เปิดปมแค้น 10 ปี หนุ่มคลั่งยิงดับ 3 เจ็บ 3
เปิดปมแค้น 10 ปี หนุ่มคลั่งยิงดับ 3 เจ็บ 3
เปิดปมแค้น 10 ปี หนุ่มวัย 33 ก่อเหตุยิงกราดเพื่อนบ้าน เจ็บ 3 ดับ 2 ก่อนยิงตัวเองเป็นศพที่ 3 เพื่อหนีความผิด พบเหมาแท็กซี่จากกรุงเทพกลับมาสางแค้นที่บึงกาฬ
(20 ธ.ค. 67) จากกรณีช่วงสายวานนี้(19 ธ.ค.) ตำรวจ สภ.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งเหตุมีการกราดยิงที่บ้านโนนแก้ว ตำบลหนองหัวช้าง อำเภอพรเจริญ เมื่อเข้าตรวจสอบเหตุพบมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย ก่อนที่จะพบว่าผู้ก่อเหตุหลบหนีไปยิงตัวเองเสียชีวิต รวมยอดผู้เสียชีวิต 3 ราย
จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายชื่อ นายธนพล อายุ 33 ปี ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ในการก่อเหตุ โดยนายธนพลได้เหมารถแท็กซี่จาก กทม. มาส่งที่บ้านเกิดโดยมาถึงตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 18 ธ.ค. ที่ผ่านมา เริ่มก่อเหตุด้วยการบุกไปยิงนายประกอบ อายุ 60 ปี ถูกเข้าที่ขาของนายประกอบ ก่อนที่นายประกอบจะวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านได้
จากนั้นจึงก่อเหตุยิงนายพิชิตชัย อายุ 32 ปี ลูกชายของนายประกอบ ได้รับบาดเจ็บ มีเพื่อนบ้านช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลอีกราย ซึ่งนายประกอบและนายพิชิตชัยเคยมีเรื่องบาดหมางกับนายธนพล ผู้ก่อเหตุมาก่อน โดยนายประกอบเคยแจ้งความจับนายธนพล ในคดีทำร้ายร่างกายลูกชายของนายประกอบจนลูกชายนายประกอบเสียชีวิต นายธนพลติดคุกอยู่นาน 4 ปี เมื่อออกจากคุกมาได้เคยประกาศว่าจะฆ่าล้างโคตรนายประกอบ
หลังจากนายธนพลยิงนายพิชิตชัยแล้ว นางนันทิดา อายุ 35 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกันที่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับนายธนพลได้ผ่านมา และกำลังจะเข้าไปถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ถูกนายธนพลยิงใส่ ก่อนจะเดินซวนเซออกมาล้มเสียชีวิตที่ถนน ในเวลาเดียวกันนายจำเนียร อายุ 50 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็น จะเข้าไปช่วยเหลือนางนันทิดา ก็ถูกยิงเสียชีวิตอีกราย
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีกรายคือ นายวรรธนะ อายุ 48 ปี หน่วยกู้ชีพ อบต.หนองหัวช้าง ที่จะเข้าช่วยเหลือคนที่ถูกยิงก็ถูกนายธนพลยิงจนได้รับบาดเจ็บอีกราย ท้ายที่สุดเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเรื่องและมาถึงหมู่บ้านพร้อมด้วยหน่วยสวาทและสไนเปอร์ เมื่อเข้าเคลียร์พื้นที่ก็พบร่างของนายธนพล ในปืนกระบอกที่ก่อเหตุยิงตัวเองเสียชีวิตบนแคร่ภายในบ้านพัก รวมเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และได้รับบาดเจ็บ 3 ราย
ทั้งนี้จากการสอบถามญาติของนายธนพล ผู้ก่อเหตุ ทราบว่าไม่ได้มีอาการทางจิตเวช หรือยุ่งเกี่ยวกับสารเสพติด คาดว่าที่ก่อเหตุเป็นเพราะความแค้นที่เคยถูกนายประกอบแจ้งจับจนติดคุกนั่นเอง โดยหลังพ้นโทษออกมานายธนพลได้ไปบวช ก่อนจะสึกลงไปทำงานที่ กทม. แต่เพราะไม่สามารถละวางความแค้นในใจได้ จึงเหมารถกลับบ้านเพื่อมาก่อเหตุดังกล่าว