บุกรวบ “แม่เสี่ยโป้” คาบ้านหรูย่าน พุทธมณฑลสาย 2

บุกรวบ “แม่เสี่ยโป้” คาบ้านหรูย่าน พุทธมณฑลสาย 2

75123 ต.ค. 67 14:46   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

บุกรวบ “แม่เสี่ยโป้” คาบ้านหรูย่าน พุทธมณฑลสาย 2 ชักชวนเล่นพนันออนไลน์-ฟอกเงิน

(23 ต.ค.67) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมพวกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปฏิบัติการที่ 17 กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุม

1. น.ส.บานเย็น ฯ (แม่เสี่ยโป้) อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน” (คดี กก.1 บก.ป.)


2. น.ส.พฤกษชาติ ฯ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันประกาศโฆษณา ชักชวน จัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” (คดี กก.3 บก.ปอท.)


สถานที่จับกุม ภายในบ้าน (พุทธมณฑลสาย 2) แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร


พฤติการณ์ช่วงเดือนมิถุนายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ตรวจพบว่า บัญชี Facebook หนึ่ง ได้โฆษณา ชักชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าเล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์


จากการตรวจสอบเว็บไซต์พบว่าเป็นเว็บพนันออนไลน์ที่เปิดให้เล่น พนันทายผลฟุตบอล และเกมกาสิโนออนไลน์ประเภทต่างๆ เช่น บาคาร่า, ไพ่ป๊อกเด้ง, เกมไพ่ชนิดอื่นๆ, ตู้เกมสล็อต, ทายผลเกม เป็นต้น ซึ่งเปิดให้มีการเสี่ยงทายเล่นพนันได้เสียเงินจริง และยังพบเงินหมุนเวียนในบัญชีรับโอนเงินจำนวนมาก สำหรับ


“น.ส.บานเย็น ฯ มารดานายเสี่ยโป้” เกี่ยวข้องกับคดีนี้คือ เปิดบัญชีธนาคารที่ได้รับผลประโยชน์ จากบัญชีที่ใช้พักเงินเว็บพนันออนไลน์ข้างต้น ซึ่งเว็บไซต์พนันออนไลน์ดังกล่าว พบ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจำนวน 31 ราย โดยแต่ละรายมีการแบ่งหน้าที่กันในการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ และการยักย้ายถ่ายเทเงินที่ได้จากผู้เล่นพนัน


จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ก.พ.64 พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดข้างต้น ทั้งหมด 31 ราย โดยหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. ได้ขอหมายค้นเข้าทำการตรวจค้นหาพยานหลักฐานที่ ได้ใช้ มีไว้ หรือได้มาจากการกระทำผิดในคดีนี้ พร้อมจับกุมนายเสี่ยโป้ฯ และบุคคลใกล้ชิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปกว่า 20 ราย อย่างไรก็ตาม ยังคงมีผู้ต้องหาที่ไหวตัวทันและหลบหนีไป


ต่อมา กก.1 บก.ป. ได้มอบหมายให้ ว่าที่ พ.ต.ต.มณเฑียร ธงเทียน สว.กก.1 บก.ป. พร้อมพวกทำการสืบสวนเพื่อติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้ เนื่องจากมีการกระทำความผิดที่มีลักษณะของเครือข่ายองค์กรอาชญากรรม ปัจจุบันยังมีกลุ่มผู้ต้องหาหลบหนีอยู่จำนวน 4 ราย ซึ่งส่วนใหญ่จะเดินทางออกนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ จากการสืบสวนพบว่า น.ส.บานเย็นฯ หนึ่งใน 4 ผู้ต้องหาได้หลบหนีมากบดานอยู่ในหมู่บ้านหรูย่านพุทธมณฑลสาย 2 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร ปกปิดตัวตนใช้นามสมมติว่า “บุษบา” อยู่อย่างเงียบๆ ภายในบ้านหลังดังกล่าว


ปรากฏว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.มณเฑียร ธงเทียน สว.กก.1 บก.ป.ได้นำกำลัง เข้าตรวจค้น บ้านหลังหนึ่ง แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ตามหมายค้นศาลอาญาตลิ่งชัน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัว เข้าทำการตรวจค้น

ได้พบบุคคลที่มีตำหนิรูปพรรณคล้าย น.ส.บานเย็น ฯ กำลังปีนรั้วหลังบ้านเพื่อหลบหนีแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังปิดล้อมไว้ทั้งหมด จึงปีนกลับเข้าไปซ่อนตัวในบ้าน 


เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นภายในบ้านตามหมายค้นของศาล พบหญิงที่มีตำหนิรูปพรรณตรงกับน.ส.บานเย็นฯ บุคคลในหมายจับ หลบอยู่บริเวณข้างโซฟาของบ้านหลังดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ และบุคคลดังกล่าวอ้างว่า ตนชื่อ บุษบา เป็นแม่บ้าน จึงได้ซักถามปากคำจนบุคคลดังกล่าว จำนนด้วยหลักฐาน ภาพบัตรประชาชน น.ส.บานเย็น ฯ ในโทรศัพท์ และยอมรับว่าตน คือ น.ส.บานเย็น ฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้จับกุมตัว น.ส.บานเย็น ฯ แจ้งข้อกล่าวหา และ น.ส.บานเย็น ฯ รับทราบข้อกล่าวหา และสิทธิของผู้ถูกจับข้างต้นดีแล้ว


เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นโดยละเอียด พบหญิงที่มีตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลในหมายจับอีกบุคคลหนึ่งหลบอยู่บริเวณภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้าน จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ จึงได้ขอตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชนพบเป็นของ นางสาวพฤษชาติ ฯ อายุ 31 ปี ตามหมายจับของศาลแขวงดอนเมือง ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "จัดให้มีการเล่นพนันทายผลฟุตบอลฯ, เป็นเจ้าบ้านจัดให้มีการเล่นพนันฯ” จึงได้แสดงหมายจับให้ นางสาวพฤษชาติ ฯ ผู้ต้องหาดูจนทราบและเข้าใจดีแล้ว ยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับรายชื่อบุคคลในหมายจับจริงและยังไม่เคยถูกจับกุมในคดีดังกล่าวมาก่อน



ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ ถ่ายภาพนิ่ง, ภาพเคลื่อนไหว และบันทึกเสียง ขณะทำการจับกุม อย่างต่อเนื่องในขณะจับกุมและควบคุมตัว จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาทำบันทึกการจับกุม ที่ กก.1 บก.ป. ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. และ กก.3 บก.ปอท. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และแจ้งว่า “ยอดเงินที่ตนรับโอนมาจากบัญชีเว็บพนันฯ นั้น ตนเป็นเพียงผู้เล่นเท่านั้น ไม่เคยจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์แต่อย่างใด และไม่เคยให้บุคคลใดไปเปิดบัญชีธนาคารให้กับตน”

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง