สั่งออกราชการ - แจ้ง 3 ข้อหา ส.ต.อ.ตบทรัพย์

สั่งออกราชการ - แจ้ง 3 ข้อหา ส.ต.อ.ตบทรัพย์

145106 ธ.ค. 67 11:53   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

รักษาการจเรตำรวจแห่งชาติ แจ้ง 3 ข้อหา ส.ต.อ.ตบทรัพย์ผู้เสียหายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมสอบวินัยร้ายแรง - สั่งออกราชการ เผยผู้ต้องหาติดการพนัน

(6 ธ.ค.67) จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก “อีซ้อขยี้ข่าว” โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า “เปิดแชตและคลิปเสียงของผู้เสียหายหลังถูกตำรวจ สภ.แห่งนึงใน จ.ชลบุรี เรียกตบทรัพย์เป็นจำนวน 150,000บาท เพื่อจะช่วยเร่งรัดคดีที่คุณแม่ถูกแก๊งมิจฯหลอกให้โอนเงินสองล้านสี่แสนบาท”


ส่วนนี่เป็นคลิปการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่าง ลูกชายของผู้เสียหายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดี โดยภายในคลิป ตำรวจบอกกับลูกชายผู้เสียหายว่า จะดูแลคดีนี้ให้แต่ต้องแลกกับเงินจำนวน 150,000 บาท เพื่อให้คดีคืบหน้า และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการเร่งสืบสวนสอบสวน 


ส่วนนี่คือภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ที่ตำรวจ เจ้าของคดีแต่งชุดเต็มเครื่องแบบเดินทางมาหาผู้เสียหายหน้าบ้าน หลังเข้าแจ้งความว่าถูกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกเอาเงินไปสองล้านสี่แสนบาท 



ส่วนนี่คือภาพจากกล้องวงจรปิด ภายในบ้านพักของผู้เสียหาย จะเห็นตำรวจเจ้าของคดี เดินเข้าไปนั่งพูดคุยกับครอบครัวผู้เสียหายอยู่ภายในบ้าน ด้วยท่าทางเคร่งเครียด



ล่าสุด พ.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รักษาการจเรตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมติดตามคดีที่ผู้เสียหายถูกนายตำรวจยศสิบตำรวจเอกตบทรัพย์ แลกช่วยทำคดีคอลเซ็นเตอร์หลอกเงิน ที่บริเวณห้องประชุมชั้นสอง สภ.แสนสุข โดยใช้เวลาประชุมนาน ประมาณ 1 ชม. ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์คืบหน้าทางคดีกับสื่อมวลชน ระบุว่า 


ตนในฐานะรักษาการจเรตำรวจแห่งชาติ ขออนุญาตเรียนว่า นี่เป็นนโยบาย 15 ข้อ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเรื่องความประพฤติของตำรวจ เรื่องนี้จึงต้องดำเนินการอย่างจริงจัง และจากการตรวจสอบพบว่า บุคคลที่ทำการตบทรัพย์ผู้เสียหาย เป็นตำรวจจริง ตัวเขาเพิ่งย้ายมาจากโรงพักในพื้นที่จังหวัดตราด 


ก่อนหน้านี้ ผู้เสียหายได้มาแจ้งความว่าตกเป็นเหยื่อถูกฉ้อโกงออนไลน์ 2,400,000 บาท เมื่อตำรวจท่านนี้ทราบเรื่องก็ได้ไปหลอกผู้เสียหายว่าสามารถช่วยเหลือเอาเงินคืนมาได้ แต่ต้องมีค่าตอบแทน จำนวน 250,000 บาท ทำให้ผู้เสียหาย หลงเชื่อยอมโอนเงินจำนวนดังกล่าวไปให้


เมื่อท่านผู้บังคับการจังหวัดชลบุรี ทราบเรื่องจึงสั่ง ดำเนินการในส่วนแรกคือ สอบสวนวินัยร้ายแรง และให้ตำรวจท่านนี้ออกจากราชการไว้ก่อนโดยทันที ในส่วนที่สอง ทางตำรวจนายนี้จะตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งขณะนี้ ถูกควบคุมตัวไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทางพนักงานสอบสวนมีการแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา ในมาตรา 149 เจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ มาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมาตรา 341 ข้อหา ฉ้อโกง กับตัวผู้ต้องหา ก่อนเตรียมนำตัว ส่งศาลจังหวัดชลบุรี ขออำนาจ ฝากขังดำเนินคดีต่อไปในช่วงบ่าย โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะมีการยื่นคัดค้านประกันตัว


จากการสอบสวนข้อเท็จจริง เชื่อว่า ผู้ต้องหาเกี่ยวข้องกับการพนัน มีนิสัยชอบเล่นการพนันเป็น ประจำ นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจทำเช่นนี้ และจากการสอบสวนไม่พบผู้เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดเพิ่มเติมแต่อย่างใด 


อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติของตัวผู้ต้องหาไม่พบว่าเคยกระทำความผิดในลักษณะนี้มาก่อน สุดท้ายนี้ อยากจะเรียนให้ประชาชนทราบว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้นิ่งนอนใจ ผู้บังคับบัญชาคอยสอดส่องความประพฤติของ ฃผู้ใต้บังคับบัญชามาโดยตลอด 


สุดท้ายนี้ เรื่องนี้เสียหายอย่างมาก ประชาชนหนีร้อนมาพึ่งเย็น แล้วกลับถูกเจ้าพนักงานกระทำการเช่นนี้ นี่เป็นคดีครั้งแรกที่ตนเห็น ตนในฐานะจเรตำรวจแห่งชาติจะสั่งกำชับตรวจสอบในภาพรวมไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ยืนยันว่าเป็นพฤติกรรมของเจ้าพนักงานที่ตนรับไม่ได้ 


นอกจากนี้ ในเรื่องที่ผู้เสียหายถูกผู้ต้องหาตบทรัพย์ไป 250,000 บาทนั้นเป็นความผิดส่วนบุคคลแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะช่วยติดตามเอาเงินคืนผู้เสียหายมาให้ ซึ่งผู้เสียหายสามารถติดตามทวงถามฟ้องร้องคดีแพ่งได้ ในส่วนของตำรวจก็จะช่วยดำเนินการหาเงินมาคืนให้เท่าที่สามารถทำได้ตามอำนาจหน้าที่

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง