ตลาดปลาเปิดวันแรกเงียบเหงา คนยังหลอนคาร์บอมบ์

วันที่ 11 สิงหาคม 2567 จ.ปัตตานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์คนร้ายได้นำระเบิดมาว่างไว้บริเวณทางเข้าสะพานปลา ม.8 ต.บานา อ.เมืองปัตตานี โดยจุดแรกบริเวณถังขยะใกล้กับป้อมยาม ซึ่งเกิดระเบิดขึ้นเมื่อเวลา 13.20 น. จากนั้น เวลา 13.40 น. เกิดระเบิดขึ้นเป็นลูกที่ 2 ห่างจากลูกแรก 200 เมตร บริเวณทางเข้าสะพานปลา ซึ่งคนร้ายได้วางระเบิดเกาะกลางถนน กระทั่งเวลาไล่เลี่ยกันเกิดระเบิดลูกที่ 3 ซึ่งเป็นระเบิดคาร์บอมบ์ บริเวณหลังแฟลตตำรวจ อยู่ระหว่างระเบิดลูกแรกกับลูกที่สอง โดยระเบิดลูกที่ 3 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 10 ราย ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 9 ส.ค.67 ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• คนร้ายจุดชนวนระเบิดคาร์บอมบ์ 3 ลูก หน้า สภ.ปัตตานี

ล่าสุด วันนี้ (11 ส.ค.67) สภาพความเสียหายจากเหตุคาร์บอมบ์ บริเวณหลังแฟลตตำรวจ ทางเข้าสะพานปลา ม.8 ต.บานา พบว่า กำแพงแฟลตตำรวจถล่ม รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ที่จอดริมกำแพง ถูกสะเก็ตระเบิดได้รับความเสียหายอย่างหนัก จำนวน 4 คัน อีกทั้ง อาคารที่พักได้รับความเสียหาย ประตูหลุด กระจกหน้าต่างแตก และยังพบว่า เพิงของร้านค้าฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ หลังคากระเบื้องถล่มลงมา และหลังคาที่เป็นสังกระสี ถูกสะเก็ตระเบิด 

สำหรับตลาดสะพานปลา ซึ่งปกติจะเปิดทุกวัน ตั้งแต่รุ่งเช้าจนถึง 10.00 น. พบว่า หลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ เจ้าหน้าที่ได้มีการปิดกั้นพื้นที่ ไม่ให้ใครเข้าออกสะพานปลา ทำให้ตลาดดังกล่าวปิดตั้งแต่หลังเกิดเหตุ และวันนี้ (11 ส.ค.67) เป็นวันแรกที่ตลาดแห่งนี้ได้เปิด พบว่า พ่อค้าแม่ขายออกมาขายของน้อยลง บ้างก็ย้ายไปขายแถวบ้านที่พัก เป็นการชั่วคราว เนื่องจาก ยังกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ส่วนประชาชน พบว่า วันนี้เดินทางมาจับจ่ายน้อยลงกว่าปกติ เนื่องจาก หลายคนยังคงมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย ทำให้ร้านค้าต่างๆ ได้รับความเดือนร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเลี่ยงไม่ได้

ขณะที่ท่าเทียบเรือ จุดที่นำปลาลงนั้น วันนี้มีเรือมาเข้าเทียบท่า และสามารถนำสัตว์น้ำขึ้นได้ตามปกติ เพื่อกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเดินทางมารับปลานำไปขาย โดยเส้นทางเข้า-ออกจุดเกิดเหตุสามารถใช้งานได้ตามปกติแล้ว

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์คาร์บอมบ์ในครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในรอบ 7 ปี โดยคาร์บอมบ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ คือ ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ปัตตานี เหตุเกิดเมื่อ ปี 2560 แม้ว่าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มมาตรการตรวจเข้มในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะในย่านเศรษฐกิจ แต่คนร้ายยังคงสามารถผ่านด่านเจ้าหน้าที่ เข้ามาก่อเหตุได้

ด้าน กะยะห์ (สงวนนามสกุล) แม่ค้ารายหนึ่ง กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนั้น ตนได้เก็บข้าวของกลับบ้านไปแล้ว ก่อนมีลูกน้องแจ้งว่า ใกล้ๆจุดที่ตนขายของเกิดระเบิดคาร์บอมบ์ หลังทราบข่าวตกใจมาก ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น แต่ก็โชคดีที่ช่วงนั้น ตนกลับบ้านไปแล้ว และร้านค้าต่างๆก็เก็บของไปหมดแล้ว จึงไม่มีใครอยู่บริเวณนั้น ส่วนบรรยากาศวันนี้เงียบเหงา มีประชาชนออกมาจับจ่ายน้อย อีกทั้ง ร้านค้าต่างๆ ก็ยังไม่กล้าเปิดร้าน 

ผู้สื่อข่าวรายงาน ด้วยว่า พล.โท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 สั่งการให้ทุกภาคส่วน ช่วยเฝ้าระวังพื้นที่โดยรอบ ตรวจสอบการเข้าออกอย่างเข้มข้น โดยพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ มุ่งเป้ากระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ส่วนรถที่นำมาใช้ก่อเหตุ ไม่ใช่รถที่มีประวัติสูญหาย ถือเป็นผลพวงมาจากมาจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ที่เฝ้าระวังและเข้มงวดมาตลอด ซึ่งช่วงหลังที่ผ่านมา คนร้ายใช้รถที่เช่าซื้อมาจากเต็นท์รถต่างๆ เพื่อนำมาก่อเหตุ เชื่อว่า อีกไม่นานเจ้าหน้าที่จะสามารถขยายผล ติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สร้างความเสียหาย และกระทบต่อประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะพื้นที่เกิดเหตุ เป็นพื้นที่เศรษฐกิจ เป็นพื้นที่ชุมชน ที่ประชาชนอยู่อาศัยและทำมาหากินอยู่ ส่งผลให้คนในพื้นที่ต้องขาดรายได้ เป็นการซ้ำเติมความยากลำบากของประชาชน และกระทบต่อเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างชัดเจน