เผยปมสลดทหารหนุ่มปลิดชีพตัวเองดับภายในสวนรถไฟจตุจักร

(11 ก.พ.68) จากรายงานข่าวเมื่อคืนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ช่วง 2 ทุ่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ ได้รับแจ้งเหตุแถวสวนวชิรเบญจทัศ หรือสวนรถไฟ ว่ามีชาวบ้านได้ยินเสียงปืน โดยจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณสนามกีฬาสวนรถไฟ ฝั่งเข้ามาจากโรงพยาบาลมิราเคิล เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงไปตรวจสอบ

พบผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 32 ปี สวมเสื้อแขนสั้นของหน่วยงานทหาร ผมเกรียน สภาพศพมีรอยถูกยิงบริเวณศีรษะ นอนเสียชีวิตตรงอัฒจันทร์ของสนามกีฬา และพบปืนกล๊อก 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอก

จากการสืบสวนทราบว่าผู้เสียชีวิต อายุ 32 ปี ยศจ่าสิบตรี เป็นกำลังพลของทหารหน่วยหนึ่ง และมีปัญหาทะเลาะกับแฟนหนุ่ม ซึ่งมีปากเสียงกันตั้งแต่วานซืนที่ผ่านมา และผู้ตายได้มีการไปง้อ โดยมีประโยคว่า "นี่เป็นวาเลนไทน์สุดท้ายใช่ไหม" ก่อนปลิดชีวิตตัวเอง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบถึงสาเหตุของการทะเลาะกัน อีกทั้งเบื้องต้นมีข้อมูลว่าผู้ตายมีอาการป่วยเป็นซึมเศร้า

ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางซื่อ เผยว่า ผู้ตายเดินได้ตั้งใจทางมาจาก จ.นครปฐม เพื่อมาจบชีวิตตัวเอง เนื่องจากภายในกระบอกปืนมีกระสุนเพียง 1 นัดเท่านั้น ซึ่งเห็นได้ว่าไม่ได้ตั้งใจจะมาทำร้ายใคร แต่มาเพื่อยิงจบชีวิตตัวเอง 

ขณะที่แฟนของผู้ตายให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายคบหากับแฟนเก่าได้เกือบ 10 ปี และมาคบกับตนระยะเวลา 2 ปี ซึ่งโดยปกติผู้ตายจะอยู่กับแม่ที่ จ.นครปฐม อีกทั้งผู้ตายมีอาการเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งมีการทานยารักษามานานแล้ว รวมไปถึงมีบัตรผู้ป่วยซึมเศร้าอีกด้วย

โดยกิจวัตรตามปกติ ผู้ตายมักจะมาหาตนที่กรุงเทพ ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ โดยจะรู้ว่า หากตนไม่อยู่ที่พัก ผู้ตายก็จะมาหาตนที่สนามวอลเลย์บอล ซึ่งผู้ตายจะมานั่งดูแต่เล่นไม่เป็น 

โดยก่อนหน้านี้ก็มีทะเลาะกันบ้างเรื่องทั่วไป ย้อนกลับไปเมื่อวานนี้ผู้ตายเข้ามาประมาณ19.30 น. จากนั้นมีการพูดคุยทะเลาะกันซึ่งต่างคนต่างอารมณ์ร้อน ตนเลยบอกให้ใจเย็นๆก่อนค่อยคุยกัน และผู้ตายก็โพสต์เชิงจะฆ่าตัวตาย ซึ่งตนก็เลยบล็อก ไม่อยากเห็นรับรู้เรื่องนี้  

ย้อนกลับไปในวันเกิดเหตุผู้ตายได้เอาของขวัญมาให้ตน 1 ชิ้นคือ กรอบรูปที่ทำและโพสต์ไว้ในเฟส พร้อมบอกว่าเป็นของขวัญวาเลนไทน์ชิ้นสุดท้ายที่จะมอบให้ และประโยคสุดท้ายว่า "นี่เป็นวาเลนไทน์สุดท้ายใช่ไหม"

จากนั้นผู้ตายไปนั่งอัฒจันทร์ชั้น 4 ก่อนจะยิงตัวเอง ทำให้ร่างตกมาที่ชั้น 3 ของอัฒจันทร์ และพวกตนและเพื่อนๆจึงไปจับร่างมาที่อัฒจันทร์ชั้น 2 จึงทำให้เห็นคราบเลือดทุกชั้นของอัฒจันทร์

ทีมข่าวเวิร์คพอยท์จึงลงพื้นที่ไปยังสนามวอลเลย์บอลดังกล่าว ซึ่งเป็นสนามกีฬาของสวนรถไฟ พบว่า ช่วงเช้า มีเจ้าหน้าที่ของทางสวนรถไฟเริ่มมาทำความสะอาดที่อัฒจันทร์จุดเกิดเหตุ ที่มีรอยคราบเลือดยาวตั้งแต่อัฒจันทร์ชั้นบนสุดมาจนถึงชั้นล่างสุด พร้อมกับชุดดอกไม้ธูปเทียนที่ทางญาติได้มีการมาอัญเชิญดวงวิญญาณไปแล้ว

ต่อมาทีมข่าวได้พบกับ นายโชค(นามสมมุติ) เจ้าหน้าที่ดูแลสนามที่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ(สนามเทนนิส) และเป็นผู้ที่ได้ยินเสียงปืน 1 นัด เล่าว่า มักเห็นผู้ตายและคนสนิททักมาด้วยกัน และมาเล่นกีฬาที่สนามวอลเลย์บอลแห่งนี้เป็นประจำ และจะมีกลุ่มแก๊งค์เพื่อนประจำที่มักจะเล่นด้วยกันเสมอ

วันเกิดเหตุตนทราบแค่ว่ามีเด็กระแวกนั้นมาเล่าให้ฟังว่าทั้งคู่ทะเลาะกัน แต่ทะเลาะเรื่องอะไรนั้นตนไม่ทราบ ซึ่งเวลานั้นเป็นเวลาที่สนามใกล้จะปิดแล้ว ผู้คนที่มาสวนสาธารณะก็เริ่มจะทยอยกลับ เนื่องจากโดยปกติสนามแห่งนี้จะปิดเวลาสองทุ่มครึ่ง 

ตอนที่เสียงปืนดังขึ้น ตอนนั้นตนก็ไม่คิดว่าคือ เสียงปืนเนื่องจากเสียงคล้ายประทัด พอเด็กวิ่งมาบอกตนถึงได้ทราบว่าเป็นเสียงอาวุธปืนแต่ตนไม่ได้วิ่งไปดู - ข่าวเวิร์คพอยท์รายงาน