ย้อนรอยความสำเร็จ “วิว กุลวุฒิ”

(เรียบเรียงโดย: ปิยะธิดา ผ่านจังหาร)

“วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ วินาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักนักแบดมินตันหนุ่มวัย 23 ปี คนนี้ ด้วยผลงานการแข่งขันแบดมินตันชายเดี่ยว โอลิมปิก 2024 ที่โดดเด่น สามารถโค่นคู่แข่งสุดหินอย่าง “สือ อวี่ฉี” มือวางอันดับ 1 ของโลกจากประเทศจีน ไปด้วยคะแนน 2-0 เกม ส่ง “วิว” เข้าไปเจอ “หลี จื่อเจีย” มือวางอันดับที่ 7 ของโลกจากมาเลเซีย ในรอบเซมิไฟนอล และก็เอาชนะไปได้อย่างงดงามด้วยคะแนน 2-0 เกม

ทำให้ “วิว” กลายเป็นนักแบดมินตันไทยคนแรกที่ไปได้ไกลถึงรอบชิงชนะเลิศในการแข่งขันโอลิมปิก โดยเขาจะพบกับ “วิคเตอร์ แอ็กเซลเซ่น” มือวางอันดับ 2 ของโลกจากประเทศเดนมาร์ก ในตัดเชือก 5 ส.ค. นี้ ก่อนเกมจะเริ่ม ข่าวเวิร์คพอยท์23 ขอชวนไปย้อนเส้นทางชีวิตของนักกีฬาหนุ่มคนนี้ จากวันแรกที่เริ่มจับไม้แบดมินตันสู่ความหวังของชาวไทย

ประวัติส่วนตัว

“วิว” กลวุฒิ วิทิตศานต์ เกิดเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 อายุ 23 ปี นักกีฬาแบดมินตันแชมป์โลก มีน้องสาว 1 คน คือ “ส้ม” สรัลรักษ์ วิทิตศานต์ ซึ่งเป็นนักกีฬาแบดมินตันเช่นกัน ทั้งคู่เป็นบุตรของณัฐวัชร และนัฎกนก วิทิตศานต์ ในด้านการศึกษา ได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนปิยะพงษ์วิทยา ในระดับประถมศึกษา ปัจจุบันเข้ารับการศึกษานอกระบบโรงเรียน

เส้นทางนักกีฬาแบดมินตัน

วิวเริ่มสนใจการเล่นแบดมินตันครั้งแรกตอนอายุ 7 ขวบ เนื่องจากเป็นโรคภูมิแพ้ตั้งแต่เด็ก จึงอยากเล่นเพื่อสุขภาพ ซึ่งคุณพ่อเป็นครูสอนแบดมินตัน เป็นจุดเริ่มต้นของการเริ่มเล่นกีฬาแบดมินตัน หลังจากเล่นไปเรื่อย ๆ อาการภูมิแพ้ก็ดีขึ้น เข้าโรงบาลน้อยลง จากนั้นก็ตามไปฝึกกับพ่ออยู่บ่อยครั้ง

จนช่วงอายุ 9 ขวบ มีโอกาสได้ลงแข่งกีฬาครั้งแรกและได้อันดับสาม ทำให้เป็นการจุดไฟให้เกิดความชอบจนเริ่มเรียนแบดมินตันจริงจังกับชมรมแบดมินตันเสนานิคม จากนั้นได้ย้ายไปยังชมรมแบดมินตันอมาตยกุล เมื่อได้ลงแข่งมาเรื่อยๆ วิวได้รับรางวัลชนะเลิศอย่างสม่ำเสมอ พออายุ13 ปีจึงย้ายมาอยู่ที่โรงเรียนแบดมินตันบ้านทองหยอดและกลายเป็นหนึ่งในนักกีฬารุ่นเยาวชนที่ประสบความสำเร็จและเป็นนักกีฬาดาวรุ่งของรุ่นมาโดยตลอด

นักกีฬาระดับเยาวชนนานาชาติ

ในปี 2557 วิวในวัย 13 ได้รับโอกาสลงแข่งขันในระดับชาติและระดับนานาชาติ แข่งขันรายการแบดมินตันเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยเป็นครั้งแรก ในรุ่นอายุต่ำกว่า 14 ปี และได้รับรางวัลชนะเลิศ หลังจากนั้นก็ได้รับรางวัลชนะเลิศในรายการเดียวกันทุกปีติดต่อกันเป็นเวลา 4 ปี คือ รุ่นอายุต่ำกว่า 14 ปี (2557 และ 2558), รุ่นอายุต่ำกว่า 16 ปี (2559) และรุ่นใหญ่ที่สุด รุ่นอายุต่ำกว่า 19 ปี (2560)

