ลูกชาย ‘อ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ’ ยืนยันไม่เคยประกาศขาย ‘สาธร ยูนีค’
ลูกชาย ‘อ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ’ ยืนยันไม่เคยประกาศขาย ‘สาธร ยูนีค’

“ตามโพธ ต่อสุวรรณ ยืนยัน คุณพ่อไม่ได้ประกาศขายตึกหรูริมเจ้าพระยา ‘สาธร ยูนีค’ หลังมีคนอ้างเป็นนายหน้า โพสต์ขาย 4,000 ล้าน หลังแผ่นดินไหว ชี้ตึกยังมีข้อพิพาทและคดีความอยู่
(2 เม.ย. 68) จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อบัญชี “สุภาพ มิ่งศิริ” อ้างว่าเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ โพสต์ภาพของตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ ตึกร้างโครงการหรูริมเจ้าพระยา พร้อมประกาศขายในราคา 4,000 ล้ายบาท วางมัดจำ 30% และจ่ายทั้งหมดภายใน 12 เดือน โดยโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป หลังชื่อของตึกสาธร ยูนีค กลับมาเป็นที่สนใจ จากเหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา
จากนั้นในช่วงสายวันนี้มีรายงานว่าเพจสุภาพ มิ่งศิริ ได้โพสต์ข้อความอัปเดตปิดการขายตึกสาธร ยูนีคได้ โดยระบุว่าผู้ที่ตัดสินใจซื้อเป็นชาวไทย ที่หากเปิดชื่อออกมาสาธารณะจะต้องรู้จักกัน แต่ไม่นานหลังจากนั้นโพสต์ดังกล่าวก็ถูกลบออกไป
ล่าสุด นายตามโพธ ต่อสุวรรณ ลูกชายของ อ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกชื่อดังผู้ออกแบบและเป็นเจ้าของตึก สาธร ยูนีค ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับกรณีนี้ ระบุว่าทางคุณพ่อและครอบครัวไม่ทราบเรื่องการประกาศขาย และไม่เคยติดต่อให้ใครเป็นนายหน้า
“วันนี้โทรศัพท์เข้าจนสายแทบไหม้
ตั้งแต่ข่าวเรื่องประกาศขาย คุณพ่อ (อ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ) ไม่ได้เป็นผู้ประกาศขายนะครับ
ตึกนี้มีข้อพิพาทและคดีความมากมายหลายอย่าง กระบวนการทางกฎหมายที่ฉ้อฉลยึดทรัพย์ภาคเอกชนผ่องถ่ายไปองค์กรข้ามชาติแล้วฟอกทรัพย์กลับมาเข้ามือกลุ่มทุนสามานย์ที่เป็น deep state ของประเทศนี้ คุณพ่อและคุณแม่ต่อสู้กับกระบวนการฉ้อฉลปล้นชาตินี้มายาวนานร่วม 30ปี
Fact ที่หลายคนอาจไม่รู้ ห้องชุดในตึกนี้ได้ขายไปแล้วมากกว่า 90% ตั้งแต่เปิดขายเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว กลุ่มทุนสามานย์นี้ไม่ได้ปล้นเฉพาะ Developer แต่ปล้นคนซื้อทุกคน โอนถ่ายทรัพย์ไปมาเพื่อเขย่าให้ตึกนี้กลายเป็นตึกเปล่าที่ยังไม่มีใครซื้อ ซื้อถูก-ฟอกขาว-เขย่าให้เป็นตึกเปล่า นี่คือสิ่งที่ทุนสามานย์ทำกับทุกตึกทุกอาคารที่โดนโยนลงหม้อต้มยำกุ้ง
เรื่องราวการต่อสู้ของท่านทั้ง 2 ยังคงดำเนินอยู่ และผมเชื่อว่าจะดำเนินต่อไปตราบเท่าที่ท่านยังมีลมหายใจอยู่
การประกาศขายไม่ได้มาจากคุณพ่อ และท่านไม่ได้ติดต่อพูดคุยกับใครเกี่ยวกับตึกนี้ในการขาย ช่วงระยะหลังท่านสุขภาพไม่ค่อยดี ท่านพักผ่อนเสียเป็นส่วนใหญ่ครับ
โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพข่าว ถ้าปัญหาตึกนี้มันจบง่าย มันคงไม่ยืนเป็นอนุสาวรีย์ต้มยำกุ้งมานาน 30 ปี”
TAGS:
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
