เจอแล้ว! แมว 3 ตัว หลังเจ้าของหอยัดกระสอบผูกมัดแน่นสั่งคนไปโยนทิ้งใต้สะพาน

เจอแล้ว! แมว 3 ตัว หลังเจ้าของหอยัดกระสอบผูกมัดแน่นสั่งคนไปโยนทิ้งใต้สะพาน

676606 ก.ย. 67 17:47   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

เจอแล้ว! แมว 3 ตัว หลังเจ้าของหอยัดกระสอบผูกมัดแน่นสั่งคนไปโยนทิ้งใต้สะพาน เพจดังขอบคุณทุกคนที่ช่วยตาม ยืนยันจะทำคดีนี้ให้เป็นคดีตัวอย่าง ของการกระทำผิดทั้งในส่วนของการทารุณกรรมสัตว์และบุกรุก

(6 ก.ย.67) จากกรณีที่สาวโพสต์ตามหาแมว 3 ตัว หลังถูกเจ้าของหอนำไปปล่อย ล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก The Hope Thailand โพสต์ข้อความว่า สรุปเคสเจ้าของหอขโมยแมวมีเจ้าของยัดกระสอบผูกมัดแน่นสั่งคนไปโยนทิ้ง @รามคำแหง81


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ประมวลเหตุการณ์….

1. เราติดตามจนได้น้องแมวกลับคืนครบทั้ง 3 ตัวแล้วนะครับ โดยเมื่อวานเราลงพื้นที่พร้อมน้องซูเจ้าของแมวตั้งแต่ช่วงกลางวัน โดยตามหาตัว "ตาศรี" คนเก็บของเก่าที่ได้รับการว่าจ้างให้เอาแมวไปปล่อยจนเจอ… แล้วให้พาไปชี้จุดที่เอาแมวไปปล่อย ซึ่งก็เป็นบริเวณใต้สะพานข้ามคลองแสนแสบที่เชื่อมต่อระหว่างซอยรามคำแหง 81 กับซอยลาดพร้าว 130…. ตาศรี ยอมรับว่ามีการจ้างให้เอาไปปล่อยจริงโดยแม่บ้านของหอพักสีเขียว บริเวณซอยราม 81… แต่ยังไม่ได้มีการจ่ายเงินค่าจ้างแต่อย่างใด… 


ลักษณะตอนที่พ่อบ้านแม่บ้านนำแมวมาส่งให้คือ.. ยัดใส่ถุงปุ๋ยมาถุงละตัว…แต่ละถุงมัดปากถุงแน่นด้วยเชือกไนล่อน.. และนำถุงทั้งสามถุงยัดใส่ถุงขยะสีดำมัดปากมาอีกที!!!!! 


ตาศรีเกิดความสงสาร… ในช่วงที่เอาแมวไปปล่อยที่ใต้สะพานจึงรีบตัดปากถุงออกเพื่อให้แมวมีอากาศหายใจ… แล้วจึงปล่อยทิ้งใต้สะพานเพราะคิดว่าน่าจะปลอดภัยกับแมวที่สุด (สามารถดูคลิปสัมภาษณ์ได้ในไลฟ์ของเพจ) 


การตามหาใช้วิธีการสอบถามคนทั่วบริเวณและมุดเข้าไปใต้สะพาน จนในที่สุดในช่วงบ่าย ก็พบเจอแมวตัวแรกคือเจ้า "ส้มโอ" เจ้าแมวตัวสีส้มนอนหมอบหลบซุกอยู่บริเวณกองไม้ใต้สะพาน… และต่อมาอีกประมาณเกือบชั่วโมงจึงพบเจ้า "ลำใย" แมวสีขาวตัวอ้วนอีกตัวนึงในบริเวณที่ห่างกันไม่มากนัก… 


แต่ค้นจนทั่วบริเวณและตามหาในบริเวณใกล้เคียงทั้งหมดก็ยังไม่พบเจ้า "มังคุด" แมวน้อยอายุสี่เดือนลายสลิดอีกตัวนึง….  


