คุณยายสุดเศร้าสุนัขแสนรักตกใจเสียงพลุคืนลอยกระทงวิ่งเตลิดหายยังไม่พบ
คุณยายสุดเศร้าสุนัขแสนรักตกใจเสียงพลุคืนลอยกระทงวิ่งเตลิดหายยังไม่พบ
คุณยายสุดเศร้าสุนัขแสนรักตกใจเสียงพลุคืนลอยกระทงวิ่งเตลิดหายยังไม่พบ ลูกสาวออกตามหาทุกที่ วอนพลังโซเชียลช่วย
(19พ.ย.67) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 2/9 หมู่ 11 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อพบกับครอบครัว บูรณะชีพ ซึ่งมีลูกสาว 2 คน และ คุณยาย วัย 83 ปี นั่งซึมเศร้าอยู่บนเตียงนอนกำลังช่วยกันดูป้ายประกาศ"ตามหาสุนัข"ที่ลูกสาวทำขึ้นมาหลังจากหายออกจากบ้านไปเมื่อคืนวันลอยกระทง จนครอบครัวบูรณะชีพออกตามหาทั้งเช้าและค่ำ กว่า 4 วันแล้วยังไม่พบ เป็นภาพที่เคยสร้างความสะเทือนใจกับคนรักสุนัข
คุณยายอุบล บูรณะชีพ อายุ 83 ปี เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนว่า สุนัขที่ตนเลี้ยงไว้ชื่อคอฟฟี่ อายุ 6 ขวบ พันธุ์ไทยหลังอาน สีน้ำตาลเข้ม ปากดำ มีโซ่คล้องคอ ซึ่งเลี้ยงไว้ตั้งแต่เล็กได้หายออกจากบ้านไปในวันคืนลอยกระทงหลังจากตกใจเสียงพลุที่จุดกันภายในงานวันลอยกระทงใกล้บ้าน
คุณยายอุบล เล่าต่อไปว่า ซึ่งตอนนั้นช่วงหัวค่ำตนให้ลูกสาวนำเจ้าคอฟฟี่ขึ้นมาขังไว้บนบ้าน โดยปิดประตูเอาไว้และหลังจากการจุดพลุในงานวันลอยกระทงเสร็จก็ได้เปิดประตูเหล็กให้เจ้าคอฟฟี่วิ่งขึ้นลงไปข้างล่างได้เหมือนทุกวัน โดยตนก็เลี้ยงหมาไว้อีก 2 ตัว ชื่อเจ้าคอฟเปอร์พันธุ์เดียวกันกับสุนัขที่หายไปรวมเจ้าคอฟฟี่เป็น 3 ตัว
"พอตอนเช้าตื่นขึ้นมาไม่เห็นเจ้าคอฟฟี่ เห็นเพียงเจ้าคอฟเปอร์หมาที่เลี้ยงไว้วิ่งขึ้นมาหาบนบ้านตามปกติ ตนแปลกใจจึงได้ตะโกนเรียกอยู่หลายครั้งก็ไม่เห็นเจ้าคอฟฟี่วิ่งมาหา ปกติถ้าเรียกมันจะต้องขึ้นมาจึงได้บอกลูกสาวให้ลงไปตามหาให้หน่อยแต่สุดท้ายก็หาไม่เจอ" คุณยายอุบล กล่าว
คุณยายอุบล บอกด้วยว่า ตอนนั้นรู้สึกเครียดมากลูกสาวทั้งสองคนจึงบอกกับตนเองว่าเดี๋ยวจะออกไปตามหาให้ โดยลูกได้นำรูปถ่ายเจ้า คอฟฟี่พร้อมเบอร์โทรศัพท์ไปถ่ายเอกสาร A4 ติดป้ายประกาศตามหาทุกที่ที่คิดว่าสุนัขจะวิ่งหนีเตลิดไป แต่ก็ยังไม่มีเบาะแส ผ่านไป 4 วันแล้ว
"ตอนนี้รู้สึกกังวลใจเครียดกินไม่ได้นอนไม่หลับตื่นขึ้นมาก็คิดถึงเจ้าคอฟฟี่ว่ามันจะกินอยู่ยังไงจะหิวน้ำหรือไม่หรือจะถูกหมาเจ้าถิ่นกัดหรือเปล่า" คุณยายอุบล กล่าว
ทางด้าน น.ส.ประวีร์อัณ และ น.ส.รังษการ ลูกสาว บอกว่า หลังจากที่เจ้าคอฟฟี่หายไปนั้นแม่ของตนเองก็เกิดอาการซึมเศร้า นั่งอยู่แต่บนเตียงมองดูรูปถ่ายเจ้าคอฟฟี่ ในมือถือตลอดเวลาและแม่ยังช่วยนำใบประกาศที่ตนนั้นถ่ายเอกสารเอาไว้ถึง 60 แผ่น ช่วยใส่ถุงใส ไม่ให้กระดาษเปียกเพื่อให้ตนเองนำไปติดประกาศไว้ตามที่ต่าง ๆ
ลูกสาวทั้งสอง บอกอีกว่า เห็นแล้วก็รู้สึกสงสารแม่และร้องไห้ด้วยเมื่อเห็นภาพสุดซึ้งที่คุณแม่นั้นนั่งดูรูปถ่ายเจ้าคอฟฟี่อยู่ตลอด โดยตนเองและพี่สาวจะนำรถกระบะที่บ้านที่เจ้าคอฟฟี่คุ้นเคยพร้อมกะละมัง ไฟฉาย ใบติดป้ายประกาศ ออกตามหาตั้งแต่ช่วงเช้าถึงค่ำ ไปทุกซอกทุกมุม
โดยพี่สาวจะเคาะกะละมังเรียกเจ้าคอฟฟี่ตลอดเส้นทาง ช่วงกลางคืนก็จะนำไฟฉายไปส่องดูตามป่าที่คิดว่าจะวิ่งหนีเข้าไป แต่ก็ไม่พบและมีผู้หวังดีแจ้งเบาะแสว่าพบเห็นสุนัขถูกรถชนเสียชีวิต สีลักษณะเหมือนเจ้าคอฟฟี่ พอไปดูก็ไม่ใช่ แต่มีเจ้าของสุนัขที่เสียชีวิตนั้นมีเจ้าของและเป็นสุนัขที่หนีเตลิดเมื่อได้ยินเสียงจุดพลุออกมาจากบ้านจนมาถูกรถชนตายตนเองจึงนำร่างเจ้าสุนัขยกขึ้นท้ายรถไปคืนเจ้าของให้
อีกทั้งยังไปที่เทศบาลปราสาททองเพื่อให้ประกาศตามหาเสียงตามสายและยังไปขอดูกล้องวงจรปิดดูก็พบว่าช่วงเวลาประมาณ 21.15 น.ของคืนวันลอยกระทงเห็นเจ้าคอฟฟี่วิ่งย้อนศรอยู่ริมถนนหน้าเทศบาลมุ่งหน้าผ่านโรงพยาบาลบางปะอินอย่างไม่คิดชีวิต ซึ่งห่างออกจากบ้านกว่า 2 กิโลเมตร แล้วก็หายไป
อย่างไรก็ดีได้นำเรื่องราวทั้งหมดไปโพสต์ลงโซเชียลเพื่อตามหาใครทราบเบาะแสหรือพบเจอจะมีรางวัลให้ติดต่อมาที่เบอร์โทรศัพท์ 089-166-9899 ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะตอนนี้สภาพคุณยายนั้นใจไม่ดีมีความดันขึ้นตลอดเวลา เพราะคิดถึงสุนัขที่ท่านเลี้ยงไว้มาตั้งแต่เล็ก