แม่วอนทั้งน้ำตาช่วยลูก ม.6 ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกไปประเทศเพื่อนบ้าน

(14 ส.ค.67) นางสาวเพชรรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้นายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอฝ่ายศูนย์ดำรงธรรม ลงพื้นที่ไปยังหมู่ 9 บ้านโคกก้านเหลือง ต.หนองกง อ.นางรอง เพื่อตรวจสอบข้อมูล หลังได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากครอบครัวหนึ่งว่า ลูกชายถูกหลอกไปทำงานกับขบวนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ประเทศเพื่อนบ้าน (กัมพูชา) 

นายสมจิตร์ อายุ 51 ปี และนางเพชร อายุ 56 ปี พ่อและแม่ของน้องวิว อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 ที่ร้องขอความช่วยเหลือว่าน้องวิว ลูกชายถูกหลอกไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศเพื่อนบ้าน  

โดยนางเพชร แม่ของน้องวิว เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันลูกเรียนเรียนอยู่ชั้น ม.6 ปกติลูกชายเป็นเด็กเรียนดีและขยัน วันหยุดหรือปิดเทอมจะชอบไปหาทำงานเพื่อหารายได้เสริม ที่ผ่านมาก็เคยมาขอไปรับจ้างเก็บผลไม้ที่ต่างจังหวัด แต่เห็นว่าลูกยังเรียนและเป็นห่วงจึงไม่ให้ไป แต่ถ้าอยู่ใกล้ถึงจะอนุญาตให้ไป  

กระทั่งวันเสาร์ ที่ 10 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา เขาบอกจะไปซ้อมละครที่โรงเรียน โดยให้น้องชายขับรถออกไปส่ง แต่ให้น้องส่งแค่บริเวณหน้าวัดหนองตะไก้บนถนน 24 แล้วจะกลับบ้านเอง กระทั่งค่ำก็ติดต่อลูกชายไม่ได้อีก พยายามสอบถามกับเพื่อนๆ เขา จนมาทราบอีกทีเมื่อลูกชายติดต่อไปหาเพื่อนบอกว่าเขาไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน (กัมพูชา) แล้ว 

ตนตกใจมากพยายามสอบถามข้อมูลจากเพื่อนๆ เขาก็ทราบว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งมาชวนไปทำงาน โดยมีรถมารับแล้วพาไปพอขึ้นรถก็หลับไม่รู้ตัวไม่รู้ว่าโดนวางยาหรือไม่ ไปรู้สึกตัวตื่นที่ อ.อรัญประเทศแล้ว  

เชื่อว่าน่าจะถูกหลอกพาไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ประเทศเพื่อนบ้าน จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานภาครัฐ กระทรวงการต่างประเทศ ช่วยเหลือพาลูกชายกลับบ้านด้วย  

ทั้งนี้พ่อกับแม่ และน้องชาย ยังได้จุดธูปไหว้ศาลพระภูมิหน้าบ้านตามความเชื่อ เพื่อขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครองน้องวิวให้ปลอดภัยด้วย  

ขณะที่น้องวิน น้องชายของน้องวิว ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พี่ชายบอกให้ขี่รถไปส่ง บอกว่าจะไปซ้อมละครที่โรงเรียน จากนั้นก็ไม่เห็นกลับมาบ้าน และติดต่อพี่ชายไม่ได้ จนวันอาทิตย์ได้ส่งข้อความมาบอกว่า อยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว ตนก็ตกใจว่าพี่ไปทำที่นั่น จึงได้สอบถามพี่ชายก็บอกแค่ว่ามีรถมารับก่อนขึ้นรถแล้วหลับไป ตื่นอีกทีก็คือที่ อ.อรัญประเทศ ก่อนจะถูกพาไปที่พักแห่งหนึ่งในกัมพูชา  

ซึ่งพี่ชายก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน แค่ปักหมุดและถ่ายคลิปที่พักมาให้ดูเท่านั้น เป็นห่วงพี่ชายกลัวจะถูกหลอกไปทำงานคอลเซ็นเตอร์ อยากให้ช่วยเหลือพาพี่กลับบ้าน 

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทราบว่าทางหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ ได้ติดต่อประสานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องในกัมพูชา เพื่อตรวจสอบข้อมูลและให้การช่วยเหลือพาน้อง ม.6 กลับบ้านต่อไป