ชาวนาถูกใจ “ปุ๋ยคนละครึ่ง” รอลุ้น นบข.เคาะเสนอ ครม.พรุ่งนี้

(12 มิ.ย. 67) จากกรณีที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีมติเห็นชอบ โครงการ “ปุ๋ยคนละครึ่ง” เพื่อสนับสนุนค่าปุ๋ย ลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ที่จะปลูกข้าวปีการผลิต 2567/68 ในอัตราปุ๋ยไร่ละ 50 กิโลกรัม ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ (ไม่เกินครัวเรือนละ 1,000 กิโลกรัม)  

โดยคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ หรือ นบข. จะมีการประชุมพิจารณาในวันพฤหัสบดีที่ 13 มิ.ย. นี้ ก่อนจะมีการนำเสนอคณะรัฐมนตรี  เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว

ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่เพื่อสำรวจความคิดเห็นของชาวนา โดยได้พูดคุยกับ นายธัมมะ สอสะอาด อายุ 73 ปี ชาวนาใน ต.บ้านม่วง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ซึ่งทำอาชีพนี้มาแล้วถึง 60 ปี ก่อนจะได้รับการเปิดเผยว่า  ปัจจุบันตนปลูกข้าวสายพันธุ์ กข 85 โดยมีเนื้อปลูกจำนวน 9 ไร่ ในรอบการผลิตนาปี 2566/67 ที่ผ่านมา สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้มากกว่า 10 ตัน 

แต่ทว่าในรอบการผลิตนาปรังปีนี้ สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เพียงร้อยละ 40 เท่านั้น ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะเอลนีโญ แม้ว่าราคารับซื้อในช่วงนี้จะมากถึง 10,800 - 11,000 บาทต่อตัน แต่เมื่อนำมาหักต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งในเรื่องของค่าปรับปรุงดิน ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าแรงงาน  ค่าสารกำจัดศัตรูพืช ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าเก็บเกี่ยว และค่าปุ๋ย ก็แทบจะไม่เหลือกำไร

ซึ่งตามปกติตนจะใส่ปุ๋ยสูตร 16 - 20 - 0 ในช่วงที่ต้นข้าวอายุได้ประมาณ 15 วัน และใส่ปุ๋ยยูเรีย 46 - 0 - 0 เมื่อข้าวเริ่มเกิดช่อดอก หรือที่อายุประมาณ 50 - 55 วัน ในอัตราเฉลี่ยครั้งละประมาณ 50 - 75 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งปัจจุบันปุ๋ยสูตร 16 - 20 - 0 อยู่ที่ราคากระสอบละ  880 บาท และปุ๋ยยูเรีย 46 - 0 - 0 ราคา 850 บาท

สำหรับโครงการดังกล่าว ตนเห็นด้วย เนื่องจากจะช่วยลดต้นทุนการผลิตไปได้มาก และยังช่วยทำให้ชาวนามีทุนเพิ่มในการซื้อปุ๋ยบำรุงต้นข้าว เพิ่มปริมาณผลผลิต แต่ก็ยังรู้สึกกังวล ว่าจะมีปริมาณปุ๋ยเพียงพอและทั่วถึงชาวนาทุกพื้นที่หรือไม่ นอกจากนี้ ในส่วนของราคาขายที่อาจจะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น ตามความต้องการของการใช้ปุ๋ย ทั้งนี้หากรัฐบาลมีการวางแผนที่ดี ก็จะช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับชาวนาได้จริง