พรรคร่วมฝ่ายค้านเดินหน้า ขับเคลื่อน 4 ประเด็น ‘กาสิโน-แก้ รธน.-นิรโทษกรรม-ไม่ไว้วางใจ’
พรรคร่วมฝ่ายค้านเดินหน้า ขับเคลื่อน 4 ประเด็น ‘กาสิโน-แก้ รธน.-นิรโทษกรรม-ไม่ไว้วางใจ’

พรรคร่วมฝ่ายค้านบรรลุข้อตกลงร่วม ขับเคลื่อน 4 ประเด็น “ต้านกาสิโน-แก้รัฐธรรมนูญ-นิรโทษกรรม-อภิปรายไม่ไว้วางใจ” - ปัดตอบชื่อนายกฯ ชั่วคราว ระบุแค่เข้าใจคลาดเคลื่อน
(3 ก.ค. 68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงข่างหลังการประชุมร่วมกับพรรคฝ่ายค้านครั้งแรกในสมัยการประชุมนี้ ว่า ภายใต้สถานการณ์ที่วิกฤตของประเทศ และวิกฤติศรัทธาของประชาชนต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาล จุดยืนของฝ่ายค้านจะใช้กลไกทางรัฐสภา หาทางออกให้กับประเทศยึดหลักการทำงาน แสวงหาจุดร่วมที่จะผลักดันร่วมกันได้ ให้เกียรติและเคารพซึ่งกันและกัน ในจุดยืนของแต่ละพรรค ที่บางพรรคยังมีข้อคิดเห็นแตกต่างกัน
สำหรับวันนี้มีการหารือใน 4 ประเด็น โดยประเด็นแรกที่เห็นตรงกันซึ่งเป็นจุดร่วมที่จะใช้สัพพะกำลังเดินหน้ากลไกในสภา เพื่อกดดันให้รัฐบาล หยุดเดินหน้าหรือถอนร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจรหรือ Entertainment Complex ออกไป โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องให้ความเชื่อมั่นจะไม่มีการนำเสนอร่างนี้กลับเข้ามาอีก
ประเด็นที่ 2 คือการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ในขณะนี้ยังไม่สามารถลงรายละเอียด แต่สิ่งหนึ่งที่ยืนยันในหลักการคือจะต้องปลดล็อคการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยการทำประชามติ ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะต้องทำ ก่อนแก้ไขมาตรา 256 เพื่อเปิดช่องให้มีการตั้งสสร.หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณและหาทางออกให้กับประเทศ และการเมืองในปัจจุบันพรรคฝ่ายค้านจะใช้กลไกในสภา เดินหน้าเสนอจัดทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งใหม่
ประเด็นที่ 3 คือการเสนอให้มีกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งในพรรคร่วมฝ่ายค้านยังมีความเห็นที่ไม่ตรงกันโดย จะมีการตั้งคณะทำงานมาศึกษาในเรื่องนี้
และประเด็นที่ 4 คือเรื่องของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 ที่ตอนนี้เห็นตรงกันว่าสถานการณ์ภายใต้นิติสงคราม ยังมีความไม่แน่นอนสูง ดังนั้นเราจะต้องประเมินในเรื่องสถานการณ์การเมืองก่อน และรอความชัดเจนทางคดีที่ศาล รัฐธรรมนูญจะพิจารณาคดีต่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ก่อนตัดสินใจว่าจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อไหร่
“ในส่วนที่อาจมีรายละเอียดที่จะต้องถกกันต่อหารือกันต่อ ไม่ว่าการเดินหน้าแก้ไขรัฐ การเดินหน้าเสนอพิจารณากฎหมายที่นิรโทษกรรม การยื่นญัติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 151 ทั้ง 3 เรื่อง รวมถึงเรื่องอื่นในอนาคตเป็นส่วนที่คณะทำงานพรรคฝ่ายค้านจะหารือในอนาคตต่อไป เป็นสิ่งที่พรรคฝ่ายค้านให้เกียรติร่วมประชุมกันในข้อสรุปในการทำงานร่วมกันในฐานะพรรคฝ่ายค้าน” นายณัฐพงษ์กล่าว
เมื่อถามถึงข้อเท็จจริงกรณีการเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว นายณัฐพงษ์ระบุว่า ต้องให้เกียรตินายอนุทินชี้แจงเพิ่มเติม แต่ย้ำถึงหลักการการประชุมวันนี้คือการหาทางออกให้กับประเทศแล้ววันนี้ยังไม่เหมาะสมที่จะพูดถึงสถานการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น และขณะนี้นายกรัฐมนตรียังคงชื่อ “แพทองธาร ชินวัตร” เพียงแต่ถูกคำสั่งศาลให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ แต่การวิเคราะห์การเมือง การประมวลฉากทัศน์ทางการเมืองไปข้างหน้า นักวิเคราะห์ทุกคนสามารถวิเคราะห์ได้ การหารือเป็นการภายในมีการพูดคุยถึงเรื่องนี้และยืนยันว่าพรรคฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคทุกคน มีการหารือกันว่า จะไม่ทำให้การเมืองเดินถึงทางตัน ยังไงมีทางออก ส่วนรายละเอียดคุยกันในสถานการณ์ข้างหน้าได้ส่วนในเรื่องข้อตกลงเถียงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อวานตามพาดหัวข่าว ซึ่งเป็นประเด็นส่วนตัวที่สื่อสารและพาดหัวข่าวที่อาจจะคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ขอให้ให้เกียรตินายอนุทินหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยชี้แจงเพิ่มเติม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า ได้ชี้แจงเมื่อวานนี้แล้ว ว่าไม่มีการเสนอตัว ที่มีการพูดว่ามีการเสนอตนเองให้เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นการคลาดเคลื่อนอย่างเยอะมาก ไม่ได้มีการพูดถึงเช่นนั้นเลย
“ผมคิดว่าตอนนี้ พูดในหลักการว่าใครก็ตามที่มาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ควรเข้ามาด้วยระยะเวลาที่เป็นการเฉพาะกิจเฉพาะกาล เข้ามาแก้ไขปัญหาปัจจุบัน และยุบสภาก่อนที่จะเกิดการเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจต่อไป แต่ว่าเรื่องพวกนี้เอาไว้รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก่อน เพราะตอนนี้นายกรัฐมนตรียังอยู่ในตำแหน่ง” นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่า เรื่องแนวทางนายกรัฐมนตรีที่พรรคประชาชนได้โพสต์ Facebook มีแนวทางอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการเสนอโดยประกอบว่าพรรคประชาชนจะร่วมโหวตให้ใครหรือร่วมโหวตให้ใคร เพราะทุกอย่างที่เสนอเป็นข้อเสนอที่เชื่อว่าเป็นทางออกของประเทศ ถ้าวันนึงสถานการณ์ทางการเมืองเดินไปถึงจุดนั้น เพราะฉะนั้นวันนี้ที่หารือกันเชื่อว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกคนมีจุดยืนอย่างเดียวกันเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ ไม่มีใครที่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พรรคประชาชนนำเสนอเมื่อวาน แต่ประชาชนอาจให้ความสนใจคือเรื่องการรวมขั้วทางการเมืองอย่างไร โดยเห็นว่าการรวมขั้วทางการเมืองยังไม่มีความเหมาะสมที่จะเสนอในวันนี้ เพราะสถานการณ์ทางการเมืองยังเดินไม่ถึงจุดนั้น
เมื่อถามว่าหากมีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี “ชัยเกษม นิติศิริ” ขอพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชนจะโหวตให้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคประชาชนไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องโหวตให้นายชัยเกษมหรือนายอนุทิน หรือให้ใคร เพราะไม่ได้ยึดติดที่ตัวบุคคล แต่อยู่ที่ ร่วมกันการออกเสียงของพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือพรรคประชาชน ที่แต่ละพรรคมีจุดยืนหลักการ ส่วนในพรรคประชาชนยืนยันในหลักการว่าการจะโหวตให้ใคร ไม่ได้ยึดติดกับคนหรือพรรค แต่ต้องสร้างทางออกให้กับประเทศได้
เมื่อถามการร่วมงานกับพรรคฝ่ายค้านบรรยากาศเป็นยังไงบ้าง นายอนุทินกล่าวว่าดีใจ ส่วนนายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวย้ำมติของพรรคที่จะทำงานร่วมกัน ส่วนเรื่องไหนที่ยังไม่ได้ข้อยุติมีการตั้งคณะทำงานที่จะพูดคุยหารือร่วมกันต่อไปเพื่อหาทางออก
ส่วน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ยืนยันว่าวันนี้ฝ่ายค้านจะมีความ เข้มแข็งขึ้นหลังจากที่ได้เข้ารับพรรคภูมิใจไทยเข้ามาร่วมงาน ยืนยันว่าทำหน้าที่ตรวจสอบสมดุล โดยเฉพาะขณะนี้ที่ประเทศชาติอยู่ในช่วงวิกฤติศรัทธา ที่เกิดจากการกระทำของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ประชาชนยังตกอยู่กับความทุกข์ยากปัญหาเศรษฐกิจ การทุจริต การเมืองที่สุจริตที่ มีคุณธรรมแทบจะหาไม่ได้
“การทำงานของพรรคฝ่ายค้านหลังจากนี้จะมีความเข้มแข็งขึ้นและไม่ใช่เข้มแข็งเฉพาะมือที่เพิ่มขึ้น แต่จะเข้มแข็งเพื่อคลี่คลายวิกฤติที่เกิดขึ้นกับประเทศทั้งวิกฤติศรัทธาทางการ ทั้งวิกฤติเศรษฐกิจปากท้อง แม้ว่าไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในการแก้ไข แต่จะเป็นปากเสียงให้กับประชาชนในการดำเนินการ ซึ่งไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างประเทศเป็นความขัดแย้งในครอบครัวที่แก้ไขได้ยาก ฝ่ายค้านมีส่วนสนับสนุนหาหนทางแก้ไขโดยไม่ได้เอาเรื่องหรือความได้เปรียบทางการเมืองมาเป็นหลัก แต่วันนี้ประชาชนหมดหวัง ที่ต้องทำให้ประชาชนมีความหวังว่ามีพรรคการเมืองต่างๆฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ทำให้การเมืองเละเทะกลับมามีศรัทธา” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
จากนั้นนายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม ยืนยันทางออกของประเทศในขณะนี้คือการยุบสภา และพร้อมร่วมงานกับพรรคการเมืองฝ่ายค้านที่จะแสวงหาทางออก ที่เป็นการแก้ไขปัญหายั่งยืนให้กับประเทศชาติ