หนุ่มคลั่งยิงลุงเขย ก่อนซ้อน จยย.ไปยิงเพื่อน เสียชีวิตที่ รพ.ทั้งคู่ ตำรวจเร่งล่าตัว

เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 14 ก.พ.68 พ.ต.อ.พจนกร กัญจินะ ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง ได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.ไพศาล มูลกุล ร้อยเวรสายตรวจรถยนต์ ซึ่งรับแจ้งจาก รพ.อ่างทอง ว่านายพิชากร หรือ เต้า (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาวบ้านหมู่ 7 ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ถูกอาวุธปืนยิงโดนที่ลำตัวหลายนัด และมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ XX หมู่ที่ 7 ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบปลอกกระสุนขนาด 11 มม.ตกอยู่ 3 ปลอก และหัวกระสุนตกอยู่ 1 หัว 

จากการสอบถาม นายวทัญญู (สงวนนามสกุล) พี่ชายของนายเต้าที่เสียชีวิต เล่าว่า ขณะอยู่ในห้องได้ยินเสียงปืนประมาณ 5-6 นัด จึงรีบวิ่งออกมาดู พบว่า น้องชายถูกยิงได้รับบาดเจ็บ นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นบ้าน และเมื่อตนสอบถามเพื่อนของน้องชายชื่อ ปอนด์ อายุ 25 ปี ที่นั่งให้น้ำไก่ชนอยู่กับน้องชาย จำได้ว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายพี ที่เคยเป็นเพื่อนสนิทกัน 

ต่อมา เวลาประมาณ 16.20 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจาก รพ.อ่างทอง ว่านายเดชา (สงวนนามสกุล) อายุ 70 ปี ถูกยิงบาดเจ็บที่บ้านเลขที่ XX/1 หมู่ที่ 3 ต.หัวไผ่ อ.เมืองอ่างทอง ทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.อ่างทอง เข้าให้การช่วยเหลือ และคนเจ็บไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

จากการสอบถาม นางกฤชพร อ่อนดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.หัวไผ่ ห้ข้อมูลว่า มีลูกบ้านแจ้งว่ามีคนเป็นลมจึงมาดู และแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพเข้ามาตรวจสอบ พบว่าคนเจ็บถูกยิง จึงนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายพี หรือนายธนกร (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ XX หมู่ที่ 3 ต.หัวไผ่ อ.เมืองอ่างทอง เป็นผู้ก่อเหตุยิงนายเดชา อายุ 70 ปี อดีตทหารผ่านศึก ซึ่งมีศักดิ์เป็นลุงเขย ก่อนซ้อนท้าย จยย.ที่มีเพื่อนขับ ไปยิงนายเต้า อายุ 3 ปีที่เคยเป็นเพื่อนกันต่อเป็นรายที่ 2 ก่อนจะหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบเส้นทางหลบหนีที่แน่ชัด

ทางด้าน นางชลธิชา (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี แม่ของนายพี ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ลูกชายป่วยด้วยโรคทางจิตเวช กินยาบ้างไม่กินบ้าง และชอบบอกว่าไม่มีใครรัก ก่อนเกิดเหตุตนเพิ่งโอนเงินไปให้ลูกชาย เนื่องจากลูกชายไม่มีงานทำ และลูกชายยังตอบมาขอบคุณตนเองอยู่เลย ซึ่งลูกเป็นคนคิดมาก และยังมีเรื่องกระทบกระทั่งกับญาติที่ปลูกบ้านอยู่ติดกันด้วย อย่างไรก็ตาม อยากให้ลูกชายกลับมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้เร่งแกะรอยจากกล้องวงจรปิด ที่อยู่ในที่เกิดเหตุทั้ง 2 แห่ง เพื่อทำการติดตามตัวนายพี ผู้ก่อเหตุ อย่างเร่งด่วนแล้ว ซึ่งคาดว่า นายพี ได้เข้าไปยิงนายเดชา ทางห้องครัวหลังบ้าน ก่อนที่จะเดินมาขึ้นรถ จยย.ของเพื่อนที่จอดรออยู่หน้าบ้านตนเอง แล้วไปยิงนายเต้าต่อที่บ้านพัก ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 10 กิโลเมตร - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน