เพื่อนรุ่นพี่ที่เข้าไปช่วยเจรจาเผย ชายคลั่งยังไม่ยอมที่จะมอบตัวกับทางตำรวจ
เพื่อนรุ่นพี่ที่เข้าไปช่วยเจรจาเผย ชายคลั่งยังไม่ยอมที่จะมอบตัวกับทางตำรวจ

เพื่อนรุ่นพี่ที่เข้าไปช่วยเจรจาเผย ชายคลั่งยังไม่ยอมที่จะมอบตัวกับทางตำรวจ พร้อมมีอาการขึ้นลงตลอดเวลา ขณะที่รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยัน ในบ้านที่เกิดเหตุไม่มีตัวประกัน มีเพียงผู้ก่อเหตุอยู่คนเดียวเท่านั้น ตอนนี้ตำรวจใช้ยุทธวิธีในการเจรจาให้มอบตัว
(15 พ.ค. 68) นานกว่า 6 ชั่วโมง ที่นายเต้ มีอาการคลุ้มคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้าและยิงใส่ตำรวจที่เข้ามาระงับเหตุ บริเวณชุมชนหลังวัดละครทำ ตั้งแต่เวลา 08:00 น. จนถึงขณะนี้ แม้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งทีมเจรจา ชุดตำรวจอรินทราช ครอบครัว และเพื่อนของนายเต้ เข้าไปเจรจาเกลี้ยกล่อมให้ตัวของนายเต้ยอมมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่สุดท้ายก็ยังไม่เป็นผล
ล่าสุดเพื่อนรุ่นพี่ของนายเต้ ได้เดินออกมาจากจุดเกิดเหตุ ซึ่งผู้สื่อข่าวก็ได้สอบถามสถานการณ์ด้านไหนว่าเป็นอย่างไร โดยเพื่อนรุ่นพี่ของนายเต้ได้เปิดเผยว่า ด้วยความที่ตนรู้จักและสนิทสนมกับทางนายเต้ ทางตำรวจจึงได้ให้ตนเข้าไปช่วยพูดคุยเจรจาร่วมด้วยเช่นกัน ซึ่งตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับนายเต้เกลี้ยกล่อมให้เขายอมมอบตัว แต่เต้ ที่ยังอยู่ในอาการหลอนยา ก็ไม่ยอมที่จะพูดคุย ยอมมอบตัว ไม่ยอมวางอาวุธ และไม่ได้มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษแต่อย่างใด
โดยในระหว่างนั้นตัวของนายเต้เองก็มีอาการขึ้นลงอยู่เป็นพักๆ บางเวลาที่เจ้าตัวดูใจเย็นลง ก็จะนั่งอยู่บริเวณประตูหน้าบ้านแต่ก็ไม่ได้มีการวางอาวุธปืนแต่อย่างใด บางเวลาถ้าหากอารมณ์เริ่มขึ้นก็จะมีการตะโกนโวยวาย ด่าเจ้าหน้าที่ และคนที่เข้าไปช่วยเกลี้ยกล่อมทุกคน นอกจากนี้แม้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ แล้วโยนไปในบ้านของนายเต้ เพื่อที่จะโทรเข้าให้นายเต้คุยสาย แต่ตัวของนายเต้เองก็ไม่ได้มีการรับสายหรือพูดคุยอะไรทั้งสิ้น
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะที่ตนเองก็รู้จักกับนายเต้ มานานพอสมควร เชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้เขาอยู่ในอาการคลั่งแบบนี้น่าจะมาจากฤทธิ์ของยาเสพติด เนื่องจากนายเต้ มีพฤติกรรมเสพยาเสพติดมานานแล้ว และเคยถูกตำรวจจับกุมในเรื่องของยาเสพติดมาแล้วหลายครั้งด้วย ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองก็ไม่รู้ว่าตัวของนายเต้ เองมีการเสพในปริมาณมากน้อยแค่ไหนจึงทำให้เกิดอาการคลั่งได้ขนาดนี้
ในขณะที่พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินทางออกมาจากบ้านของผู้ก่อเหตุ หลังใช้เวลาเจรจานานกว่า 5 ชั่วโมง โดยบอกเบื้องต้นว่า ขณะนี้ ยังอยู่ในระหว่างการเจรจา ซึ่งผู้ก่อเหตุมีท่าทีอ่อนลง แต่จะถือปืนเป็นระยะ โดยไม่ได้เรียกร้องอะไรเป็นพิเศษ จากการสอบถามเพื่อนของผู้ก่อเหตุ บอกว่า เขาต้องการอยากทำร้ายตัวเอง และอยากให้ตำรวจบุกเข้าไปเพื่อให้ตำรวจทำร้าย ซึ่งตามยุทธวิธีไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เพราะยังไม่ถึงจุดวิกฤติ ที่ผู้ก่อเหตุไปทำร้ายคนรอบข้าง ดังนั้นจึงต้องใช้หลักการเจรจาก่อน และตอนนี้จึงต้องรอให้อาการผู้ก่อเหตุสงบจากฤทธิ์ยา และความเครียด
ในตอนนี้ ผู้ก่อเหตุยังมีสติติที่คุยตอบโต้ได้ แต่ยังคลั่งอยู่ ดังนั้นจึงต้องใช้การเจรจาต่อรองเพราะยังไม่ได้ยิงชาวบ้าน หรือทำร้ายใคร และต้องรอให้อารมณ์เย็นลงเหตุผลจะมา ตำรวจก็จะเจรจาว่า ชาวบ้านยังไม่ได้รับความเดือดร้อน ส่วนภายในบ้านของผู้ก่อเหตุ ไม่มีคนอื่นอยู่แล้วนอกจากตัวผู้ก่อเหตุ เพราะบ้านหลังดังกล่าวเป็นญาติของผู้ก่อเหตุด้วยกัน ซึ่งทางผู้ก่อเหตุได้ปล่อยตัวออกมาหมดแล้ว ส่วนเพื่อนบ้าน ตำรวจก็เร่งเคลียร์ออกจากพื้นที่ทั้งหมดเช่นกัน และไม่อนุญาตให้ใครเข้าไปภายในพื้นที่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชายคลั่งยิงปืนขึ้นฟ้า จับตัวประกัน-ยิงสวนตำรวจ
พล.ต.ต.นพศิลป์ ยอมรับว่า เพื่อนของผู้ก่อเหตุให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุ ได้ประกอบระเบิด ที่ใช้ดินเทาจากลูกไข่ประทัดไล่นก มาผสมเป็นเหมือนระเบิดแสวงเครื่องพันก้อนอยู่ และพร้อมจะจุดตลอดเวลา ตำรวจจึงต้องเฝ้าระวัง เพราะผู้ก่อเหตุมีทั้งปืน มีด และระเบิดลูกนี้ จึงต้องให้เวลาผู้ก่อเหตุสงบลง
ทั้งนี้ ตำรวจได้พาภรรยา ลูก พ่อ และพี่สาวมาเจรจาแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุปฏิเสธไม่ต้องการคุยกับบุคคลที่สาม ส่วนประวัติของผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นพบว่า มีการก่อคดีเกี่ยวกับยาเสพติด มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบในรายละเอียดทั้งหมด
ขณะเดียวกัน บนเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายเต้ ชายคนก่อเหตุ มีเพื่อนรุ่นพี่ หรือที่รู้จักในชื่อ “เน วัดดาว” ซึ่งใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อ Makharin Phumsaart เข้าไปคอมเมนต์ใต้โพสต์ของนายเต้ด้วยข้อความในลักษณะพยายามเกลี้ยกล่อมให้สงบสติอารมณ์
โดยข้อความจาก Makharin Phumsaart ระบุว่า “เต้ พรานนก ไอ้เต้ ตั้งสติ อย่าสู้ตำรวจ มึงตั้งสติไว้น้อง อย่าทำผิดพลาด มึงนึกถึงลูกไว้เต้”