การหาใช้เวลาตั้งแต่บ่ายจนถึงดึก โดยมีการทำใบปลิวตั้งรางวัลแจกทั่วบริเวณทั้งในส่วนวินมอเตอร์ไซค์ต่างๆและร้านค้า ชุมชนใกล้เคียง…. มีน้องๆแฟนคลับคนรักแมว… ออกมาช่วยกันตามหาแมวหลายคน



2. 22.40 น. ผมพาน้องเจ้าของเข้าไปติดตามคดีที่ สน.หัวหมาก เพื่อที่จะสอบถามว่าทำไมถึงไม่ลงบันทึกเป็นคดี?!?! ทั้งที่องค์ประกอบความผิดสำเร็จเบ็ดเสร็จหมดแล้ว !! ไม่ว่าจะเป็น บุกรุก ลักทรัพย์ หรือที่ชัดที่สุดก็คือ… ทารุณกรรม และอาจรวมถึงทำให้เสียทรัพย์ กรณีที่หาแมวไม่เจอ….!?!?! และที่เลือกไปเวลากลางคืนก็เพราะว่าในคืนวันที่ 4/9/67 น้องเจ้าของได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ร้อยเวรเจ้าของคดีในช่วงเวลาดึกนี้เช่นกัน….


ตลอดวันพยายามโทรติดต่อผู้กำกับ สน. หัวหมาก ก็ติดต่อไม่ได้!! ทั้งที่มีเบอร์และเคยประสานกันอยู่รวมถึงโทรติดต่อร้อยเวรเจ้าของคดีก็ไม่มีการรับสาย จนโทรมาเบอร์ตรงของสถานีตำรวจก็ไม่มีผู้รับสายเช่นกัน!?!!! ก็เลยคิดว่าคงต้องเข้าไปหาด้วยตัวเองน่าจะรู้เรื่องมากที่สุด 


เมื่อเข้าไปพบว่าร้อยเวรเจ้าของคดีลา 2 วัน!!จะแจ้งความใหม่เพื่อให้คดีดำเนินโดยต่อเนื่องก็ไม่มีตำรวจรายไหนกล้ารับแจ้ง !?! โยนมาให้คุยกับรองสารวัตรสอบสวนในวันรุ่งขึ้นแทน …

 

ซึ่งผมก็บอกไปแล้วว่าเรื่องราวเหล่านี้มันรอช้าไม่ได้เพราะขึ้นอยู่กับชีวิตของสัตว์เป็นตัวประกัน!! และที่สำคัญตำรวจเองในฐานะเป็นที่พึ่งของประชาชนต้องตอบคำถามกับสังคมให้ได้ และต้องตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวที่จะมาสัมภาษณ์ในวันรุ่งขึ้นให้ได้… 


สุดท้ายเหมือนเดิมคือ… ไม่มีใครกล้ารับแจ้งความ ก็เลยบอกว่า..งั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายให้เต็มที่นะ เตรียมตอบคำถามสังคมให้ดีด้วย


จากนั้นเรากลับออกมาหาแมวกันต่อ 23.15 น. มีสายโทรเข้ามาจาก น้องๆอาสากลุ่มคนรักแมวที่เฝ้าอยู่ใต้สะพานว่า พบเจอแมวน้อยอีกตัวนึงใกล้จุดที่เอาไปปล่อย โดยแมวน้อยแอบซุกอยู่ในโพรงหินใต้สะพาน… เมื่อเราไปถึงและให้น้องสู่เจ้าของแมวเข้าไปเรียก… เจ้าแมวน้อยเดินออกมาหา



และพบว่าเป็น "เจ้ามังคุด" จริง…. จึงได้อุ้มเพื่อที่จะนำกลับบ้าน… และทางผมในนาม The Hope Thsailand จะขอมอบเงินรางวัลในการตามหาจำนวน 2,000 บาท ให้กับน้องอาสาที่ชี้เบาะแสจนพบเจอ  


ซึ่งก็คือน้องอาร์และน้องกบ… แต่น้องทั้งสองไม่รับบอกตั้งใจที่จะมาช่วยหาจริงๆไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ #ขอเพียงให้แมวน้อยได้กลับไปอยู่กับเจ้าของ พวกเราจึงขอบคุณน้องทั้งสองและนำเจ้ามังคุดและน้องเจ้าของแมวไปส่งที่บ้าน


3. ในเรื่องของการแจ้งความดำเนินคดีนัดกันไว้ว่าเช้าวันนี้ประมาณ 10 โมง ผมจะพาเจ้าของแมวเข้าแจ้งความดำเนินคดี เจ้าของหอพัก/แม่บ้าน /ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยเจตนา ในข้อหาต่างๆกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก และจะไทยถามให้ชัดเจนกับทางผู้กำกับว่าเพราะอะไรถึงไม่รับเป็นคดีทั้งที่ความผิดสำเร็จเบ็ดเสร็จชัดเจนแล้ว !?!?! 


รวมถึงนำตัว”ตาศรี”เข้าไปให้การเป็นพยานด้วยและทางทีมข่าว เวิร์คพอยท์ก็จะนัดขอสัมภาษณ์ก็เลยให้ไปเจอกันที่ สน.เลย…


4. 07.12 น. เช้านี้ทางร้อยเวรเจ้าของคดีโทรติดต่อมาหาผม… เพื่อจะแจ้งว่ายินดีรับดำเนินคดีทุกอย่าง! ก็เลยถามไปว่าเห็นว่าลาหยุดไม่ใช่เหรอ? สะดวกเหรอ? ร้อยเวรบอกว่า….ถึงลาหยุดก็จะมา


5. ผมยืนยันว่าจะทำคดีนี้ให้เป็นคดีตัวอย่าง… ของการกระทำผิดทั้งในส่วนของการทารุณกรรมสัตว์… และในส่วนของการบุกรุก..เพื่อให้เป็นกรณีตัวอย่างซึ่งจะได้ไม่เกิดเรื่องเลวร้ายแบบนี้กับคนรักสัตว์และสัตว์ตัวน้อยอีกต่อไป….

ขอขอบคุณ


1. น้องซู น้องฟาร์ เจ้าของน้องแมวที่กล้าที่จะต่อสู้เพื่อชีวิตน้อยๆ และออกตามหากันอย่างเต็มที่


2. พี่น้องสำนักระบายน้ำที่พักอาศัยอยู่ใต้สะพานให้ความช่วยเหลือทุกอย่างที่ทำได้ไม่ว่าจะให้ยืมมอเตอร์ไซค์ ให้ที่ชาร์จไฟโทรศัพท์ ช่วยแจกประกาศในการตามหา


3. น้องขายผลไม้ใต้สะพานให้ยืมตะกร้าผลไม้ใส่แมวชั่วคราว วินมอเตอร์ไซค์ ช่วยกระจายข่าว


4. น้องอาสาหลายคนที่มาลงพื้นที่ช่วยกันตามหาไม่ว่าจะเป็น น้องอ้อ น้องแอ้ว(เอากรงดักมาให้ยืม) น้องกบ-น้องอาร์ น้องแฟลต น้องไรเดอร์ รวมไปถึงน้องอีกหลายคนที่ไม่ได้เอ่ยนาม


และที่ขาดไม่ได้คือทุกคนในพื้นที่แห่งนี้ที่ช่วยกันส่งข่าวและเป็นกำลังใจในการติดตามหา ทั้งวันทั้งคืน บางท่านร่วมสมทบกับมูลนิธิฯ เพื่อช่วยเป็นรางวัลในการตามหาเจ้ามังคุดและภารกิจช่วยชีวิตสัตว์


5. ขอบคุณ "ตาศรี" ที่หลายคนอาจจะมองว่าอยู่ในกระบวนการของคนทำผิด แต่ผมก็มองอีกมุมหนึ่งว่าตาศรีอาจทำไปด้วยความที่ไม่รู้…และอย่างน้อยก็ได้ช่วยชีวิตแมวไว้อย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นการตัดถุงที่ผูกอย่างมิดชิดเพื่อให้แมวได้มีอากาศหายใจและยังเลือกเอาแมวไปปล่อยในพื้นที่ ที่ไม่เลวร้ายเกินไป

และยอมชี้จุดปล่อย บอกเล่าความเป็นจริงจนทำให้เราติดตามสามชีวิตน้อยๆเหล่านี้กลับคืนมาได้

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง