ตามรวบ 6 ไทยเทา ถูกส่งกลับจากปอยเปต หนีหมายจับพนันออนไลน์

ตามรวบ 6 ไทยเทา ถูกส่งกลับจากปอยเปต หนีหมายจับพนันออนไลน์

32415 มี.ค. 68 20:40   |     Tum1

ตำรวจไซเบอร์ตามรวบ 6 ไทยเทา ถูกส่งกลับจากปอยเปต หนีหมายจับพนันออนไลน์และอาชญากรรมข้ามชาติ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 15 มี.ค.68 บริเวณชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ บช.สอท. (เมืองทองธานี) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. , พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. , พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท และ พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว "ตำรวจไซเบอร์ล่าไม่ถอยคอยไม่เลิก ตามรวบ 6 ไทยเทาถูกส่งกลับจากปอยเปต หนีหมายจับพนันออนไลน์และอาชญากรรมข้ามชาติ"

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 22 ก.พ.68 ทางรัฐบาลกัมพูชา ได้เปิดปฏิบัติการบุกทลายแหล่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และได้จับกุมคนไทยในตึกภูมิตาสวน ต.ปอยเปต อ.โอโจรว จ.บันเตียเมียนเจย และ วันที่ 23 ก.พ.68 ได้จับกุมคนไทยในตึก K2 ต.ปอยเปต รวมทั้งสิ้น จำนวน 119 คน


ต่อมา วันที่ 1 มี.ค.68 พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร.ร่วมกับ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.พร้อมตำรวจไซเบอร์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันรับตัวคนไทยกลุ่มดังกล่าว เข้าศูนย์คัดกรอง NRM ที่ ร12/3 พัน 3 จ.สระแก้ว เพื่อคัดกรองตามกระบวนการคัดกรองผู้เสียหายตามคดีค้ามนุษย์ 

จากนั้น วันที่ 3 ก.พ.68 ตำรวจไซเบอร์ ได้ขออำนาจศาลออกหมายจับขบวนการดังกล่าวไว้ทั้งหมด จำนวน 102 คน เป็นคนไทยจำนวน 100 คน และหัวหน้าแก๊งชาวจีนอีก จำนวน 2 คน โดยจับกุมและดำเนินคดีไปแล้วจำนวน 93 ราย ในข้อหา

  1. ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
  2. ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ซ่องโจร
  3. ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน 
  4. ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จฯ 



ในขณะที่คนไทยอีก 7 รายที่เหลือ ได้ถูกจับกุมโดยตำรวจภูธรภาค 2 ไปแล้วในความผิดคดีอื่นตั้งแต่วันแรกที่เดินทางถึงประเทศไทย ส่วนอีก 19 คนที่เหลือ แบ่งเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี จำนวน 4 คน ในขณะที่อีก 15 คนที่เหลือ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำงานในอาคาร K2 ชั้น 9 และมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ แต่ยังไม่พบพยานหลักฐานในขณะนั้น

ต่อมา กก.วิเคราะห์ข่าวเละเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.2 ได้สืบสวนหาพยานหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำผิดของกลุ่มคนไทยที่เหลืออีก 15 ราย รวมทั้งบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง จนพบพยานหลักฐานเป็นข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของคนไทยทั้ง 15 ราย ผนวกกับการซักถามข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ได้ข้อมูลสอดคล้องกัน ทำให้ทราบว่า คนไทย 15 คนดังกล่าว มีหน้าที่จัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ ประเภทไฮโล และไพ่ป๊อกเด้งหรือไพ่แปดเก้า โดยแบ่งเวลาทำงานกับคณะผู้ร่วมงานอื่น และยังได้รับเงินเดือนพร้อมที่พักอาศัยจากนายจ้าง 

 

โดยเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่ดังกล่าวได้เปิดให้คนไทยเล่นและมีการสื่อสารผ่านกลุ่มไลน์ จากการตรวจสอบ พบว่า สามารถเข้าเล่นพนันในประเทศไทยได้ จนได้เสียเงินกันจริง อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การพนันฯ 2478 โดยความผิดนั้นเกิดขึ้นทั้ง 2 รัฐ จึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ 2556 พนักงานสอบสวน จึงขออนุมัติหมายจับบุคคลที่เหลือทั้ง 15 รายจากศาล ในความผิดฐาน 

  1. ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
  2. ร่วมกันเป็นอั้งยี่
  3. ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันโดยผิดกฎหมาย



โดยขณะนี้ตำรวจไซเบอร์ สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวได้แล้ว จำนวน 5 ราย และอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวอีก 10 ราย นอกจากนี้ กก.3 บก.สอท.2 ยังได้ติดตามจับกุมตัว นายธนกิตติ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ได้ที่บริเวณริมถนนหน้าค่ายสุรสีห์ ต.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี ในข้อหา “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”

นายธนกิตติ์ หนึ่งในผู้ต้องหา 7 ราย ที่โดนดำเนินคดีโดยตำรวจภูธรภาค 2 ไปเรียบร้อยแล้วในคดีอื่น แต่ภายหลังสิ้นสุดการพิจารณาคดีดังกล่าว ได้หลบหนีหมายจับในความผิดเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติของตำรวจไซเบอร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่พบหลักฐานว่า เป็นหนึ่งในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในตึกภูมิตาสวน เมืองปอยเปต ซึ่งมีพฤติการณ์หลอกลวงคนไทยเกี่ยวกับ Romance Scam , หลอกลวงข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้โอนเงิน และชักชวนหลอกลงทุนผ่านแพลตฟอร์มปลอมและเว็บไซต์พนันออนไลน์อีกด้วย - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน




TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง