[อัปเดต-พบตัวแล้ว]พ่อวอนช่วยตามหา ลูกชาย 8 ขวบ หายไปกับคนเร่ร่อน
[อัปเดต-พบตัวแล้ว]พ่อวอนช่วยตามหา ลูกชาย 8 ขวบ หายไปกับคนเร่ร่อน
พ่อร่ำไห้ใจสลาย วอนสังคมช่วยตามหา “น้องอั่งเปา” อายุ 8 ขวบ หายตัวไปจากบ้านในพื้นที่คลองหนึ่ง-คลองหลวง ปทุมธานี เบาะแสสุดท้ายน้องบอกจะไปดู “ตาเจี๊ยบ” คนเร่ร่อนแถวบ้าน ก่อนหายไปพร้อมกัน - ล่าสุดมีคนเห็นแถววัดดาวเรือง ต.บางพูด แต่ตามไปไม่เจอ
(25 ม.ค. 68) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายฉัตรชัย อายุ 37 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่18 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ว่าบุตรชาย อายุ 8 ขวบ หายออกจากบ้านไปพร้อมกับชายเร่รอน ตอนนี้ยังไม่พบตัวเกรงจะได้รับอันตราย เบื้องต้นคุณพ่อแจ้งความไว้ที่ สภ.คลองหลวง แล้ว
นายฉัตรชัย เปิดเผยว่า ลูกชายหายไปตั้งแต่เย็นวันอังคารที่ 14 ม.ค. หลังกลับมาจากโรงเรียน ลูกชายเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดสีน้ำเงินคาดเหลือง แขนสั้น กางเกงนักเรียนสีดำ รองเท้าแตะสีชมพู และได้ขอออกจากบ้านบอกว่าจะไปดูตาเจี๊ยบ ชายเร่ร่อนเก็บของเก่าที่อาศัยอยู่ใต้สะพานช่วงถนนเลียบทางรถไฟเชียงราก โดยตาเจี๊ยบเคยมาที่บ้านเพื่อมาขอของเก่าเอาไปขาย
ตนห้ามลูกว่าไม่ให้ไป แต่สุดท้ายลูกก็ออกจากบ้านมา พอตนรู้พยายามเดินออกตามหาลูกแต่ไม่เจอ ไปตามจุดที่ทราบว่าตาเจี๊ยบเคยพักอาศัยอยู่ก็พบว่าที่พักของตาเจี๊ยบถูกรื้อไปแล้ว และไม่พบทั้งตัวตาเจี๊ยบและน้องอั่งเปา
ตนจึงตัดสินใจไปแจ้งความ จนกระทั่งช่วงเช้าวันนี้มีคนแจ้งเบาะแสมาว่าเจอเด็กชายเดินมากับคนเร่ร่อน คาดว่าจะเป็นน้องอั่งเปา แถววัดดาวเรือง ต.บางพูด อ.เมือง จ.ปทุมธานี ตนก็ไปตามหา แต่ไม่เจอตัว ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงยืนยันพบทั้ง 2 คน เมื่อ 2 วันก่อนหน้า โดยทั้งคู่ใช้การเดินเท้าคาดว่าจะยังไปไม่ไกล
นายฉัตรชัยบอกอีกว่าหากใครพบตัวลูกชายตนเอง อยากให้ช่วยติดต่อกลับมาที่ตนเอง ตนเป็นห่วงลูกมาก นอนน้ำตาไหลมาตลอดเพราะเป็นน้องอั่งเปาเป็นลูกชายคนเดียวหัวแก้วหัวแหวนของตนเอง ที่ผ่านมาน้องเคยไปกับตาเจี๊ยบมาแล้วสองครั้ง แต่ตนเองไปเจอก็ตามกลับมาได้
ตนเองคิดว่าสาเหตุที่ลูกชายไปด้วยเพราะตาเจี๊ยบชอบให้ของเล่นให้เงิน และช่วงนี้ตนเองตกงานพอดีจึงไม่มีเงินมาจุนเจือครอบครัว ตนเองเพิ่งไปสมัครงานมาแต่ยังไม่ทันได้ทำงานจึงไม่มีเงิน ส่วนลูกชายตนเองไปเรียนทุกวันและเป็นนักเรียนที่ได้ทุนเรียนดี
นายฉัตรชัย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองอยากให้ลูกกลับมาบ้าน ตนเองรักมาก เป็นห่วงกินไม่ได้นอนไม่หลับ เช้ามาก็ออกตามหาแต่เช้า หากอยู่แถวนี้ลูกตนเองต้องกลับบ้านได้เพราะเคยใช้เส้นทางย่านนี้ประจำ ตนเองกลัวเรื่องความปลอดภัยหากไม่กักขังไว้ลูกชายตนเองต้องกลับบ้านได้