CIB รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจหลอกโอนเงิน สูญนับล้าน

CIB รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจหลอกโอนเงิน สูญนับล้าน

40803 ก.พ. 68 15:23   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

CIB รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กองร้อยปอยเปตแต่งกายคล้ายตำรวจหลอกเหยื่อโอนเงิน ผู้ต้องหาสารภาพ หากไม่ทำถูกลงโทษด้วยไม้เบสบอล

(3 ก.พ.68) ที่ ห้องแถลงข่าว ชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม แถลงข่าว จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กองร้อยปอยเปต หลังทำเนียนสวมเครื่องแบบตำรวจวิดีโอคอล หลอกเหยื่อโอนเงิน มูลค่าหลายล้านบาท พร้อมกับควบคุมตัวผู้ต้องหาสอบปากคำ 


ด้านนายธนาวุฒิ ผู้ต้องหา เปิดเผยในช่วงที่แถลงข่าวว่า เขาไม่รู้ว่าถูกหลอกไปทำผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะขณะนั้นต้องการเงิน จัดการหนี้ แต่เมื่อไปถึงไม่เป็นอย่างที่คิด ซึ่งถ้าหากไม่ทำก็จะถูกตีด้วยไม้เบสบอล ที่ผ่านมาเคยคิดที่จะพยายามหนีกลับประเทศไทย โดยติดต่อผ่านสถานทูตแต่ก็ถูกจับได้ 


ทั้งนี้ตนเองทำหน้าที่เป็นสายที่สองหรือสายปลอบ มีการแต่งกายคล้ายตำรวจ ก่อนส่งต่อให้สายที่สามซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตำรวจระดับสูงเพื่อหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงิน ทั้งนี้ผู้ต้องหาสารภาพด้วยว่าเป็นหนึ่งในขบวนการที่หลอกเงินชาลอต ออสตินนางงาม โดยไม่ได้ข่มขู่เหยื่อ เพียงพูดคุยให้เหยื่อสบายใจ ซึ่งไม่ต้องทำยอด


ขณะที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

บก.ปอท. ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าถูกหลอกโอนเงินมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท นอกจากนี้พบยังมีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกันมากถึง 163 เคสที่มีการแจ้งความออนไลน์ ต่อมาสามารถระบุตัวคนร้ายที่แต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจวิดีโอคอลมาหลอกผู้เสียหายจากนั้นจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาซึ่งอยู่ในขบวนการเดียวกัน 


คือนายรามิล อายุ31 จับกุมได้ที่บ้านพักใน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว รับสารภาพว่าทำหน้าที่เป็นสายที่หนึ่งในการติดต่อเหยื่อ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 คือนายธนาวุฒิ จับกุมได้ที่บ้านพักใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  


โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำหน้าที่แต่งกาย มีคนไทยและคนจีนทำหน้าที่เป็นคนควบคุมและคิดสคริปต์ในการหลอกลวงเพื่อให้เป็นไปตามบทที่วางไว้ ทั้งนี้หากสามารถหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อและโอนเงินมาให้ได้จะได้รับส่วนแบ่งจากมูลค่าที่หลอกลวง ส่วนเงินค่าจ้างจะได้เป็นเงินสด และสุดท้ายจัดส่งต่อให้หัวหน้าขบวนการ


เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหารายที่ 1 ส่งพนักงานสอบสวนสน. พญาไท ส่วนผู้ต้องหารายที่สองนำส่งพนักงานสอบสวน กก.1บก.ปอท. ดำเนินคดีตามกฎหมาย 


ทั้งนี้ ลักษณะเมื่อผู้ต้องหาไปถึงปอยเปตจะถูกนำตัวมาอยู่ที่ชั้น 13 จากตึก 18 ชั้นในปอยเปต ให้ทำงานหลอกคนไปเรื่อยๆ โดยมีคนคุมตึกอยู่ที่ชั้นหนึ่ง เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 6 เดือนในการขยายผลทราบตัวบุคคลซึ่งวิธีการมีการใช้เอไอ ในการเปลี่ยนหน้าตาซึ่งหลังจากนี้จะมีการขยายผลในข้อหาฟอกเงินและหัวหน้าขบวนการซึ่งคาดว่าเป็นคนจีนต่อไป


TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง