ผู้ปกครองระทม! ผ่านมาเกือบปีเพิ่งเห็น คลิปครูศูนย์เด็กเล็กใช้เท้าเหยียบคอเด็ก 4 ขวบก่อนตบหัวซ้ำ

ผู้ปกครองระทม! ผ่านมาเกือบปีเพิ่งเห็น คลิปครูศูนย์เด็กเล็กใช้เท้าเหยียบคอเด็ก 4 ขวบก่อนตบหัวซ้ำ

88802 มี.ค. 68 11:32   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

ผู้ปกครองระทม! ผ่านมาเกือบปีเพิ่งเห็น คลิปครูศูนย์เด็กเล็กใช้เท้าเหยียบคอเด็ก 4 ขวบก่อนตบหัวซ้ำ ล่าสุดแจ้งความดำเนินคดีแล้ว พ้อไม่นึกว่าโรงเรียนซึ่งเป็นที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด กลับมีการกระทำที่โหดร้ายเช่นนี้ จากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นครู ทำให้รู้สึกว่าลูกไม่ปลอดภัย

(2 มี.ค.68) จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ Tahnyamas Seafood ได้โพสต์คลิปลงในเพจดังในจ.สตูล คลิปดังกล่าวเป็นภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้นในศูนย์เด็กเล็กแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล คลิปดังกล่าวเผยให้เห็นภาพของนักเรียนกำลังยืนแถว ต่อมามีนักเรียนคนหนึ่งวิ่งออกมาแล้วชนกับเพื่อนอีกคนก่อนล้มลงไปนอนลงกับพื้น 


ต่อมาปรากฏภาพของผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าไปใช้เท้าเหยียบเด็กชายคนดังกล่าวเมื่อเด็กลุกขึ้นนั่งผู้หญิงคนดังกล่าวก็ได้ใช้มือตบตรงศีรษะเด็กชายไปอีก 1 ครั้ง จนกระทั่งผู้หญิงเสื้อสีดำเดินเข้ามาประคองเด็กให้ลูกขึ้น คลิปดังกล่าวมีการแชร์และแสดงความคิดเห็นกันมากมาย

    

ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อสอบถามไปยังเจ้าของคลิป ซึ่งได้ทราบว่าเป็นแม่ของเด็กชายผู้ถูกกระทำโดยให้ข้อมูลว่า ตนแยกทางกับพ่อเด็ก เรื่องข้อมูลที่เกิดขึ้นให้ไปสอบถามที่พ่อของเด็กก่อน 


นางดวงดาว ยายของเด็ก เล่าว่า พ่อของเด็กได้คลิปมาจากผู้หวังดี หลังจากครอบครัวได้เห็นคลิปก็รู้สึกหดหู่ใจและเสียใจมาก นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงที่กระทำดังกล่าวเป็นครูในศูนย์ที่นั่น จากการตรวจสอบคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม ปี 2567 ซึ่งใกล้จะครบปีแล้ว ขณะนั้นหลานชายตัวเองอายุ 4 ขวบเรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1 แต่ตนและครอบครัวเพิ่งได้เห็น เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2568 ปีนี้ 


ตอนนี้หลานอยู่ชั้นอนุบาล 2 แล้ว ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเรื่องราวว่าครูในศูนย์ดังกล่าวทำร้ายเด็กเหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอกับหลานตัวเอง หลังจากได้เห็นคลิปก็ได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ทุ้งว้า และได้เดินทางเข้าร้องทุกข์กับ นายชัยยา ฤทธิ์เดช นายก อบต.ทุ่งบุหลัง โดยนายยกได้รับทราบเรื่องแล้วและพร้อมดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อสอบสวนหาความจริงและสาเหตุที่เกิดขึ้น

   

นางดวงดาว เล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้ตนนึกได้ว่าหลานเคยมาบอกว่าเจ็บคอโดนเหยียบที่คอไม่อยากไปโรงเรียน แต่ทางพ่อและญาติก็คิดว่าคงจะซุกซนและทะเลาะกับเพื่อนตามประสาเด็กซน ก็เลยไม่ถามอะไร

  

