ภูมิธรรม - หลิวจงอี้ - อ่องจอจอ ร่วมมือไตรภาคีจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ภูมิธรรม - หลิวจงอี้ - อ่องจอจอ ร่วมมือไตรภาคีจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ภูมิธรรม - หลิวจงอี้ - อ่องจอจอ จับมือแสดงความร่วมมือไตรภาคีจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยัน จีนไม่ละเมิดอำนาจอธิปไตย ส่วนการส่งคนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ครั้งหน้า จะไม่มีการตั้งค่ายค้างในไทย จะรับรายชื่อ ประสานสถานทูตให้มารับเองเท่านั้น
(20ก.พ.68) ที่ ท่าอากาศยานแม่สอด จ.ตาก นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย นายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายอ่อง จอจอ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แห่งสหภาพเมียนมา เดินทางถึงท่าอากาศยานแม่สอด โดยได้มีการไปตรวจสอบการคัดกรองเหยื่อคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน 48 คนสุดท้ายที่มีการส่งขึ้นเครื่องบินกลับไปยังประเทศจีน ด้วยสายการบิน China Southern Airlines
หลังจากนั้นทั้ง 3 คนได้ไปพูดคุยกันที่ห้องรับรอง ก่อนการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ทั้ง 3 คนได้ทำการจับมือเพื่อเป็นสัญลักษณ์การประสานความร่วมมือกันของ 3 ประเทศ ทั้งไทย เมียนมา และจีน
นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนบอกว่า วันนี้ได้มาติดตามการร่วมมือของทั้ง 3 ฝ่าย ซึ่งตามข้อตกลงที่คุยกันจะรับคนจีนชุดนี้เป็นชุดสุดท้าย ซึ่งที่เหลือจะมีการพูดคุยกันในไตรภาคี ส่วนเรื่องระบบไบโอเมทริกซ์ ที่หลายคนมีการตั้งข้อสังเกต ว่าทางการไทยมีการตรวจสอบหรือไม่นั้น ยืนยันว่ากระบวนการนี้เจ้าหน้าที่จะต้องมีการให้เหยื่อเข้าสู่กระบวนการทุกคน หากไม่ทำตัวเจ้าหน้าที่เองต้องมีความผิดและรับโทษ ซึ่งไม่มีใครเอาตัวเองไปเสี่ยง ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
ประเด็นที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า มีการสอดแทรกชาวอุยกูร์ไปในเที่ยวบินของชาวจีนวันนี้นั้น ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่มีแน่นอนและทุกขั้นตอนสามารถตรวจสอบได้ ส่วนกรณีที่ไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปถ่ายภาพใบหน้าของคนจีน ประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มีทั้งที่เป็นเหยื่อจริงๆและเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่พยายามตีเนียน หลังจากนี้จะมีการส่งต่อข้อมูลของทั้ง 3 ประเทศ ซึ่งจะต้องเห็นแก่เหยื่อและผู้ประสบภัยในครั้งนี้ด้วย
สำหรับเรื่องการตั้งค่ายอพยพ ประเด็นนี้ ไม่มีการอนุญาตให้ใครเข้ามาตั้งค่ายในประเทศไทยทั้งสิ้น เพราะไทยไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะมารับผู้อพยพและมีค่ายอพยพ เพราะที่มีอยู่ขณะนี้ก็ยังมีปัญหาอยู่ หากจะมีการส่งตัวเหยื่อมาให้ฝั่งไทย ต้องมีกระบวนการที่พร้อมรับเหยื่อกลับไปในประเทศนั้นทันที ไม่ใช่เพียงแค่ประเทศจีน ส่วนประเทศที่กระบวนการอาจจะยากหน่อยคือฝั่งของทวีปแอฟริกา เพราะประเทศในทวีปนี้ไม่ได้มีสถานทูตในประเทศไทยทั้งหมด
ด้านกรณีของจีนที่ทางการไทยยอมให้ผ่านเข้ามารับเหยื่อทางท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอดนั้น เนื่องจากเขาให้ เหตุผลว่า การที่จะไปรับเหยื่อจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เส้นทางค่อนข้างอันตรายและมีระยะทางไกล จึงมีการขออนุญาตทางการไทย ซึ่งทางการไทยเห็นว่าสามารถที่จะอนุญาตและสามารถให้การช่วยเหลือได้ เพราะเรื่องนี้เป็นภัยคุกคามของโลก มีผู้คนที่ถูกหลอกให้ไปเป็นเหยื่อด้วยส่วนหนึ่ง จึงแก้ปัญหาด้วยการช่วยเหลือตรงนี้
ส่วนมาตรการต่าง ๆ ที่ปฏิบัติไปก่อนหน้านี้ยังไม่มีการยกเลิก และจะดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมาตรการต่างๆนั้นได้ผลและมีการตื่นตัวของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
กรณีที่ฝ่ายค้านพยายามสะท้อนถึงมาตรการตัดไฟ ตัดน้ำมัน ตัดอินเทอร์เน็ต ให้เสนอมาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว อย่ามาใช้เป็นประเด็นทางการเมืองในการดิสเครดิตรัฐบาล เพราะเรื่องนี้ถือเป็นความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถ้าจัดการไม่ดีจะส่งผลให้เกิดผลกระทบ ซึ่งส่วนใหญ่รัฐบาลพยายามใช้กระบวนการที่เปิดเผย เพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมของโลก บางเรื่องยังต้องมีกระบวนการในการจัดการ และไม่สามารถเปิดเผยทุกอย่างได้ ถ้าพูดผ่านสื่อหมดก็ไม่สามารถที่จะจับคนร้ายได้
อย่างไรก็ดีกรณีที่นายหลิว จงอี้ ไม่มาแถลงข่าวด้วยกันนั้น จากการสอบถามเขาไม่ประสงค์ที่จะแถลงข่าว แต่จะขอยืนถ่ายรูปให้เห็นถึงความร่วมมือกันของ 3 ประเทศ
และที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงกลไกการคัดกรองระบบ NRM ว่าทางการไทยมีการตรวจสอบหรือไม่ ขอยืนยันว่าประเด็นนี้มีการตรวจสอบอย่างแน่นอน เพราะถ้าไม่ทำก็ถือว่ามีโทษ และชาวจีนชุดนี้ที่ออกนอกประเทศไปถือเป็นบุคคลต้องห้าม ไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้อีก
ส่วนผลการคัดกรองเหยื่อ 200 คนส่งตัวกลับประเทศจีนวันนี้ จะเป็นเหยื่อหรือเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่นั้นประเด็นนี้ขอยังไม่ตอบคำถาม
นายภูมิธรรม ระบุว่า ส่วนข้อเสนอ 4 ข้อที่นายหลิว จง อี้ได้เสนอมานั้น ทางการไทยได้ทำอยู่แล้วในบางข้อ แต่บางข้อที่จะให้มำ ตอนนี้ยังไม่ขอตอบ ขึ้นอยู่กับการประชุมไตรภาคีที่จะเกิดขึ้น
ทั้งนี้จำนวนคนที่ทางกองกำลังกะเหรี่ยง BGF. แบะ D.K.B.Aจะส่งกลับมีมากถึง 7,000 คน จริงหรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่ายังไม่สามารถระบุได้ รับทราบว่ามีความพยายามปราบและจะทยอยส่งคน ซึ่งจะมีการส่งรายชื่อมายังทางการไทยก่อน ส่วนรายชื่อตัวการของจีนที่ส่งให้ทางการไทย 3,700 รายชื่อนั้น ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะขึ้นแบล็กลิสต์ได้ ต้องรอดูผลการปราบปรามก่อน
ขณะที่มาตรการตัดไฟฟ้าและระงับส่งน้ำมัน ผ่านมา 15 วัน นายภูมิธรรมระบุว่าได้ผล เกิดความตื่นตัว กลุ่มกองกำลังได้ประกาศไม่เห็นด้วยจนมีมาตรการปราบปรามในวันนี้ ถ้าไม่มีกระบวนการ 3 ตัด เราในวันนี้คงไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในตอนนี้
ส่วนการส่งคนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตอนนี้ขอให้ส่งคนเท่านี้ ส่วนครั้งหน้าจะต้องรอให้ทางการพม่าส่งรายชื่อและรายละเอียดมาให้ทางการไทยตรวจสอบก่อน เพื่อให้เราติดต่อเอกอัครราชทูตประเทศต้นทางมารับประชาชนของเขาเอง รวมถึงประเทศจีนด้วย ซึ่งที่เราทำประเทศไทยได้รับคำชมจากประชาคมโลกได้ช่วยเหลือประชาชนของประเทศเขาได้
สำหรับจำนวนคนจากคอลเซ็นเตอร์ที่รวบรวมได้ประมาณ 2,000 คน นายภูมิธรรมก็จะใช้วิธีการส่งกลับในลักษณะเดียวกันเป็นกลุ่มจำนวน 200 คนเช่นเดียวกับจีน
ด้านกลุ่มเหยื่อที่ตกค้าง เช่น กลุ่มในประเทศเอธิโอเปีย แอฟริกา นายภูมิธรรมกล่าวว่า แผนคือการติดต่อสถานทูตให้เอาคนกลับไป ถ้ายังติดต่อไม่ได้คนเหล่านี้ยังคงต้องอยู่ฝั่งเมียนมา ซึ่งทั้งหมดจะไม่รับเข้าประเทศไทย เราเป็นเพียงประเทศที่อำนวยความสะดวกในการรับกลับเท่านั้น โดยปฏิบัติกับทุกชาติเหมือนกัน
ขณะที่มาตรการซีลชายแดน และการตรวจตู้คอนเทนเนอร์ที่นำเข้ามาจากจีนผ่านท่าข้ามไทยไปส่งให้กลุ่มทุนจีนโดยไม่สามารถเปิดตู้คอนเทนเนอร์ตรวจสินค้าต้องห้ามส่งให้เมียนมาได้ นายภูมิธรรม ระบุว่า ตรวจสอบได้ครับ เรากำลังเตรียมการอยู่ เราจัดการได้ จะเข้มข้นหรือไม่อยู่ที่ผล และการประเมิน
นายภูมิธรรมระบุว่า หลังจากนี้จะรีบตั้ง ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือ หรือ ศปช.เพื่อให้มีกระบวนการทำงานที่ชัดเจน กำหนดอำนาจการทำงานให้ชัดเจน ซึ่งตนในฐานะรองนายกรัฐมนตรีได้เสนอ โดยให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนาม
ข่าวเวิร์คพอยท์23