ผู้เสียหายค้านประกันตัว 18 บอส ดิ ไอคอน
ผู้เสียหายค้านประกันตัว 18 บอส ดิ ไอคอน
ผู้เสียหายยื่นหนังสือคัดค้านการประกันตัว 18 บอส ดิไอคอน บอกอยู่ในเรือนจำยังปล่อยข่าวออกมาข่มขู่
(3 ม.ค. 68) ที่ศาลอาญารัชดาตัวแทนจากผู้เสียหายจาก กรณีของ บริษัทดิไอคอนกรุ๊ปจำกัด เดินทางมาที่ศาลอาญา เพื่อยื่นคัดค้านการประกันตัว 18 บอสดิไอคอน โดยมีการนำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับการข่มขู่, ให้สัมภาษณ์, และในเรื่องของการฟอกขาว แนบมาเพื่อเป็นคำร้องให้ศาลพิจารณา
นางสาวพัชริศา หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า วันนี้พวกเราเป็นตัวแทนของกลุ่มผู้เสียหายและรวบรวมรายชื่อผู้เสียหาย 355 คน โดยมีมูลค่าความเสียหาย กว่า 120 ล้านบาท จากจำนวนคนทั้งหมด 2,800 คน ที่ตอนนี้กำลังรวบรวมข้อมูล
นางสาวพัชริศามองว่า การกระทำของทางบอสดิไอคอน เปรียบเสมือนกับสงครามจิตวิทยา เพราะทางฝั่งบริษัทดิไอคอนมีการปลุกระดมคนเพื่อปั่นป่วนหรือข่มขู่วิธีไหนพวกเราก็ไม่สนใจ เพราะวันนี้ตนมายื่นคัดค้านตามกฎหมายที่สามารถกระทำได้ ซึ่งพวกเราไม่มีปัญญาที่จะไปจ้างทนายความให้เป็นกระบอกเสียงได้เพราะลำพังผู้เสียหายก็หมดเนื้อหมดตัวและลำบาก จึงไม่มีเงินเพียงพอที่จะไปต่อสู้ หลังจากนี้จะมีผู้เสียหายตามมายื่นเรื่องที่ศาลเรื่อยๆ
หลังจากมีกระแสออกมาว่าทางฝั่งผู้เสียหายบางส่วนได้มีการถอนแจ้งความนั้น ตนมองว่าจริงๆแล้วไม่สามารถที่จะถอนแจ้งความได้อยู่แล้ว แต่คือการไปบันทึกการแจ้งความใหม่เท่านั้นเอง ซึ่งการบันทึกการแจ้งความครั้งแรกและครั้งที่สอง จะต้องมีหนึ่งครั้งที่เป็นเท็จอย่างแน่นอน แต่ตนขอไม่ก้าวล่วงให้เป็นไปตามกฎหมายและเจ้าหน้าที่ว่าจะมีการพิจารณาอย่างไร ทั้งนี้เชื่อว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
ด้านนายสุรเดช อีกหนึ่งในผู้เสียหาย ระบุว่า ตนเคารพในการตัดสินใจของผู้พิพากษาและศาล แต่เพียงต้องการให้ผู้พิพากษาเห็นว่าในคดีนี้มีผู้เสียหายจริงๆ ไม่ใช่อย่างที่พวกบอสดิไอคอนพูดว่าคดีนี้ไม่มีผู้เสียหาย ซึ่งการมาในครั้งนี้ของพวกตนจะทำให้ศาลเห็นภาพมากขึ้น ซึ่งทุกอย่างอยู่ในดุลยพินิจของศาล ไม่ว่าการตัดสินนั้นจะเกิดอะไรขึ้นตนก็พร้อมที่จะรับคำตัดสิน แม้ว่าทาง บอสดิไอคอนนั้นจะได้รับการประกันตัว ตนก็เคารพการตัดสินใจ เพียงแต่วันนี้มาทำหน้าที่ในส่วนของผู้เสียหาย
ทั้งนี้นายสุรเดชยัง ระบุอีกว่า เอกสารที่พวกตนนำมาในครั้งนี้สามารถที่จะตรวจสอบได้ เพราะตนมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด โดยทุกคนจะต้องมีเอกสารในการแจ้งความเท่านั้น ทั้งนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่า สิ่งที่ตนไม่เชื่อว่าบ้านเมืองเราได้มีปรากฎการว่าผู้กระทำความผิด พยายามที่จะบอกว่าตนเองไม่ผิดและพยายามสร้างม็อบกดดันเพื่อหาความยุติธรรมให้ซึ่งตนอยากขอบคุณ DSI ปปง. ที่ทำหน้าที่ตามพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงมา
ซึ่งยอมรับว่าผู้เสียหายบางส่วนนั้นเกิดความกังวลหาก บอสดิไอคอนจะถูกประกันตัวออกมา เพราะขนาดตอนที่อยู่ในเรือนจำก็ยังมีพฤติการณ์การข่มขู่ออกมา โดยการส่งจดหมายว่าคดีนี้ไม่มีผู้เสียหาย แต่สำหรับกลุ่มของพวกตนนั้น ความจริงคือความจริง สามารถต่อสู้ได้บนหลักยุติธรรมซึ่งถ้าหากพวกบอสไม่ผิด แต่พวกตนเป็นคนกล่าวหา ทางบอสก็สามารถที่จะดำเนินการตามกฎหมายได้
ส่วนที่ผ่านมามีกลุ่มของพยานดิไอคอนไปยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดนั้น ตนมองว่าทำได้เพียงแค่ร้องขอความเป็นธรรมซึ่งไม่ใช่ว่าร้องไปแล้วจะมีคำสั่งว่าไม่ฟ้อง มองไม่เกี่ยวกันเพราะว่ามันเป็นสิทธิ์ที่พยานร้องได้แต่กฎหมายก็คือกฎหมาย บ้านเมืองไม่เคยปรากฏการณ์ที่มีผู้กระทำความผิดแต่พยามจะบอกว่าตนไม่ผิดและพยามจะสร้างม็อบเพื่อกดดันความยุติธรรม
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ถ้าหากทนายฝั่งบอสดิไอคอนจะแจ้งความเท็จกลับ นายสุรเดช เผยว่า ตนไม่กังวลและสู้ให้ถึงที่สุด และกำลังปรึกษาทีมของผู้เสียหายที่สูงอายุ เพราะจะพาไปร้องความเป็นธรรมกับรัฐบาล ให้ทำอย่างไรที่จะเยียวยาผู้สูงอายุได้ก่อนเพราะคนพวกนี้ไม่อาจจะรอได้ถึงคดีสิ้นสุด เพราะผู้เสียหายบางคนก็เสียชีวิตแล้ว