หลังจากมีคลิปหลุดไป ทางฝั่งผู้ก่อเหตุก็ติดต่อผ่านคนอื่นมาเพื่อจะมาที่บ้านแต่ทางพ่อเด็กและญาติๆไม่อนุญาต และไม่ขอพูดคุยเจรจาใดๆ เนื่องจากถือว่าการกระทำดังกล่าวมันรุนแรงเกินไป จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด


ต่อมา นายกริชชัย ภู่ฉุน นายอำเภอทุ่งหว้า ได้เดินทางมายังบ้านของเด็กชายดังกล่าวเพื่อเยี่ยมเยียนและติดตามสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยว่า หลังจากที่ตนเองได้รับทราบข้อมูลก็ได้ติดต่อพูดคุยกับนายชัยยา ฤทธิ์เดช นากอบต.ทุ่งบุหลัง โดยยืนยันว่าผู้กระทำดังกล่าวเป็นครูในศูนย์เด็กเล็กของอบต.ทุ่งบุหลังจริง จึงได้พูดคุยในเรื่องของการดำเนินการทางสอบสวน ส่วนแรกที่จะต้องดำเนินการกับผู้ที่ปฏิบัติในคลิป คือด้านวินัยโดยนายกฯก็ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อสอบสวนอาผิดทางวินัย โดยระหว่างการสอบสวนจะทำหนังสือไปยังต้นสังกัดเพื่อพิจารณาส่งเจ้าหน้าที่ ที่ก่อเหตุออกนอกพื้นที่ไปก่อนเพื่อไม่ให้มายุ่งกับการสอบสวน 


ในส่วนที่ 2 ทราบว่าทางผู้เสียหายได้เข้าไปแจ้งความไว้แล้ว ทางตนเองได้พูดคุยกับทางผู้กำกับการสภ.ทุ่งหว้า เพื่อสอบสวนในด้านทางอาญาเนื่องจากการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายกันกระทำความผิดในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ซึ่งทางตำรวจจะเร่งสอบสวนสืบสวนให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายต่อไป


ในส่วนที่ 3 เรื่องการเยียวยาผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กชายอายุแค่ 5 ขวบ ทางตนเองจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาประเมิน เรื่องของผลกระทบทางด้านร่างกายและจิตใจซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุด 


อย่างไรก็ตามทางนายอำยังฝากขอบคุณโซเชียลที่ได้แชร์เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้นำมาสู่การช่วยเหลือและนำไปสู่การแก้ไข เพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก

 

นางสาวธัญญมาศ ผู้เป็นแม่ เผยว่า ตนเองกับพ่อเด็กเลิกรากันตั้งแต่ลูกยังเล็ก โดยตกลงกันว่าพ่อจะเป็นผู้ดูแลลูก แต่ตนก็จะไปรับลูกมาอยู่ด้วยทุวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ส่วนคลิปที่ตนโพสต์ลงโซเชียล พ่อเด็กเป็นคนส่งมาให้ เมื่อได้เห็นถึงกับน้ำตาไหล ไม่นึกว่าโรงเรียนซึ่งเป็นที่คิดว่าปลอดภัยที่สุดที่ผู้ปกครองทุกคนให้ความไว้ใจ กลับมีการกระทำที่โหดร้ายเช่นนี้จากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นครู ทำให้รู้สึกว่าลูกไม่ปลอดภัย 


ก่อนหน้านี้ลูกก็เคยเล่าให้ฟังว่าคุณครูคนดังกล่าวเหยียบคอ แต่ตนก็ไม่เชื่อคิดว่าเป็นข้ออ้างของเด็กที่ไม่อยากไปโรงเรียน แต่พอเห็นคลิปตนเองเสียใจมาก แต่อย่างไรก็มอบหน้าที่ให้ทางพ่อของลูกดำเนินการก่อน แต่ตนเองก็ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เช่นกันเพราะไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้กับเด็กๆคนไหนอีก 


อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ยังอยู่ในช่วงสืบสวนหาความจริง โดยทุกฝ่ายยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้ง2ฝ่าย แต่หากพบการกระทำความผิดจริงก็จะลงโทษตามวินัยและกฎหมายโดยไม่ละเว้น

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง