ผู้เสียหาย 2 ราย ร้องหมอวินิจฉัยผิดพลาด จนเกิดอาการแพ้ยารุนแรง หวิดตาบอดทั้ง 2 ข้าง

ผู้เสียหาย 2 ราย ร้องหมอวินิจฉัยผิดพลาด จนเกิดอาการแพ้ยารุนแรง หวิดตาบอดทั้ง 2 ข้าง

73509 ก.ย. 67 13:24   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ผู้เสียหาย 2 ราย ร้องขอความเป็นธรรม เกิดอาการแพ้ยารุนแรง จากการที่หมอวินิจฉัยโรคผิดพลาด กระทรวงสาธารณสุข เตรียมนำเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบสถานพยาบาลที่เกิดเหตุ ยืนยันว่าโรงพยาบาลจะต้องมีการเยียวยา

(9 ก.ย.67) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน พาสาวไอที วัย 31 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรม หลังหมอวินิจฉัยผิดพลาด เกิดการแพ้ยารุนแรง พบว่ามีผื่นขึ้นเต็มตัว ตามตัวและใบหน้าพุพอง นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานกว่า 3 เดือน และตาเกือบบอดทั้ง 2 ข้าง ขณะที่มีผู้เสียหายกรณีดังกล่าวเพิ่มอีก 1 ราย  


ผู้เสียหาย อายุ 31 ปี เล่าว่า เมื่อ 3 เดือนก่อนไปหาหมอเอกชน เนื่องจากไม่สบาย เจ็บคอ หมอได้ฉีดยามาให้ต่อมาเมื่อกลับบ้านก็มีอาการผื่นขึ้นเต็มตัว เช้าวันถัดมาไปหาหมอที่โรงพยาบาลเดิม รพ.ส่งไปหาหมอเฉพาะทางหมอแจ้งว่า คาดว่ามีอาการแพ้จึงให้แอดมิด ซึ่งหมอก็ยังฉีดยาตัวเดียวกับเข็มแรกก่อนหน้านี้ให้ ต่อมาหมอแจ้งว่าคาดว่าเป็นอาการของอีสุกอีใส และได้รับการฉีดยาอีกครั้ง ต่อมาก็เกิดอาการตาพร่ามัวทันที รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 21 ถึง 26 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยหมอได้แจ้งญาติให้ทราบว่าผู้เสียหายมีอาการแพ้รุนแรงระดับ 10 


จึงถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลแห่งที่สอง โดยโรงพยาบาลได้ลอกผิวที่ตายแล้วทุกๆอาทิตย์เพื่อทำการรักษา โดยโรงพยาบาลที่สองแจ้งว่าถ้าไม่ได้รับการผ่าตัดใส่รกที่ตาจะเสี่ยงตาบอด จึงผ่าตัดใส่รกที่ตาและรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งที่สองอีกราวสองเดือน แล้วกลับมารักษาที่โรงพยาบาลแห่งแรกต่ออีกราวสามสัปดาห์ แต่สภาพร่างกายตอนนั้นดีขึ้นแล้ว นอกจากนี้โรงพยาบาลแห่งแรกไม่ได้มีการประสานนัดหมายให้โรงพยาบาลที่สองทราบว่าผู้เสียหายจะต้องผ่าตัดตาทำให้ผู้เสียหายรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมในช่วงที่ผ่านมา ส่วนอาการตอนนี้ก็ไม่เหมือนเดิมต้องหยอดตาทุกๆชั่วโมงขณะที่ตาซ้ายมองไม่เห็น 100% ส่วนตาขวามองเห็น 40% 


เช่นเดียวกับผู้เสียหายอีกหนึ่ง อายุ35 ปี ที่โรงพยาบาลเอกชนอีกแห่ง วินิจฉัยผิดพลาดจนทำให้เกิดอาการแพ้ยา โดยได้รับการฉีดยาเช่นเดียวกันให้ยารับประทาน ตื่นเช้ามามีอาการแสบตาละเจ็บในช่องปาก ต่อมาก็มีอาการตาแดงอย่างมาก มีตุ่มใสขึ้น ซึ่งเมื่อไปหาหมอโรงพยาบาลที่สองหมอคาดว่าเกิดจากอาการแพ้ยาที่ทาน และสู่กระบวนการรักษา โดยขณะนี้ภาพรวมตาเห็นชัดเจน 70%


ด้านสายไหมต้องรอด บอกว่า ผู้เสียหายหายไม่ได้จะเอาผิดโรงพยาบาล แต่เมื่อเกิดเหตุสิ่งที่ผู้เสียหายอยากได้ก็คือการมีแพทย์รักษาดวงตาและรักษาอาการผิวหนังเพื่อให้กลับไปใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม  


ในส่วนของการเยียวยาอยากให้โรงพยาบาลออกมารับผิดชอบเนื่องจากหลังจากผู้เสียหายออกมาก็ไม่ได้รับการติดต่อจากโรงพยาบาลเลยโดยกระทรวงจะมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบดูแลในเรื่องนี้


ด้าน นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า หลังจากนี้ จะต้องมีการตรวจสอบทั้งในเรื่องของมาตรฐานของยาที่ให้ผู้ป่วย การรักษาเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่รวมถึงการตรวจสอบข้อมูลการรักษาของผู้ป่วยโดยยืนยันว่าโรงพยาบาลจะต้องมีการเยียวยาผู้ป่วยทั้งสองคนเบื้องต้นในวันนี้จัดส่งผู้เสียหายไปทำการตรวจสายตาที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าเนื่องจากขณะนี้มีอาการตามองเห็นไม่ชัดก็ยืนยันว่าภาครัฐ จะดูแลโดยที่ผู้เสียหายไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด


ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ประสานทางคุณหมอจันทิรา แก้วสัมฤิทธิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ การแพทย์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เรื่องการส่งตรวจดูอาการของผู้เสียหายทั้ง 2 คน เพื่อสรุปหาแนวทางการรักษา 


เบื้องต้น หมอพระนั่งเกล้า คาดว่าเกิดจากอาการแพ้รุนแรง ในส่วนตาคล้ายมีวุ้นหรือฝุ่นอยู่ที่กระจกตาฝั่งซ้ายต้องไปตรวจให้ละเอียดก่อน ถึงจะสามารถบอกว่าจะมีโอกาสมองเห็นได้เท่าไหร่


ขณะที่วันนี้ได้สั่งการให้ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพและ อย. ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวแล้วจะมีการเก็บตัวอย่างของยาจากข้อมูลการรักษาผู้ป่วยนำมาตรวจสอบและยืนยันว่าทางโรงพยาบาลจะต้องรับผิดชอบเพราะเหตุเกิดขึ้นหลังจากที่ผู้เสียหายเข้าผู้รับการรักษา

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง