เจ้าอาวาสอาเจียนเป็นเลือด มรณภาพปริศนา ส่งร่างชันสูตรหาสาเหตุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2567 หน่วยกู้ภัยมังกรศรีบุญเรือง ได้รับแจ้งจาก ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองโนหมู่ 7 ต.หนองบัวใต้ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ว่าที่วัดป่าเลไลย์ในหมู่บ้านหนองโน มีพระสงฆ์รูปหนึ่งได้อาเจียนเป็นเลือด นอนหมดสติอยู่ด้านหน้ากุฏิ เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาล 

เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า พระสงฆ์รูปดังกล่าว นอนแน่นิ่งอยู่ เมื่อทำการตรวจวัดไม่พบชีพจร จึงได้ แจ้งให้ พ.ต.ต.พิเชษฐ์พงศ์ ราชบัวโคตร พนักงานสอบสวนเวร สภ.ศรีบุญเรือง ทราบและหลังจากที่ได้รับแจ้ง ได้ประสานไปยังนายแพทย์ชิดจิรา พวงวาสนา แพทย์เวรโรงพยาบาลศรีบุญเรือง ร่วมตรวจสอบเหตุผู้เสียชีวิตที่ผิดธรรมชาติ 

ที่เกิดเหตุ พระรูปดังกล่าวในชุดที่สวมสบงจีวร นอนหงายอยู่ด้านหน้ากุฏิ มีรอยคราบเลือดไหลออกมาจากปากและจมูก ตรวจสอบตามร่างกาย ไม่พบร่องรอยบาดแผลและการถูกทำร้าย ทราบชื่อต่อมาคือ พระอธิการประจวบ (สงวนนามสกุล) อายุ 73 ปี บริเวณดังกล่าว ยังพบเก้าอี้พลาสติกข้างๆ ร่างของพระรูปดังกล่าว พบกระโถนที่มีเลือดเกือบเต็มกระโถน และยังมีจุดรอยเลือดตามพื้นอีกด้วย 

จากการสอบถาม ชาวบ้านญาติโยมที่มาวัด และช่างที่มาทำงานอยู่ที่วัด ทราบว่า พระอธิการประจวบ หลังกลับจากบิณฑบาตมาถึงวัดแล้ว ญาติโยมได้เตรียมภัตตาหารเช้า ใส่สำรับมาถวาย จากนั้นก็ได้ให้พรกับญาติโยมแล้ว ญาติโยมก็เตรียมจะกลับบ้าน พระก็เตรียมจะฉัน แต่จู่ๆพระอธิการประจวบ รู้สึกว่าอาการไม่ดี จึงบอกว่าขอไปที่กุฏิก่อน และได้มานั่งอาเจียนเป็นเลือดใส่กระโถนจนเกือบเต็มอยู่ที่เก้าอี้ 

เมื่อช่างที่ทำงานอยู่ในวัดเดินผ่านมา ได้ถามหลวงพ่อว่าทำอะไร หลวงพ่อก็บอกกับช่าง ให้เรียกหาผู้ใหญ่บ้านให้หน่อย ช่างก็วิ่งไปเรียกผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านหนองโน ให้มาดูอาการหลวงพ่อ 

ชาวบ้านที่มาเห็นอาการของหลวงพ่อมีเลือด ก็ทำอะไรไม่ถูก ได้วิ่งไปหาเรียกรถเพื่อจะนำส่งโรงพยาบาล ช่างทำงานที่วัด ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทำได้เพียงบีบนวดขา แต่เมื่อชาวบ้านออกมา ก็พบว่า หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว

ด้านพระครูวิชัยธรรมานุวัตร เจ้าอาวาสวัดสามัคคีชัย บ้านหนองบัวใต้ ต.หนองบัวใต้ อดีตเจ้าคณะอำเภอศรีบุญเรือง หลังทราบข่าว ได้รีบเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ พร้อมชาวบ้านหนองโน

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ แม้ว่าจะไปพบความผิดปกติตามร่างกาย ก็ได้เร่งส่งศพชันสูตรที่นิติเวช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป โดยหลังชาวบ้านทราบข่าว การมรณภาพของพระอธิการประจวบ ต่างได้พากันเดินทางยังวัด ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าโศก ซึ่งพระอธิการประจวบ จำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้มานานประมาณ 10 ปี และเป็นพระเพียงรูปเดียวของวัดในปัจจุบัน