สจ.จอยรับห่วงความปลอดภัย ถามกลับจะวางยาหมาไหม นอกจากไม่รักมันแล้ว
สจ.จอยรับห่วงความปลอดภัย ถามกลับจะวางยาหมาไหม นอกจากไม่รักมันแล้ว
“สจ.จอย” รับห่วงความปลอดภัยหลังสามีถูกสังหารโหด ถอยไม่ลง นายก อบจ.แล้ว - นักข่าวถามปม “โกทร-สจ.โต้ง” นับถือกันเป็นพ่อลูกบุญธรรม เจอถามกลับถ้าเลี้ยงหมาไว้ จะเอายาเบื่อให้หมากินไหม นอกจากจะไม่รักมันแล้ว
(13 ธ.ค. 67) ความคืบหน้ากรณีสังหาร นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง เสียชีวิตคาบ้านพักของนายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดวานนี้(12 ธ.ค.) หลังจากไปรับร่างของ สจ.โต้งที่โรงพยาบาลตำรวจ น.ส.ณภาภัช อัญชาสาณิชมน หรือ สจ.จอย ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี ได้นำร่างของสามีกลับมาทำพิธีรดน้ำศพ ณ.วัดมะกอกสีมาราม ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี โดยมีกำหนดการสวดพระอภิธรรมศพ 5 คืน และจะฌาปนกิจศพ วันที่ 17 ธันวาคมนี้ โดยมีครอบครัว ญาติๆ และคนที่รัก สจ.โต้ง มารอร่วมไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก
สจ.จอยได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวถึงคดีที่เกิดขึ้น ระบุว่าช่วงค่ำก่อนเกิดเหตุ ตนกับสามีกำลังขับรถเข้า กทม.เพื่อไปหาลูก ระหว่างนั้น สจ.โต้งได้คุยโทรศัพท์กับ โกทร หรือ นายสุนทร วิลาวัลย์ อยู่ตลอด แต่เคลียร์กันไม่ลงตัว สจ.โต้งจึงตัดสินใจวกรถกลับไปพูดคุยกับโกทรที่บ้านกนกวรรณ ซึ่งสามีไม่ได้ไปนานแล้ว โดยแวะส่งตนที่บ้านตัวเองก่อน
เมื่อไปถึงสามีเข้าไปที่บ้านพักดังกล่าวเพียงคนเดียว เข้าไปตัวเปล่า ส่วนลูกน้องรออยู่ที่หน้าบ้าน พอเข้าไปสักพักลูกน้องเล่าว่าได้ยินเสียงปืนดังออกมาจากภายในบ้าน เมื่อได้ยินเสียงปืนจึงเป็นข้อสังเกตได้ว่าคนของเราอาจถูกยิง ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ซึ่งลูกน้องได้ยินเสียงปืนดังออกมาเยอะมากเรียกว่าเสียงปืนแบบรัวๆ และยิงมาใส่ลูกน้องเราด้านนอกด้วย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจมากๆ จนอธิบายเป็นคำพูดออกมาไม่ได้ ขณะเดียวกันสามีเป็นคนระวังตัวมากเพราะคิดว่าพื้นที่ที่ไปสามารถไว้ใจเชื่อใจได้ แต่ก็ไม่คิดว่าสุดท้ายมันจะเป็นแบบนี้
สจ.จอย ยอมรับว่าเป็นห่วงความปลอดภัยของตัวเองเพราะเหลือแค่ตนกับลูกเท่านั้น และอีกประเด็นที่เป็นห่วงคือเป็นห่วงเรื่องความเป็นธรรมของคดี เพราะรู้ว่าสามีเป็นคนไม่คิดร้ายกับใครเลย ด้วยบุคลิกเป็นคนที่ปากร้ายแต่ยืนยันว่าไม่เคยคิดร้ายกับใคร อีกอย่างที่กังวลเรื่องความเป็นธรรมเพราะคู่คดีเป็นนักการเมือง อยากให้โอนคดีไปยังสอบสวนกลาง แต่เบื้องต้นก็พอใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ส่วนฝั่งคู่กรณียังไม่มีการโทรศัพท์หรือติดต่อมาหาฝั่งตนเลย
ที่มีกระแสข่าวว่าช่วงเกิดเหตุโกทรอยู่ในห้องและได้ยินเสียงปืนแต่ไม่ออกมาเพราะกลัว ส่วนตัวในฐานะภรรยา สจ.โต้งเชื่อหรือไม่ สจ.จอย บอกว่า โกทรน่าจะรู้ว่า สจ.โต้ง เข้าไปด้วยมือเปล่า แล้วการที่ได้ยินเสียงปืนมันจะเป็นไปได้? มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วเพราะสามีตนไม่มีปืนเข้าไป อีกทั้งมองว่าตามสัญชาตญาณ หากได้ยินเสียงปืนต้องออกมาแล้วหรือไม่ ทำไมปล่อยให้เป็นแบบนี้
เมื่อถามถึงประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่าเป็นพ่อลูกกันทำไมไม่ปกป้องลูก สจ.จอยถามกลับว่า “พี่เลี้ยงหมา กล้าฆ่าหมาตายไหมล่ะ? พี่เลี้ยงหมาอยู่ตัวนึงพี่กล้าเอายาเบื่อหมาที่พี่รักให้มันกินไหม พี่ทำได้ไหมนอกจากว่าพี่ไม่รักกันแล้ว?“
ส่วนเรื่องการลงสมัครชิงตำแหน่ง นายก อบจ. ที่ตอนแรกวางไว้ว่า สจ.จอยจะเป็นผู้ลงนั้น ทางด้าน สจ.จอยบอกว่าตอนนี้ตนคงต้องถอย เพราะตั้งแต่แรกก็เป็นความตั้งใจของ สจ.โต้งที่จะให้ตนลง วันนี้ สจ.โต้งไม่อยู่แล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นไปทำไม แต่ยืนยันว่าจะยังคงลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนต่อไป