จากนั้นพัฒนาฝีมือจนได้เข้าการแข่งขันระดับนานาชาติ เริ่มจากรายการแบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย วิว เข้าร่วมแข่งขัน รุ่นอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ.2557 และได้รับรางวัลชนะเลิศ เช่นเดียวกับปี พ.ศ.2559 และ 2560 และในรายการเดียวกันนี้ รุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปี ก็ได้รับรางวัลชนะเลิศเช่นเดียวกัน

ปี 2560 ในการแข่งขันระดับเยาวชนนานาชาติ รุ่นอายุต่ำกว่า 19 ปี ยังคงได้รับรางวัลชนะเลิศในหลายรายการสำคัญและได้สร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยในรายการแบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์โลก ประเภทชายเดี่ยว ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ เป็นครั้งแรก ด้วยวัยเพียง 16 ปี 5 เดือนและยังชนะเลิศอีกครั้งเป็นสมัยที่ 2 ในปี พ.ศ.2561 อีกด้วย

ปี 2565 กีฬาซีเกมส์ ที่ประเทศเวียดนาม วิว สามารถคว้าเหรียญทองให้กับประเทศไทยได้อีกครั้ง และ ปี 2566 ก็สามารถคว้าแชมป์ โยเน็กซ์-ซันไรส์ อินเดีย โอเพ่น 2023 เอาชนะ วิคเตอร์ แอ็กเซลเซ่น มือ 1 ของโลก จากเดนมาร์ก ได้อย่างสวยงาม

แชมป์แบดมินตันโลก

สหพันธ์แบดมินตันโลก(BWF) ประกาศอันดับโลกนักแบดมินตัน ในประเภทชายเดี่ยว วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดทีมชาติไทย จากเดิมเป็นมือวางอันดับ 11 ของโลก ก้าวสู่อันดับ 10 ของโลกเป็นครั้งแรก จากการคว้าแชมป์โยเน็กซ์ ซันไรส์ อินเดีย โอเพ่น 2023 ส่งผลให้ปัจจุบันอันดับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 8 ของโลกอย่างเป็นทางการ

ปี 2566 วิว ยังคงทำผลงานออกมาได้ดีด้วยการคว้าแชมป์อีก 2 รายการ คือ อินเดีย โอเพ่น และ ไทยแลนด์ โอเพ่น รวมถึงคว้ารองแชมป์ยูเอส โอเพ่น คว้าอันดับ3 ในรายการ มาเลเซีย โอเพ่น และ สิงคโปร์ โอเพ่น ทำสถิติสูงสุดของนักแบดมินตันไทยประเภทชายเดี่ยว สร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ ด้วยการเป็นนักแบดมินตันคนแรกของไทยที่เข้าชิงชนะเลิศแชมป์โลก 2 ปีติด และคว้ารองแชมป์ในปีที่แล้ว

ในปีเดียวกัน ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง วิว สามารถคว้าแชมป์โลก 2023 ได้สำเร็จ เอาชนะ โคได นาราโอกะ มืออันดับ 4 ของโลก จากญี่ปุ่น ไป 2-1 เกม นับเป็นแชมป์โลกประเภทชายเดี่ยวคนแรกของประเทศไทย ขึ้นแท่นแชมป์โลกคนที่ 3 ของไทย

โอลิมปิก 2024

ปี 2567 เป็นครั้งแรกที่ วิว ได้เข้าร่วมแข่งขันแบดมินตันประเภทชายเดี่ยว ในระดับโอลิมปิก กับโอลิมปิกปารีส เกมส์ 2024 จากการแข่งขันที่ผ่านมา ได้สร้างประวัติศาสตร์มากมายให้กับประเทศไทยอีกครั้ง ด้วยการเอาชนะ มือ 1 ของโลก อย่าง สือ อวี่ฉี จากจีน ในรอบก่อนรองชนะเลิศ เอาชนะ มือ 7 ของโลกอย่าง หลี จื่อเจีย จากมาเลเซีย ในรอบรองชนะเลิศ และลุ้นเหรียญแห่งประวัติศาสตร์นี้อีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศ ในวัน 5 ส.ค. 2567  

สถิติ (ชายเดี่ยว)

อันดับโลกสูงสุด 3 (6 มิถุนายน 2023)

อันดับโลกปัจุบัน 8 (16 กรกฎาคม 2024)

ที่มา : wikipedia, https://sport.trueid.net/detail/4M8jJKrLr2vN

Photo by Luis TATO / AFP