแม่บ้านที่ปอยเปต ที่แท้ให้เปิดบัญชีม้า
แม่เฒ่า 74 โดนหลอกทำงานแม่บ้านที่ปอยเปต ที่แท้ให้เปิดบัญชีม้า อยู่กัมพูชา 10 วันกลับมาเจอหมายศาล สุดท้ายติดคุก
(17 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้เสียหาย เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด หลังนางนภา (สงวนนามสกุล) อายุ 74 ปี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก โดยชวนไปทำงานเป็นแม่บ้านที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา หวังจะนำเงินมาช่วยเหลือดูแลสามีพิการ ที่นอนป่วยติดเตียง แต่สุดท้ายถูกบังคับไปเปิดบัญชีม้า ต้องใช้ชีวิตอยู่กว่า 10 วัน ก่อนจะถูกปล่อยตัวกลับมา แต่มีหมายจับ 4 หมาย ติดตัวกลับมาด้วย ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” ซึ่งปัจจุบันยายวัย 74 ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ
โดย น.ส.เจนิสตา (สงวนนามสกุล) หลานสาวของยายนภา ให้ข้อมูลว่า ปกติยายทำงานเป็นแม่บ้านดูแลคนป่วย กระทั่งคนที่ดูแลเสียชีวิต นายจ้างจึงให้มาทำความสะอาดที่บ้าน ระหว่างรองานใหม่ จนมีคนที่อาศัยอยู่แถวบ้าน มาชักชวนไปทำงานเป็นแม่บ้านที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา บอกว่าได้เงินดี ยายก็หลงเชื่อ แม้ตัวเองพยายามห้ามแล้ว แต่ยายไม่ฟัง เพราะยายบอกว่า อยากมีรายได้มาดูแลตาที่ป่วยติดเตียง กระทั่งตัดสินใจเดินทางไปประเทศกัมพูชา ซึ่งคนที่พาไปมารับจากบ้าน มุ่งหน้าไปที่ จ.สระแก้ว และพาเดินเลาะตามเส้นทางธรรมชาติจนข้ามไปกัมพูชาได้
ปรากฏว่า เมื่อไปถึง งานที่ไปทำกลับไม่ใช่แม่บ้าน แต่ถูกให้ไปรวมอยู่กับคนไทยอีกกว่า 1,000 คน ในห้องโถงใหญ่ ที่มีทั้งเด็กผู้หญิงและคนชรา กินนอนเบียดกันภายในห้องนี้ ก่อนจะมีคนดูแลซึ่งคนที่นั่นเรียกกันว่า "เจ๊" ซึ่งมีสามีเป็นชาวจีน จะคอยมาสั่งให้ลูกน้องพายายและคนในห้อง ออกไปทีละหลายคน ไปยืนอ้าปาก กระพริบตา และส่ายหน้า ลักษณะเหมือนการสแกนใบหน้า เพื่อเปืดบัญชี
ซึ่งช่วงนั้นที่สามารถติดต่อยายได้ สอบถามทราบว่า คนดูแลเรียกไปทำแบบนี้ซ้ำๆกันทุกๆวัน ตนพยายามให้ยายหาทางกลับมา แต่ก็ไม่สามารถกลับมาได้ จนผ่านไปประมาณ 10 วัน ยายโทรศัพท์กลับมาบอกว่า ตอนนี้ข้ามกลับมาที่ฝั่งไทยแล้ว ได้เงินกลับมา 4,000 บาท กำลังจะหารถตู้กลับบ้าน
แต่หลังจากกลับมาอยู่บ้านได้ไม่ถึงเดือน ก็มีตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามประมาณ 7-8 คนเข้ามาที่บ้าน พร้อมหมายจับยาย แจ้งว่ายายมีหมายจับข้อหาฉ้อโกงประชาชน และตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มูลค่าความเสียหายประมาณ 130,000 บาท แต่หลังมีการตรวจสอบพบว่า มีเงินเข้ามาในบัญชีเพียง 74,000 บาท ก่อนจะคุมตัวยายไปยัง สภ.บ้านลาด และนำตัวส่งฟ้องศาล และต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ประมาณ 2 เดือน ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมา
แต่เมื่อตัวเองกำลังจะไปรับยายออกจากเรือนจำ ก็มีตำรวจมารออายัดตัวยายที่หน้าเรือนจำ ส่งตัวไปต่อที่ สภ.ชะอำ จึงมารู้ว่า ยายถูกหลอกไปทำงานเปิดบัญชีม้า และมีหมายจับอีก 2 หมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ และศาลจังหวัดศรีสะเกษ
น.ส.เจนิสตา กล่าวว่า วันนี้มาขอความช่วยเหลือจากสายไหมต้องรอด เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับยาย และอยากให้ตำรวจตรวจสอบในเรื่องของเส้นทางการเงิน ซึ่งแม้จะมีเงินเข้ามาผ่านในบัญชี ยายก็ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเงินจำนวนนี้ แต่ต้องมาเป็นแพะรับบาป มิหนำซ้ำ ยังมีตาที่อายุมากและป่วยติดเตียงอยู่ หลังจากรู้ว่ายายต้องโทษจำคุก ตาก็มีอาการทรุดและซึมลงอย่างเห็นได้ชัด
ด้านทีมงานสายไหมต้องรอด ระบุว่า เรื่องนี้จะต้องไปดูในส่วนของเงินประกันตัว ของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งการเปิดบัญชีม้า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอยู่แล้ว แต่คุณยายก็ได้รับโทษไปแล้ว ซึ่งกระบวนการต่อไป จะต้องส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ช่วยตรวจสอบ เพราะกรณีนี้ เป็นลักษณะเหมือนการถูกหลอกให้ไปทำงาน
และสิ่งที่เป็นห่วงคือสภาพความเป็นอยู่ของตา ซึ่งตอนนี้อาจจะต้องมีการประสานกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงไปดูแลช่วยเหลือ และอยากเตือนไปยังประชาชน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ที่หลอกไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะนอกจากจะไม่ได้เงินแล้ว ยังได้รับความเดือดร้อน โดนหมายจับตามมาอีกด้วย - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน