พระเมาขับเก๋งเสยพ่วงข้าง ทำสาวตับแตก ไร้เยียวยา

พระเมาขับเก๋งเสยพ่วงข้าง ทำสาวตับแตก ไร้เยียวยา

22407 ก.พ. 68 18:30   |     Tum1

พระเมาขับเก๋งเสย จยย.พ่วงข้าง ทำสาวตับแตก เป่าแอลกอฮอล์พุ่ง 180 สาวร้องสื่อไร้เยียวยา-ขาดรายได้ จ่ายค่ารักษาเองกว่า 3 หมื่นบาท

(7 ก.พ.68) ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.พัชรี (สงวนนามสกุล) ชาว อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ว่าถูกพระเมาแล้วขับรถเก๋งชนเจ็บสาหัส แต่ไม่ได้รับการเยียวยา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 ม.ค.68 เวลาประมาณ 18.00 น. บริเวณคอสะพาน บ้านดอนธงชัย ต.สว่างแดนดิน อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร จุดเกิดเหตุเป็นช่วงโค้ง ประกอบกับเป็นคอสะพานพอดี 

โดยรถเก๋ง Toyota Altis สีควันบุหรี่ กม. 5431 สกลนคร ขับพุ่งข้ามเลนมาชนรถ จยย.พ่วงข้าง กระเด็นโดนรถยนต์กระบะตกข้างทาง เป็นเหตุให้ น.ส.พัชรี คนขับรถ จยย.พ่วงข้าง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ซี่โครงหัก ตับแตก อวัยวะภายในบอบช้ำ นอนรักษาตัวอยู่ รพ.สว่างแดนดิน นานนับสัปดาห์ แต่ปรากฎว่าคนขับรถยนต์เก๋ง พบว่า เป็นพระยังสวมใส่สบงและเดินลงมาจากรถ มีอาการคล้ายคนเมา 


ทราบชื่อพระรูปดังกล่าวคือ พระภิรมย์ นายภิรมย์ อายุ 45 ปี ไม่พบสังกัดวัด มีแค่ข้อมูลว่ามาจากวัด จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาตัวไปที่ สภ.สว่างแดนดิน เพื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ขึ้นสูงถึง 180 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ขณะที่อยู่บนสถานีตำรวจก็ยังมีอาการเมาอยู่ เจ้าหน้าที่จึงทำการจับพระรายดังกล่าวลาสิกขา แต่ไม่ทราบว่า ทำไมถึงถูกปล่อยตัวหรือมีการประกันตัวออกมา



ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านง่อนใหม่ ต.สว่างแดนดิน พบกับ น.ส.พัชรี ที่ได้รับบาดเจ็บ พบต้องนอนรักษาตัวอยู่กับที่ เพื่อให้อวัยวะภายในร่างกายเคลื่อนไหวน้อยที่สุดตามคำสั่งแพทย์ ต้องอยู่แบบนี้ไปจนกว่าจะอาการดีขึ้น อาจจะใช้ระยะเวลานานถึง 6 เดือน และพบว่ารถ จยย.ที่เกิดอุบัติเหตุ ได้รับความเสียหายบริเวณด้านหน้า

น.ส.พัชรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจได้มีการนัดเจรจาไกล่เกลี่ยกันไปแล้ว 1 ครั้ง แต่คู่กรณีไม่มา จึงได้มีการนัดหมายอีกครั้งในวันอาทิตย์ (9 ก.พ.68) ที่จะถึงนี้ ก็คงจะต้องรอดูว่าคู่กรณีจะมาหรือไม่ แต่ดูจากพฤติกรรมแล้ว ทางญาติของตนได้มีการไปตามถึงบ้าน อยากให้มาชดใช้ค่าเสียหายหรือกล่าวขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไปบ้าง แต่คู่กรณีกับเพิกเฉยไม่มีคำตอบใดๆกลับมา 



ตอนนี้ลำบากมากเพราะต้องจ่ายค่ารักษาไปกว่า 30,000 บาท นอกเหนือจากสิทธิ์บัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ บัตรทอง และยังต้องสูญเสียรายได้ที่ต้องไปขายของ กรีดยางพาราอีกด้วย จึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยเป็นกระบอกเสียง สื่อสารไปถึงคู่กรณีว่า อยากให้มาชดใช้ค่าเสียหายกับสิ่งที่เกิดขึ้น - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง