พ่อเฒ่าร่ำไห้ แก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นหลานสาวยืมเงิน 3 หมื่น

(8 พ.ย.67) ที่ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือ จากนายศรี หรือ ปู่ศรี (สงวนนามสกุล) อายุ 76 ปี อาชีพรับจ้างกวาดถนน หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นหลานสาว ขอยืมเงินจำนวน 30,000 บาท โดยปู่ศรีหลงเชื่อ เนื่องจาก มิจฉาชีพบอกชื่อและนามสกุลหลานสาวได้อย่างถูกต้อง ทำให้รีบหายืมเงิน กู้หนี้นอกระบบ ก่อนโอนเงินให้กลุ่มมิจฉาชีพ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.67 ที่ผ่านมา ผ่านไปกว่า 4 เดือน คดีกลับยังไม่คืบหน้า

ปู่ศรี เล่าเหตุการณ์ว่า วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 11.00 น. ขณะกำลังกวาดขยะอยู่ มีเบอร์มือถือหนึ่งโทรเข้ามา อ้างตัวว่า เป็นหลานสาวชื่อนางสาวเรณู (สงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี ซึ่งชื่อและนามสกุลตรงกับข้อมูลจริง โดยมิจฉาชีพบอกว่า “หาเงินให้หนูหน่อย 30,000 บาท เดี๋ยวประมาณ 15.00 น.หนูจะคืนให้” ด้วยความห่วงใยว่าหลานเดือดร้อน ปู่ศรีจึงรีบไปขอยืมเงินจากเพื่อนบ้านและคนรู้จัก รวมทั้งนำของใช้ไปจำนำ นำเงินที่เก็บสะสมมาตลอดชีวิต จนรวมได้ครบจำนวน แล้วให้หลานชายที่บ้านโอนเงิน เข้าบัญชี น.ส.พรชนก (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นของมิจฉาชีพ ที่โทรมาอ้างตัวเป็นหลานสาว 

หลังจากโอนเงินเสร็จสิ้น มิจฉาชีพโทรกลับมาอีกครั้ง และขอเพิ่มอีก 20,000 บาท ทำให้ปู่ศรีเริ่มเอะใจและปรึกษาครอบครัว จึงให้คนที่บ้านโทรหา “น.ส.เรณู” ตัวจริง ปรากฏว่า ไม่เคยโทรมาขอยืมเงินแต่อย่างใด ปู่ศรี จึงรู้ทันทีว่าถูกมิจฉาชีพหลอก จึงเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ และพยายามโทรกลับไปยังเบอร์ของมิจฉาชีพ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ตอนนี้เรื่องนี้ผ่านมาเกือบ 4 เดือนแล้ว คดีไม่มีความคืบหน้า

ปู่ศรี เล่าทั้งน้ำตาว่า หลังเกิดเหตุรู้สึกเครียดมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะไม่มีเงินใช้หนี้นอกระบบที่ได้ยืมไว้ บางคนก็ดีกับตน ไม่คิดดอกเบี้ย ซึ่งโดยปกติตนรับจ้างกวาดถนนได้วันละ 300 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีโรคประจำตัวหลายอย่าง ล่าสุดไปพบแพทย์พบว่า เป็นโรคไต ระยะที่ 4 , โรคเบาหวาน และต่อมลูกหมาก จึงอยากขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน เพื่อเป็นกระบอกเสียงถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยติดตามเรื่องนี้เพื่อขอเงินคืน และนำไปใช้หนี้ที่ยืมมา 

สุดท้ายนี้ตนอยากฝากเตือนถึงผู้สูงอายุ ให้ระวังมิจฉาชีพ ที่อ้างตัวเป็นคนรู้จักในครอบครัวและขอยืมเงิน ควรโทรสอบถาม หรือพบตัวจริงก่อน เพื่อป้องกันการถูกมิจฉาชีพหลอกในลักษณะนี้