แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้คนดีกลายเป็นใบ้ขายทอง
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้คนดีกลายเป็นใบ้ขายทอง
แก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำได้ หลอกสาวให้กลายเป็นใบ้แล้วนำทองไปขายมาโอนปิดคดี โชคดีเจ้าของร้านทองสงสัย ดูโทรศัพท์เชื่อเป็นตำรวจปลอม
วันที่ 18 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ดุจฤดี (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปีเจ้าของห้างทอง ในตลาดคิวรถ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้เป็นวิทยาทาน เกรงว่าคนอื่นๆจะโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกในลักษณะที่ชาวบ้านทั่วไป อาจจะไม่รู่เท่าทัน
น.ส.ดจฤดี เล่าว่า วันนี้ได้มีลูกค้าเป็นหญิง นำทองคำน้ำหนักประมาณบาทเศษ คิดเป็นเงินประมาณ 50,000 บาทมาขายที่ร้าน แต่เป็นลูกค้ามีท่าทางลุกลี้ลุกลน เหมือนหวั่นวิตกอะไรบางอย่าง ไม่ยอมพูด และได้ขอกระดาษกับปากกาจากทางร้าน เพื่อเขียนสื่อสารกัน ใจความที่เขียนมาระบุว่า "ขายทองทั้งหมดเป็นเม็ดเงินโอนเข้าบัญชีเพื่อตรวจสอบสินทรัพย์ มีไหม"
จากนั้น ตนได้สังเกตโทรศัพท์ของลูกค้า เหมือนมีสายคุยอยู่ เห็นว่ามาจาก สภ.ขอนแก่น จ.ขอนแก่น จึงเริ่มเอะใจ จึงพยายามถ่วงเวลา ปฏิเสธการรับซื้อ จนเวลาผ่านไปกว่า 30 นาที สุดท้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ยอมวางสายไป
เมื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์วางสายไปแล้ว ตนได้สอบถามลูกค้า คือ น.ส.อา (นามสมมุติ) ที่เอาทองมาขาย ได้รับคำตอบว่า "มีคนโทรศัพท์มาบอกว่าติดคดีพร้อมส่งภาพหมายจับมาให้" จากนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถามว่า "มีเงินในบัญชีเท่าไหร่" ผู้เสียหายบอกว่ามี 400 บาท แก๊งคอลเซ็นเตอร์บอกว่า "มีทองหรือไม่" พอทราบว่ามีทองอยู่ มิจฉาชีพก็ให้นำทองคำทั้งหมดไปขายที่ร้านทอง แล้วโอนเข้าบัญชีเพื่อตรวจสอบ และห้ามบอกสามีและห้ามบอกใครเด็ดขาด แม้กระทั่งร้านทอง ให้เขียนหนังสือสื่อสารกัน ทำให้ น.ส.อารี ไม่กล้าแม้แต่จะพูดกับร้านทอง จึงอยากจะฝากแจ้งเตือนคนทั่วไปว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาหลากหลายรูปแบบ แทบจะตามไม่ทัน โดยเฉพาะคนทั่วไปที่ไม่ค่อยดูข่าวสาร อาจตกเป็นเหยื่อได้ - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน