สสจ.อุดรธานี ชี้แจงกรณี "ผิง ชญาดา" พบติดเชื้อในกระแสเลือด-มีเชื้อรา

สสจ.อุดรธานี ชี้แจงกรณี "ผิง ชญาดา" พบติดเชื้อในกระแสเลือด-มีเชื้อรา

79109 ธ.ค. 67 15:54   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

สสจ.อุดรธานี ชี้แจงกรณี "ผิง ชญาดา" พบติดเชื้อในกระแสเลือด-มีเชื้อรา เบื้องต้นยังไม่รู้ตัวหมอนวด

จากกรณี ผิง ชญาดา อายุ 20 ปี นักร้องลูกทุ่งหมอลำ รถแห่ เสียชีวิตเพราะมีอาการปวด คอ บ่า ไหล่ แล้วไปนวดที่ร้านน้อง เพื่อสุขภาพ โดยระบุมีการบิดคอหรือหักคอ ต่อมามีอาการชาแขน ขา ลำตัว ผลเอกซเรย์ พบว่ากระดูกคอเคลื่อนทับเส้นประสาท ตนป่วยติดเตียง และมีอาการทรุดลงหายใจลำบาก ต้องนำส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ไม่รู้สึกตัว เข้าห้องไอซียู 10 วัน และเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ สสจ.อุดรธานี ได้ลงตรวจร้านนวดที่เกิดเหตุ ซึ่งมีหมอนวด 7 คน มีข้อห้ามนวดบิดคอ หักคอ ต้องถามความสมัครใจลูกค้า จำไม่ได้ว่าลูกค้านวดกับหมอนวดคนไหน รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ เหตุเกิด 5 ต.ค 67- 8 ธ.ค. 67 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น 


(9 ธ.ค.67) ที่ห้องประชุมทองกวาว สำนักงานสาธารณสุข จ.อุดรธานี ดร.นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี นายคงจักร์ บุญทัน ผู้อำนวยการศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 8 ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจง กรณี ผิง ชญาดา 


นพ.สมชายโชติ ปิยะวัชร์เวลา สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับข้อมูลข่าวสารจากสื่อมวลชน การมาแถลงครั้งนี้เพื่อให้รับข้อมูลตรงกันว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ได้ใช้นวดแผนไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างหนึ่ง ในการมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีบางส่วนก็อยู่เหนือการควบคุมของหน่วยงานราชการ โดยมีเป้าหมายสร้างความเชื่อมั่นประชาชน 


โดยจากทราบข่าวได้มอบให้ทีมงาน เดินทางไปเคารพศพผิง ชญาดาที่บ้านพัก และได้พูดคุยให้กำลังใจญาติ พร้อมกับการให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าการรักษาเป็นอย่างไร ซึ่งก็ตรงกับการที่สื่อมวลชนรายงานส่วนหนึ่ง รวมทั้งแนะนำการช่วยเหลือ อาทิ “กองทุนยุติธรรม” 


จากการพูดคุยกับครอบครัวผิง ชญาดา มาเข้ารับการรักษาเมื่อ 5 ตุลาคม 2567 ด้วยอาการเริ่มต้นปวดคอ บ่า ไหล่ ไปนวดในร้านนวดในอุดรธานี โดยอ้างว่าการนวดมีการ “บิดคอ” หรือ “หักคอ”ด้วย หลังจากนวดแล้วสองวันก็มีอาการปวดที่ท้ายทอย จนต้องรับประทานยาระงับอาการปวด จากนั้นหนึ่งสัปดาห์ได้กลับไปนวดอีกครั้ง ที่ร้านเดิมกับหมอนวดคนเดิม ต่อมาก็มีอาการปวดมากขึ้น จึงกลับไปร้านนวดร้านเดิมแต่คนนวดใหม่ เมื่ออาการไม่หายก็มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี


“วันที่ 30 ตุลาคม 2067 ไป โรงพยาบาลพิบูลย์รักษ์ ในอาการเดียวกัน แพทย์ได้เอกซเรย์แล้วก็ส่งต่อ โรงพยาบาลหนองหาน แพทย์ได้สั่งยาแล้วให้กลับไปรักษาตัวที่บ้าน ไม่กี่วันก็เดินทางมาที่ โรงพยาบาลพิบูลย์รักษ์อีก และส่งต่อมายังที่โรงพยาบาลหนองหาน และในช่วง 6-11 พฤศจิกายน โรงพยาบาลหนองหานส่งต่อมายังโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีได้นอนรักษาตัวอยู่ที่ตึกกระดูกและข้อ แพทย์ตรวจพบแขนขาอ่อนแรง ไม่มีปัญหาเรื่องกระดูกหักที่ต้นคอ ได้ปรึกษาแพทย์อายุรกรรมจึงเจาะหลัง พบว่าเป็นไขสันหลังอักเสบ จึงทำการรักษาด้วยยา (ฉีด) จากนั้นก็ให้ยาแบบกินหรือรับประทาน แล้วให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้าน โดยไปรับยาที่ โรงพยาบาลหนองหาน” 


