อุตุฯ เผยอากาศร้อนจัดถึง 6 มี.ค. เตือนภาคเหนือ - อีสาน ระอุ 40 องศาฯ ระวังฮีสโตรก

อุตุฯ เผยอากาศร้อนจัดถึง 6 มี.ค. เตือนภาคเหนือ - อีสาน ระอุ 40 องศาฯ ระวังฮีสโตรก

29903 มี.ค. 68 18:25   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

อุตุฯ เผยอากาศร้อนจัดถึง 6 มี.ค. เตือนภาคเหนือ - อีสาน ระอุ 40 องศาฯ ระวังฮีสโตรก โดยเฉพาะกลุ่มกีฬากลางแจ้ง

(3มี.ค.68) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ฝุ่นภาพรวมของประเทศไทยวันนี้ พบว่า ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม. และปริมณฑล มีค่าฝุ่นอยู่ในเกณฑ์ดี มีเพียง อ.มาบตาพุด จ.ระยอง ที่ยังเกินค่ามาตรฐาน และยังต้องจับตาสถานการณ์ฝุ่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะ จ.อุบลราชธานี ซึ่งพบค่าฝุ่นอยู่ที่ 87.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่ามากที่สุดของประเทศ ส่วน จ.ยโสธร อยู่ที่ 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ จ.มุกดาหาร 56.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ยังเกินค่ามาตรฐาน  


"ส่วน พื้นที่ กทม. และปริมณฑล ตั้งแต่วันศุกร์เป็นต้นมา สถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตรงกับที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่วันที่ 6 - 7 มีนาคมนี้ จะมีฝนตกในประเทศกัมพูชา จะช่วยให้สถานการณ์ค่าฝุ่นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีแนวโน้มดีขึ้น" นายจิรายุ กล่าว


ด้านสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสด้า พบว่า ประเทศไทยมีจุดความร้อนจำนวน 760 จุด พบมากในภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ตาก ลำปาง ชัยภูมิ กาฬสินธุ์ ส่วนประเทศเพื่อนบ้าน เมียนมา พบจุดความร้อนมากที่สุดที่ 3,159 จุด อาจส่งผลให้ค่าฝุ่นเพิ่มสูงขึ้นได้  


ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า หลังจากประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ สภาพอากาศเริ่มร้อนขึ้น โดยเฉพาะประเทศไทยตอนบน จะมีอากาศร้อนจัดต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 6 มีนาคม ส่วนในช่วง 1 - 2 วันนี้ ต้องเฝ้าระวังฝุ่นในภาคเหนืออีกครั้ง เนื่องจากจะมีลมเปลี่ยนทิศ


นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่า ในสัปดาห์นี้ทั่วประเทศไทยจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะสูงขึ้นกว่า 40 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ ซึ่งจะเกิดภาวะอากาศร้อนจัด อาจทำให้เกิดโรคลมแดดหรือฮีสโตรกได้ โดยเฉพาะผู้ที่นิยมเล่นกีฬากลางแจ้งในช่วงระหว่างกลางวัน ไม่ว่าจะเป็นกีฬากอล์ฟ ฟุตบอลหรืออื่นใดให้พึงระวังเนื่องจากอากาศร้อนจัดทำให้หมดสติและเสียชีวิตเป็นประจำทุกปี


ที่มา : รัฐบาลไทย


ข่าวเวิร์คพอยท์23

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง