เห็นภาพคนตายในบ้านคิดว่าตายหมดแล้ว ยกเค้าทั้งหลัง
เห็นภาพคนตายในบ้านคิดว่าตายหมดแล้ว ยกเค้าทั้งหลัง

ตำรวจรวบทันควันหนุ่มวัย 35 ปี พร้อมของกลางครบกว่า 20 รายการ หลังเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้านที่ไม่มีคนอยู่ เจ้าตัวสารภาพทำจริงคนเดียว ที่เข้าไปเพราะเห็นภาพคนตายตั้งอยู่ในบ้านคิดว่าเจ้าของบ้านตายหมดแล้ว พบฉี่ม่วง
(11 มี.ค.68) ชาวบ้านได้ว่ามีหัวขโมยเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้าน หมู่ที่ 14 ต.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ทรัพย์สินที่อยู่ภายในบ้านหายไปทั้งหมด พ.ต.อ.พงศกร พลยางนอก ผกก.สภ.นาโพธิ์ ได้สั่งการและกำชับผู้ใต้บังคับบัญชาให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะอาจจะเกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดได้ ต่อมา พ.ต.ท.นาวิน เกตผักแว่น รอง.ผกก (สืบสวน) พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ออกสืบสวนติดตามคนร้ายไป จนพบผู้ต้องสงสัยคือนายกฤษดา หรือแอ๋ม อายุ 35 ปี ซึ่งมีพฤติกรรมเสพยาเสพติดและลักขโมย มีบ้านอยู่ห่างจากบ้านผู้เสียหายเพียง 500 เมตร
เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในบริเวณบ้าน พบสิ่งของที่คาดว่าเป็นของผู้เสียหายอยู่ภายในบ้านจำนวนมาก จึงนำผู้เสียหายเข้าไปตรวจดู และผู้เสียหายยืนยันว่าเป็นทรัพย์สินที่ถูกคนร้ายลักไปจริง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดทรัพย์สินพร้อมจับกุม พร้อมของกลางประกอบด้วย
1.ตู้เย็น จำนวน 1 หลัง
2.โทรทัศน์ จอแบน ขนาด 55 นิ้ว 1 เครื่อง
3.โทรทัศน์ จอแบน ขนาด 40 นิ้วจำนวน 1 เครื่อง
4.เครื่องซักผ้า จำนวน 4 เครื่อง
5.พัดลมตั้งพื้น จำนวน 3 ตัว
6.ไมโครเวฟ จำนวน 1 ตัว
7.หมอหุงข้าว จำนวน 1 ตัว
8.เครื่องปิ้งขนมปัง จำนวน 1 ตัว
9.รถเข็น จำนวน 1 คัน
10.รั้วลวดหนาม จำนวน 25 ขด
11.ผ้าไหมและเสื้อผ้า อยู่ระหว่างการตรวจนับ
12.เครื่องครัว อยู่ระหว่างการตรวจนับ และยังมีเครื่องมือช่าง อยู่ระหว่างการตรวจนับอีกเป็นจำนวนมาก
ตำรวจสอบสวนนายกฤษดา หรือแอ๋ม ผู้ก่อเหตุสารภาพว่าเป็นคนเข้าไปขนของภายในบ้านจริง ใช้เวลาขนทั้งหมด 3 วัน ทยอยขนใส่รถของเจ้าของบ้าน เพราะก่อเหตุเพียงคนเดียว สาเหตุที่เข้าไปเอาของในบ้าน คิดว่าเจ้าของบ้านตายทั้งหมดแล้ว เพราะเห็นรูปผู้ตายตั้งคู่กันอยู่แต่ไม่มีใครอยู่บ้าน
นางยุพร อายุ 63ปี พี่สาวเจ้าของบ้าน เล่าว่า ปกติน้องชายคือเจ้าของบ้านจะไปทำงานอยู่กรุงเทพฯ จะให้น้องชายอีกคนเป็นคนดูแลคอยแวะมาดูบ้านบ้าง แต่ไม่มีสิ่งผิดปกติ ไปดูล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 9 มี.ค.น้องชายอีกคนที่อยู่บุรีรัมย์ ได้ไปดูบ้านพบรถเข็นที่อยู่ข้างบ้านหายไป จึงเข้าไปดูพบว่าทรัพย์สินภายในบ้านถูกขโมยไปเกลี้ยงบ้าน ไม่เว้นเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้คนร้ายขนเอาไปทั้งหมด
นางยุพร เล่าด้วยว่า ตอนแรกไม่คิดจะแจ้งความ เพราะสามีบอกว่าทรัพย์สินหาเอาใหม่ได้ ทำบุญมากกว่านี้ แต่พอคิดอีกมุมไม่อยากจะให้คนร้ายลอยนวลขนาดนี้ และไม่อยากไปสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอีก เพราะผู้ต้องสงสัยจนกลายมาเป็นคนร้ายตัวจริงคือนายแอ๋ม ก่อเหตุลักเล็กขโมยน้อยในหมู่บ้านจนชาวบ้านเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก จึงตัดสินใจให้น้องชายไปแจ้งความเอาผิด ยอมรับว่าตำรวจตามจับได้อย่างรวดเร็ว แจ้งตอนเช้าตอนบ่ายจับได้
ทั้งนี้หลังสอบสวนตำรวจตั้งข้อหานายกฤษดา ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถานหรือรับของโจร และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” เพราะจากการตรวจปัสสาวะพบฉี่เป็นสีม่วง