ด้วยความห่วงใยของญาตินำผู้ป่วยไปโรงพยาบาลพิบูลย์รักษ์ จึงส่งตัวมารับยาต่อที่ โรงพยาบาลอุดรธานี โดยเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2567 ญาติปรึกษาเรื่องของอาการ เกร็ง กระตุกของผู้ป่วย วันที่ 22 พฤศจิกายน ผู้ป่วยถูกเข้าห้องไอซียู นี่คือข้อมูลที่สามารถให้ได้ 


ส่วนบันทึกต่างๆรายงานทางการแพทย์ ถือว่าเป็นความลับของผู้ป่วย ทางหมอเองพร้อมให้ความร่วมมือ แต่ก็ทั้งหมดต้องอยู่ที่ญาติ ขอแสดงความเสียใจกับน้องที่ต้องจากพวกเราไป ด้วยอาการการติดเชื้อในกระแสโลหิต อีกทั้งการติดเชื้อรา 


ซึ่งการติดเชื้อในครั้งนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุชัดเจนว่า ติดจากไหนได้ อาจจะเป็นการติดช่วงที่มีอาการป่วยแล้วนอนติดเตียง จะตอบชัดเจนลงไปไม่ได้ ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมาเป็นผู้ตอบ เพื่อเอาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาประกอบ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นสิทธิ์ของญาติที่สามารถร้องทุกข์ได้


สสจ.อุดรธานี ร่วมกับศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 8 ตรวจสอบเบื้องต้นในร้านที่ถูกระบุว่า น้องผิงไปรับบริการนวด พบว่าได้รับอนุญาตถูกต้อง มีพนักงานนวด 7 คน สามารถแสดงใบรับการอบรมแบบเป็นการนวดเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมงได้ 6 คน อีก 1 คน ตรวจสอบผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ ระบุว่าคนนี้ผ่านการอบรม 150 ชั่วโมงเช่นเดียวกัน สำหรับการนวดแยกออกเป็น 2 ประเภท ประเภทแรกเรียกว่าการนวดเพื่อสุขภาพ หรือนวดผ่อนคลาย สถานประกอบการที่เป็นข่าว ตั้งอยู่ริมหนองประจักษ์ศิลปาคมมี 14 ร้าน ตัวอาคาร เทศบาลนครอุดรธานี เป็นผู้ให้เช่า เป็นอาคารมาตรฐานตามระเบียบกระทรวงสาธาระสุขบอกไว้ เป็นการนวดเพื่อสุขภาพทั้งหมด ผู้นวดจะต้องผ่านการอบรม 150 ชั่วโมง ไม่มีการนวดแบบบิดคอ หรือบิดตัว เจ้าของผู้ประกอบการต้องกำกับดูแล


ส่วนประเภทที่สอง จะต้องผ่านการอบรมไม่น้อยกว่า 372 ชั่วโมง ถือเป็นเรื่องของวิชาชีพกำกับโดยแพทย์แผนไทย ซึ่งผู้ผ่านการอบรมจะได้รับใบผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย มีสภาการแพทย์แผนไทยเป็นคนกำกับมาตรฐาน เหมือนกับแพทย์ทั่วไปที่ต้องกำกับดูแลด้วยแพทย์สภา ซึ่งลักษณะเป็นการรักษา มากกว่าการนวดเพื่อคลายเครียด ส่วนการนวดจริงเราไม่สามารถพิสูจน์ได้ ตามกฎหมายกรณีพิสูจน์ทราบว่า เป็นเหตุว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ จะต้องมีทำตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งญาติพี่น้องได้ไปแจ้งความกับตำรวจแล้ว ก็จะเป็นหน้าที่ของเจ้าตำรวจจะดำเนินการ สาเหตุตามข้อสงสัยจะต้องพิสูจน์ทราบ นั่นก็คือการผ่าชันสูตรพลิกศพ ซึ่งต้องขึ้นกับญาติจะดำเนินการต่อ กระทรวงสาธารณสุขพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อให้เข้าสู่กระบวนการ 


“ปกติการนวดทั่วไปแบ่งเป็นสองลักษณะ คือ นวดแบบราชสำนัก โดยใช้อุ้งมือฝ่ามือทั่วไป เป็นหลักสูตรนวดเพื่อสุขภาพ 150 ชั่วโมง หลักสูตรไม่มีบิดคอ ดัดเอว การเรียนการสอนก็ไม่มี ในการนวดลักษณะที่สองก็คือนวดแบบเชลยศักดิ์ คือการใช้ศอกทั้งเข่าทั้งบิด หรือที่เราเรียกกันว่าหมอเอ็น ก็คือนวดแบบสายเชลยศักดิ์ หรือการนวดเพื่อรักษา ตัวเองก็มีประสบการณ์เรื่องนี้ กรณีการใช้ผ้าขาวม้าดึงเอว ในฐานะหมอก็ปฏิเสธไม่รับการรักษาแบบนี้ เพราะการรักษาก็ต้องเชี่ยวชาญ มีใบประกอบวิชาชีพ ขณะผู้มาใช้บริการนวด เมื่อปกติเคยนวดแบบราชสำนัก แต่พอไปนวดแบบเฉลยศักดิ์ ก็รู้สึกว่านวดแบบราชสำนักไม่สะใจ ก็ขอให้มีการนวดแบบราชศักดิ์ นั่นคือผู้ถูกนวดเสนอตัวให้เขานวดแบบนั้น สาธารณสุขเองก็มีหน้าที่ต้องกำกับดูแล ให้เป็นไปตามรูปแบบที่เรากำหนด”


ร้านนวดเพื่อสุขภาพนวดเกินจากอบรม การจะไปลงโทษสั่งปิดทันทีไม่ได้ มันมีแนวทางการปฏิบัติต้องพิสูจน์ทราบ ไม่ใช่สั่งปิดเพราะเป็นข่าว เมื่อวานก็ไม่พบประเด็นดังกล่าว ส่วนที่เป็นข่าวนวดเกินเพื่อสุขภาพ เป็นหน้าที่ของญาติหรือเจ้าทุกข์ ไปร้องทุกข์กับตำรวจ ส่วนกรณีสับสนระหว่างการนวดเพื่อสุขภาพ กับการนวดเพื่อรักษา สาธารณสุขได้ทำความเข้าใจกับผู้อบรมไปแล้ว ผู้ประกอบการต้องเข้ามาช่วย หาวิธีการประกันคุณภาพ ที่ผ่านมาเราไม่มีข้อกำหนด ลงทะเบียนผู้มาใช้บริการและผู้ให้บริการ แต่ถ้าหากมีก็น่าจะดีในการประกันคุณภาพ ต่อไปในการต่อใบอนุญาต จะต้องให้ทบทวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง รวมทั้งต้องมีการสุ่มตรวจ ซึ่งอุดรธานีเรามีผู้ประกอบการราว 100 แห่ง ผู้ผ่านอบรมมีรวมหลายพันคน ทั้งอยู่ในอุดรฯ กระจายตามในหัวเมืองหลัก หรือในต่างประเทศ ผู้ใช้บริการเองต้องรักษาสิทธิ์ของตนเองด้วย


สำหรับพนักงานนวดที่มานวดให้กับผู้ป่วย 2 ครั้ง และใช้วิธีการนวดแบบบิดคอ ยังอยู่ในระหว่างการพิสูจน์ทราบ ว่าพนักงานคนนั้นเป็นใคร โดยข้อมูลที่เราไปตรวจสอบ เขาก็ตอบได้เท่าที่เขาตอบเราได้ อาจจะจดจำกันไม่ได้เพราะนานมาแล้ว หรือไม่พร้อมที่จะให้ข้อมูลคล้ายกับการเก็บข้อมูลไทม์ไลน์ของการพบผู้ป่วย โควิด-19 นอกจากนี้การเคลื่อนของกระดูกซี 1-4 ทำให้คนป่วยเสียชีวิตได้หรือไม่ ผู้ตอบได้ดีที่สุดก็คือแพทย์ด้านกระดูก ตนไม่ได้เป็นหมอกระดูก อีกทั้งไม่ได้ทำการตรวจรักษามาระยะหนึ่งแล้ว อธิบายได้ง่ายๆว่า อะไรที่มันไม่ปกติมันก็มีผลทั้งนั้น การผิดรูปก็มีหลายรูปแบบ ผิดรูปตั้งแต่เกิด , ถูกกระทบกระแทก , การติดเชื้อ , และมะเร็ง ตนคงตอบไม่ได้ทั้งหมด ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญกระดูก อายุรกรรม หรืออื่นๆ มาตอบคำถามนี้ ท่านน่าจะอธิบายได้ดีกว่า - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน



ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อุทาหรณ์สายนวด! นักร้องสาวเสียชีวิต หลังป่วยหนัก เพราะไปนวดบิดคอ

หมอธีระวัฒน์ เตือน บิด สะบัดคอ ระวังอัมพฤกษ์

แม่น้องผิงร่ำไห้! เปิดใจไม่คิดว่าลูกสาวจะเสียชีวิต เพราะนวดท่าบิดคอ

อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองและความผิดปกติทางประสาท วิเคราะห์ เคส “น้องผิง” นักร้องสาวรถแห่ สาเหตุการเสียชีวิตอาจไม่ใช่จากการนวด

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง