ศาลอุทธรณ์ตัดสิน คุก 16 เดือน ปรับ 1 แสน คดี ‘พี่เตี้ย มช.’

ศาลอุทธรณ์ตัดสิน คุก 16 เดือน ปรับ 1 แสน คดี ‘พี่เตี้ย มช.’

55513 ม.ค. 68 14:52   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

คนรัก “พี่เตี้ย มช.” ดีใจ ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ตัดสินโทษสิบตำรวจโทผู้ก่อเหตุ คุก 16 เดือน ปรับ 1 แสนบาท

(13 ม.ค. 68) ช่วงสายวันนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 5 อ่านคำพิพากษาคดีการตายของ “พี่เตี้ย มช.” หมาเซเลบริตี้ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมี ส.ต.ท.ปริญญา เป็นจำเลย โดยมีการถ่ายทอดสัญญาณภาพไปยังศาลจังหวัดเชียงใหม่ กลุ่มคนรักเตี้ย มช.และวอชด็อกไทยแลนด์ ที่เป็นโจทก์ในการฟ้องร้องครั้งนี้เข้ารับฟังการอ่านคำพิพากษาด้วยใจจดจ่อ


เนื้อหาแห่งคดีสรุปได้ความ ดังนี้ คดีนี้พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 3 - 7 พ.ค. 63 จำเลยลักเอาสุนัขชื่อ เตี้ย มช. ของผู้เสียหายที่ 1 ที่อยู่ในความครอบครองของผู้เสียหายที่ 2 ซึ่งสุนัขนี้อาศัยอยู่ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ส่วนผู้เสียหายที่ 3 เป็นมูลนิธิ แล้วจำเลยได้ใช้วัตถุของแข็งไม่มีคมไม่ทราบชนิดและขนาด ทำร้ายสุนัขตัวนี้บริเวณขาหลังช่วงล่างลำตัวและกะโหลกศีรษะ เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะฯ และข้อหาทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้จำเลยชดใช้ราคาสุนัข 100,000 บาท แก่ผู้เสียหายทั้งสาม จำเลยให้การปฏิเสธ ผู้เสียหายที่ 1 เข้าเป็นโจทย์ร่วมกับพนักงานอัยการ


ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่า ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายที่ 1 ไม่ได้ยึดถือสุนัขชื่อ เตี้ย มช. เป็นของตนแล้ว ส่วนผู้เสียหายที่ 2 เป็นเพียงผู้ดูแลจึงไม่ใช่เจ้าของ ผู้เสียหายที่ 3 ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสุนัขตัวนี้จึงไม่ใช่เจ้าของเช่นกัน สุนัขตัวนี้จึงไม่มีเจ้าของ การที่จำเลยเอาสุนัขนี้ไปจึงไม่มีความผิดฐานลักทรัพย์ 


ส่วนความผิดในข้อหาทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร เห็นว่า พยานหลักฐานของโจทก์รับฟ้องได้ว่าจำเลยได้เอาสุนัขชื่อ เตี้ย มช. ไปและทำร้ายจนถึงแก่ความตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร จำคุก 6 เดือน ยกฟ้องข้อหาลักทรัพย์ฯ และยกคำขอให้ชดใช้ค่าเสียหาย


จนกระทั่งต่อมาได้มีการยื่นอุทธรณ์ต่อ จึงได้มีการโต้แย้งเพื่อเพิ่มเติม จากพยานหลักฐานที่มีอยู่ เพื่อให้ดำเนินกับผู้ก่อเหตุในอัตราโทษที่เพิ่มขึ้น ในความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะฯ จากการพิจารณาคดีและการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด พบว่า คำให้การที่จำเลยโต้แย้งว่า พาสุนัขนั่งรถจักรยานยนต์เพื่อไปเที่ยว แต่ในระหว่างทางจำเลยเสียการทรงตัวทำให้สุนัขตกจากรถเป็นเหตุให้ถูกรถจักรยานยนต์ที่จำเลยขับทับตาย


แต่ทางโจทก์ได้มีการพิสูจน์ซากสุนัข เตี้ย มช. ผลออกมาพบว่า ขาหลังทั้งสองเป็นรอยช้ำ กระเพาะปัสสาวะฉีกขาด กะโหลกศีรษะแตกเป็นหลายชิ้น ลักษณะแผลที่กล่าวไม่เหมือนถูกรถทับ ตามภาพบริเวณที่เกิดเหตุเป็นที่เปลี่ยวกลางคืนไม่เหมาะที่จะไปเที่ยว


โจทก์มีข้อมูลการสนทนาระหว่างจำเลยกับคนที่จำเลยคบหาโดยจำเลยกล่าวว่า จะฆ่าสุนัขชื่อ เตี้ย มช. ที่สำคัญตามภาพรถจักรยานยนต์ที่จำเลยขับ เห็นว่าที่วางเท้าที่สุนัขนั่งกับล้อหลังใกล้กันมาก หากสุนัขตกจากรถแทบเป็นไปไม่ได้ที่สุนัขจะถูกรถนั้นทับ และที่จำเลยอ้างว่ารถเสียการทรงตัวทำให้สุนัขตกจากรถก็ต่างกับคำให้การในชั้นสอบสวนที่จำเลยเขียนอ้างว่าสุนัขกระโดดลงจากรถจึงถูกรถทับ


ส่วนอุทธรณ์ของโจทก์และโจทก์ร่วมข้ออื่น ปัญหาว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่ ศาลอุทธรณ์ภาค 5 โดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า จากข้อเท็จจริงที่รับฟังได้ว่า สุนัขชื่อ เตี้ย มช. มาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งแต่ปี 2558 โดยโจทก์ร่วมก็ทราบและไม่นำสุนัขนี้กลับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็มอบหมายให้ผู้เสียหายที่ 2 ซึ่งเป็นพนักงานของตนดูแลสุนัขภายในมหาวิทยาลัย ผู้เสียหายที่ 2 จึงดูแลสุนัขชื่อ เตี้ย มช. ในเรื่องอาหารและที่อยู่อาศัย จัดให้มีการฉีดวัคซีน ทำหมัน ฝังไมโครชิบ ตรวจสุขภาพประจำปี พฤติกรรมเช่นนี้แสดงว่าโจทก์ร่วมได้สละกรรมสิทธิ์ในสุนัขตัวนี้และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้เข้าครอบครองเป็นเจ้าของสุนัข ส่วนผู้เสียหายที่ 2 เป็นเพียงผู้ดูแลไม่ใช่เจ้าของ ผู้เสียหายที่ 3 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสุนัขตัวนี้ จึงไม่ใช่เจ้าของเช่นกัน


ดังนั้น เมื่อสุนัขนี้เป็นของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ การกระทำของจำเลยจึงเป็นการเอาทรัพย์ของผู้อื่นไป และแม้จำเลยจะเอาไปทำร้ายจนตายก็ถือว่าจำเลยเอาไปด้วยเจตนาทุจริตเช่นกัน จำเลยจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะฯ ตามที่โจทก์ฟ้องอีกกระทงหนึ่ง และจำเลยต้องชดใช้ราคาสุนัขให้แก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งสุนัขตัวนี้มีคุณค่าสามารถใช้เป็นประโยชน์ในลักษณะต่างๆ แก่สังคมยิ่งกว่าสุนัขทั่วไป จึงเห็นควรให้จำเลยชดใช้ราคาเป็นเงิน 100,000 บาท


ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะฯ อีกระทง จำคุก 1 ปี 6 เดือน ทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 12 เดือน และลดโทษจำคุก 6 เดือน ฐานทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุสมควรให้หนึ่งในสามเช่นกัน คงจำคุกในความผิดนี้ 4 เดือน รวมจำคุกจำเลย 16 เดือน ให้จำเลยชดใช้เงิน 100,000 บาท แก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่



TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง