ด.ญ.วัย 13 ถูกเพื่อนชายกระทำอนาจารที่บ้านเพื่อนนาน 3 วัน

ด.ญ.วัย 13 ถูกเพื่อนชายกระทำอนาจารที่บ้านเพื่อนนาน 3 วัน

55127 ธ.ค. 67 18:32   |     Tum1

แม่พาลูกสาววัย 13 ปี ร้องทนายดัง หลังถูกเพื่อนชายชวนไปนั่งเล่นบ้านเพื่อน นาน 3 วันทั้งกระทำอนาจาร ซ้ำข่มขู่เป็นลูกหลานตำรวจ

ที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. 67 นางพร (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี พร้อมด้วย ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ลูกสาว เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม กับนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง สส.พรรคประชาชน เขต 7 นนทบุรี ที่ปรึกษา กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ว่า ลูกสาวหายออกจากบ้านไป 3 วัน ก่อนจะทราบภายหลังว่า ถูกนายปัน (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี เพื่อนชายที่รู้จักในโลกออนไลน์ ชักชวนให้ไปนั่งเล่นบ้านเพื่อน โดยขับขี่รถ จยย.มารับที่บ้านย่านบางบัวทอง แล้วพาไปอยู่บ้านของรุ่นพี่ที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี โดยได้มีการกระทำอนาจาร และไม่พามาส่งบ้าน พร้อมยังข่มขู่ว่า เป็นลูกหลานตำรวจ ไม่กลัวใคร ทำให้ครอบครัวเกิดความไม่สบายใจ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม


นางพร กล่าวว่า ลูกสาวหายไปจากบ้านตั้งแต่คืนวันจันทร์ ที่ 23 ธ.ค.67 เวลาประมาณ 21.00 น. ซึ่งปกติลูกจะนั่งเล่นเกมอยู่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งตนขึ้นนอนแล้ว ทำให้ไม่ทราบว่าลูกสาวออกจากบ้านไปตอนไหน มารู้สึกตัวอีกครั้งประมาณเที่ยงคืน พยายามโทรติดต่อแล้วแต่ไม่มีคนรับสาย จนถึงเช้า จึงติดต่อไปหาเพื่อนของลูกสาว ที่เคยไปนอนบ้านด้วยกัน ก็ไม่รู้ว่าไปไหน ตนจึงพยายามติดต่อจนถึงบ่าย 3 ของอีกวัน จากนั้นพบว่าลูกสาวปิดเครื่อง ซึ่งปกติลูกเป็นคนติดโทรศัพท์มาก และไม่เคยติดต่อไม่ได้ขนาดนี้ ตนจึงตัดสินใจไปแจ้งความ และพยายามตามหาลูกสาวทุกช่องทาง โพสต์ในกลุ่มเฟซบุ๊ก และทักไปหาเพื่อนๆที่รู้จักลูก กระทั่งไปเจอรูปลูกสาวจากสตอรี่ไอจีของผู้ชายคนหนึ่ง ตนสงสัยจึงแคปหน้าจอไว้ แล้วส่งไปให้เพื่อนของลูกสาวให้ช่วยตามหา 


ต่อมาช่วงประมาณ 6 โมงเย็น วันที่ 26 ธ.ค.67 ลูกสาวได้ติดต่อกลับมาว่าให้ตนไปรับ อยากกลับบ้าน ตนจึงโทรหาลูก และได้ยินลูกร้องไห้ บ่นอยากกลับบ้าน บอกว่า "เขาไม่ให้หนูกลับ หนูหิวข้าว" ตนจึงรีบเดินทางไปรับลูกสาวทันที แต่ไม่กล้าเข้าไปถึงตัวบ้านหลังดังกล่าว ได้แค่รอตำรวจสายตรวจก่อนจึงจะเข้าไป 

จากนั้น เพื่อนชายที่พาตัวลูกสาวไป จึงเดินออกมาส่งลูกให้ตน หลังจากที่กลับมา ลูกสาวก็ร้องไห้ และเล่าว่าถูกเพื่อนชายกระทำชำเรา ขัดขืนแล้วแต่สู้ไม่ได้ วันนี้จึงตั้งใจมาร้องขอความเป็นธรรมกับทนายโป้ง อยากเรียกร้องสิทธิให้กับตัวเองและลูกสาว ส่วนคู่กรณีนั้น ยังไม่ได้ติดต่อกัน นัดเจอแค่ที่โรงพัก ซึ่งคู่กรณีได้มีการข่มขู่บอกว่า "ไม่กลัวใคร ปู่ของเขาเป็นตำรวจ"



ด.ญ.เอ เปิดใจทั้งน้ำตาว่า มีรุ่นน้องแนะนำเพื่อนชายคนนี้ให้รู้จักกัน พูดคุยกันได้ประมาณ 1 เดือนกว่า จากนั้นได้ชักชวนตนไปนั่งเล่นที่บ้านรุ่นพี่ดังกล่าว ระหว่างที่ไปตนไม่ได้จับโทรศัพท์เลย จึงไม่ได้รับสายแม่ ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องในใจกับแม่ เพียงแค่อยากไปเที่ยวบ้านเพื่อน แต่เมื่อไปถึงนายปัน เอาแต่เสพกัญชา ไม่ได้สนใจตน จึงทำให้ตนไม่ค่อยได้กินข้าว ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ได้แต่พูดกับนายปันว่า ต้องพาตนกลับไปส่งบ้าน ตนอยากกลับบ้านมาก รู้สึกเสียใจที่พลาดทำเรื่องแบบนั้น ถ้าวันนั้นรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ และทำให้แม่เสียใจ ตนก็คงไม่ทำ


ส่วน ทนายโป้ง กล่าวว่า ด.ญ.เอ ถูกชายรุ่นพี่พาตัวไป 3 วัน 2 คืน เมื่อคุณแม่ตามหาน้องเจอและเดินทางไปรับที่ จ.ปทุมธานี กลับถูกคู่กรณีข่มขู่ว่า เป็นลูกหลานตำรวจ คุณแม่จึงกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จากที่ดูข้อมูลข้อเท็จจริงเบื้องต้น เข้าข่ายพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร หลังจากนี้ ตนจะพาไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ประสานไปยังสหวิชาชีพ นักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์ เพื่อที่ ด.ญ.เอ จะสามารถให้ข้อมูลข้อเท็จจริงได้ทั้งหมด แล้วจะต้องส่งตัวไปให้แพทย์ตรวจร่างกาย ก่อนจะส่งสำนวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ด้าน พ.ต.ท.วิทวัส สายอ๋อง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า เบื้องต้นจากที่ได้ข้อมูลกับทางครอบครัวผู้เสียหาย จะเข้าข่ายในคดีพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจาร ต้องสอบสวนรายละเอียดเชิงลึกจากเด็กผู้เสียหาย และดูพยานหลักฐานต่างๆเพิ่มเติม พร้อมทั้งส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่ รพ.บางบัวทอง และรอผลการตรวจจากแพทย์ โดยจะต้องให้สหวิชาชีพ พนักงานอัยการ นักสังคมสงเคราะห์ ร่วมกับบุคคลที่เด็กร้องขอ รวมถึงพนักงานสอบสวนสอบปากคำ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนออกหมายเรียกคู่กรณี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 



โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดใน 2 พื้นที่ เพราะคู่กรณีมารับตัวเด็กในพื้นที่ อ.บางบัวทอง และพาไปกระทำชำเราในพื้นที่ อ.ลาดหลุมแก้ว รวมถึงมีการกักขังหน่วงเหนี่ยวด้วย ซึ่งถือเป็นความผิดต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน และมีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.บางบัวทองก่อนแล้ว ดังนั้น ถือว่า สภ.บางบัวทอง เป็นพื้นที่ต้องสอบสวน ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการ รวบรวมพยานหลักฐานก่อนจะแจ้งข้อหากับผู้ก่อเหตุต่อไป - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง