รวบหนุ่มหึงโหดร่วมกับเพื่อน ลวงอดีตแฟนสาวจับมัดมือ-เท้า ปิดปาก ยัดเก๋ง

จากกรณี เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 พ.ต.ท.สุมิตร นานนท์ สว.จร.สน.ทุ่งครุ รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สน.ทุ่งครุ ว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้บาดเจ็บ ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า หญิง ถูกชาย 2 คน ทำร้ายร่างกายอยู่ภายในรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ที่ขับมาจากทางวัดทุ่งครุ ถนนประชาอุทิศ มุ่งหน้าทางแยกทุ่งครุ จึงพร้อมด้วยสายตรวจ สน.ทุ่งครุ สกัดจับรถคันดังกล่าว ได้บริเวณใกล้ปากซอยประชาอุทิศ 93 แขวงและเขตทุ่งครุ กทม. 

ตรวจสอบภายในรถพบว่า มี นายปิติภูมิ อายุ 28 ปี เป็นผู้ขับขี่ นายรัฐพงศ์ อายุ 29 ปี นั่งโดยสาร และพบ น.ส.ดารณี อายุ 26 ปี สภาพถูกเชือกมัดแขนและขา ถูกปิดปากด้วยเทป นั่งอยู่บริเวณเบาะโดยสารด้านหลัง เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือพร้อมควบคุมตัวผู้ก่อเหตุมายัง สน.ทุ่งครุ นั้น 

(21 พ.ย.67) ล่าสุด นายชเวงกกิตติ์ อายุ 53 ปี พ่อของนายรัฐพงศ์ หนึ่งในผู้ก่อเหตุ เผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเพิ่งมาทราบเมื่อวานนี้ ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. หลังจากนายรัฐพงศ์ ซึ่งเป็นลูกชายของตนได้โทรศัพท์มาบอกกับตนว่า ถูกน.ส.ดารณี แฟนสาวแจ้งจับ แต่ก็ไม่ได้บอกรายละเอียดแต่อย่างใด 

โดยก่อนหน้านี้ ลูกชายของตนได้คบหากับ แฟนสาวคนนี้ได้มาประมาณ 2-3 ปี และมีลูกชายด้วยกัน อายุ 2 ขวบ 3 เดือน 1 คน ที่ผ่านมา ตนยอมรับว่า ลูกชายรักแฟนสาวคนนี้เป็นอย่างมาก แต่มักจะทะเลาะกันบ่อยครั้ง ซึ่งส่วนมากจะเป็นปัญหาเงิน ๆ จึงทำให้ทั้ง 2 คนตัดสินแยกย้ายทางกันอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีการบอกเลิกเป็นกิจจะลักษณะ ซึ่งลูกชายของตนก็ยังไม่คาดคิดว่าแฟนสาวจะเลิกรากับเขา นึกว่าแค่มีปัญหากันแค่นั้น

โดยทั้งคู่ได้ตัดสินใจแยกย้ายกันเมื่อช่วงประมาณ2 อาทิตย์ที่ผ่านมา จนกระทั่งเมื่อช่วงประมาณ 1-2 วันที่ที่ผ่านมา ลูกชายตนเห็นแฟนสาวอัปสตอรี่กับแฟนใหม่ จึงเกิดความหึงหวง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่ขอออกความเห็นใด ๆ ส่วนตัวตนก็รัก และเอ็นดูแฟนสาวของลูกชายพอสมควร เพราะที่ผ่านมาแฟนสาวก็ดูแลลูกชายตนเป็นอย่างดี หากถามว่านิสัยใจคอลูกชายของตนเป็นอย่างไรนั้น ตนยอมรับว่าเป็นคนหัวร้อนระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่เคยมีการทำร้ายร่างกายกันแต่อย่างใด และที่ผ่านมาตนยืนยันได้ว่าลูกชายไม่เคยมาเล่าหรือปรึกษาปัญหาอะไรให้ฟัง

หลังเกิดเหตุตนได้มีโอกาสพูดคุยกับแฟนสาวของลูกชาย ซึ่งทางแฟนสาวก็ได้บอกเพียงแต่ว่า ก่อนหน้านี้ได้พยายามบอกเลิกกับลูกชายตนหลายครั้งแล้ว แต่ลูกชายตนไม่ยอม จนกระทั่งมาเกิดเหตุในครั้งนี้ โดยหลังเกิดเหตุทางแฟนสาวลูกชายก็ได้ ยืนยันกับตนว่า เขาจะเดินทางมาถอนแจ้งความให้กับลูกชายตน เพราะสงสารลูกชายวัยสองขวบ จึงทำให้ตนรู้สึกคลายกังวลได้เล็กน้อย เพราะส่วนตัวตนก็ไม่มีหลักทรัพย์ในการประกันตัวลูกชายมากนัก 

สำหรับลูกชายนั้น หลังเกิดเหตุตนก็ได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมหน้าห้องขัง แต่ก็ไม่ได้มีการพูดคุยอะไร ซึ่งจากที่ตนสังเกต สีหน้าลูกชายเขาก็มีความเครียดเล็กน้อย ซึ่งตนยอมรับว่า รู้สึกตกใจไม่คาดคิดว่าลูกชายจะกล้าทำถึงขณะนี้ ทั้งนี้สำหรับหลานชายวัย 2 ขวบนั้น หลังจากนี้ตนก็ต้องเป็นคนดูแลกันเอง