รวบอดีตรองนายกฯ จันดี เอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา

(28 ก.พ. 68) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 พร้อม พ.ต.อ.ฐากรณ์ หนุมาศ ผกก.3บก.สอท.5กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (บช.สอท.) สุราษฎร์ธานี  ร่วมแถลง มาตรการปฏิบัติการ “ปิดเมืองคอน...สยบภัยออนไลน์” ระดมกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้หลายราย มีทั้งแก๊งหลอกรักออนไลน์ (สแกมเมอร์) และแก๊งคอลเซ็นเตอร์

คดีที่ 1เป็นแก๊ง สแกมเมอร์ หลอกเหยื่อสูญ 10 ล้านบาท โดยจับกุมตามหมายจับของศาลประกอบด้วย น.ส.ขวัญธิดาฯ ขอสงวนนานสกุล อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นตัวการหลักในการหลอกลวง ตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี จ.108/2568, นายธนภัทรฯ อายุ 20 ปี บัญชีม้า จับตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี จ.109/2568 มีศักดิ์เป็นหลานชายของ น.ส.ขวัญธิดาฯ, และนางธัญสมรฯ อายุ 51 ปี บัญชีม้า จับตามหมายจับ จ.110/2568 มีศักดิเป็นน้าสาวของ น.ส.ขวัญธิดาฯ โดยตั้งข้อกล่าวหาร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ โดยสร้างโปรไฟล์ปลอมเป็นหญิงสาวหน้าตาดี หลอกให้เหยื่อหลงรักและโอนเงินให้ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

ส่วนคดีที่ 2 รวบอดีตรองนายกเทศมนตรีเทศบาลจันดี หลังการสอบสวนพบว่ามีเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2567 เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ ตำบลจันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นสถานที่ปฎิบัติการของกลุ่มแก๊งคอลเซนเตอร์

สามารถจับกุมชาวจีนและคนไทยร่วมขบวนการจำนวน 63 คน ต่อมาการสืบสวนขยายผลพลกลุ่มคอยให้การสนับสนุนอำนวยความสะดวกแก่กลุ่มแก็งคอลเซนเตอร์ชาวจีนรวมทั้งได้รับผลประโยชน์จากแก๊งดังกล่าว คือ นางเรวดี หรือเจ๊เล็ก อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลจันดี รวมทั้งบุคคลในครอบครัว พร้อมทั้งลูกน้องคนสนิทที่เป็นคนไทย ที่เป็นนอมินีของเจ๊เล็ก อีกจำนวน 5 ราย และชาวจีนที่อยู่ในขบวนการอีก 1 ราย

ต่อมาศาลจังหวัดทุ่งสงได้อนุมัติหมายจับบุคคลทั้ง 9 รายในความผิด ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน,ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตยเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมฯ, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจร, และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”

วันนี้ นางเรวดี และ น.ส.ดุษฎีฯ เลขาคนสนิท ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (บช.สอท.) สุราษฎร์ธานี ในช่วงบ่ายทางเจ้าหน้าที่ ได้นำตัวผู้ต้องหาจำนวน 2 คนไปฝากขังยังศาลจังหวัดทุ่งสง นำไปฝากขังยังศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีจำนวน 2 คน  ส่วนให้นายธนภัทรฯ ไดประกันตัวไปในวงเงินประกัน 100,000 บาท เนื่องจากยังเป็นนักศึกษา 

ด้าน พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ได้กล่าวเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการพูดคุยกับคนแปลกหน้าในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการขอให้โอนเงินเพื่อแสดงความรักหรือความรู้สึกอื่นๆ รวมทั้งแก๊งคอลเซนเตอร์ พร้อมทั้งวงการพนันอนนไลน์  ซึ่งขณะนี้มีคดีเกี่ยวกับทางเทคโนโลยีทั้งประเทศเข้ามาที่ กองบังคับการตำรวจไซเบอร์กว่า 100,000 ราย