นายกฯ ชวน "อนุทิน" ยืนใกล้ๆต่อหน้าสื่อสยบรอยร้าวพรรคร่วมรัฐบาล
นายกฯ ชวน "อนุทิน" ยืนใกล้ๆต่อหน้าสื่อสยบรอยร้าวพรรคร่วมรัฐบาล

นายกฯ ชวน "อนุทิน" ยืนใกล้ๆต่อหน้าสื่อสยบรอยร้าวพรรคร่วมรัฐบาล หยอกกลับสื่อ ไปเอาข่าวเคลียร์ใจจากที่ไหนได้บ่อยๆ พร้อมรับพรรคร่วมเห็นไม่ตรงกันหลายเรื่อง แต่คุยกันได้ ไม่ใช่รอยร้าว
(25 ก.พ. 68) หลังประชุมคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินมาถึงจุดโพเดียมได้เรียกนายอนุทิน ชาญวีรกุล ให้ขยับเข้ามาใกล้ๆแล้วพูดว่า "เดี๋ยวเขาหาว่ามีรอยร้าว" จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเริ่มแถลงข่าวแต่มีการหลุดหัวเราะโดยหันหลังไปหัวเราะกับรองนายกรัฐมนตรีที่ยืนอยู่ด้านหลัง
นางสาวแพรทองธารได้ตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีที่ในช่วงนี้มีกระแสข่าวรอยร้าวของพรรคร่วมรัฐบาลบ่อยครั้ง นายกรัฐมนตรีได้ย้อนถามสื่อว่า "ก็นั่นสิคะมีข่าวแบบนี้บ่อยจังเลย ตนจึงได้เชิญนายอนุทินให้รีบเดินมาด้วยกัน เพื่อไม่ให้บอกว่าเป็นรอยร้าว ซึ่งก็มีข่าวลือออกไปเรื่อย แต่ข้อเท็จจริงตัวดิฉันเองถ้าไม่ได้ทำงาน นอกรอบก็มีการหยอกล้อเล่นกันกับรองนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีอยู่บ่อยครั้ง เวลาหลังกล้องก็มีหยอกเล่นเพื่อคลายเครียดกันบ้าง"
ส่วนกรณีกระแสข่าวลือว่า นายทักษิณ ชินวัตร มีนัดเคลียร์ใจกับ นายเนวิน ชิดชอบ ที่โรงแรมพูลแมนเมื่อวานนี้ นางสาวแพรทองธาร ตอบว่า ตนเองไม่ได้พูดคุยกับนายทักษิณ เพราะไม่ได้มีการไปเจอกันใดๆ ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมาบ่อยครั้งว่าจะมีการเคลียร์ใจกันนั้น นายกรัฐมนตรีตอบกลับนักข่าวว่า "นักข่าวเอาข่าวมาจากไหน และย้อนคำถามนักข่าว "ถ้าไม่มีมูลสุนัขก็ไม่....นั้น ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนว่าเป็นไอเดียที่ดีที่เราอาจจะต้องนัดคุยกัน จะได้เคลียร์ในเรื่องของรายละเอียดว่าอะไรเป็นอะไรกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ซึ่งตามจริงไม่ใช่แค่ตนเองกับพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แต่ยังมีคนอื่นๆที่ต้องเคลียร์กันหลายเรื่องด้วย ซึ่งจะต้องมีการอธิบาย อาจจะต้องมีการนัดคุยกันนอกรอบเพื่อไม่ให้นักข่าวรู้
ส่วนการประเมินคะแนนพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ นายกรัฐมนตรี บอกว่า "ให้สื่อมวลชนเป็นคนให้คะแนน" พร้อมย้ำว่าไม่มีอะไร ยกตัวอย่างในพรรคเดียวกันเอง 100% ยังไม่ได้เห็นด้วยเหมือนกันหมด เพราะฉะนั้นพรรคร่วมไม่เห็นด้วยกันครบ 100% เป็นเรื่องธรรมดามากๆ ซึ่งก็มีเรื่องไม่เห็นด้วยกันจริงๆ บางเรื่องต้องคุยกันเป็นการส่วนตัว เพื่อให้ได้ผลการทำงานที่ดีกว่า ไหลลื่นกว่า ซึ่งแต่ละรัฐบาล แต่ละนายกรัฐมนตรี และแต่ละรัฐมนตรี ก็มีวิธีการจัดการปัญหาที่ไม่เหมือนกัน โดยส่วนตัวมองว่าการพูดคุยเป็นเรื่องที่จำเป็น ดังนั้นจึงต้องหาเวลามาพูดคุยกันให้มากขึ้น เพื่อให้เข้าใจกันมากยิ่งขึ้น
ส่วนประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญและคดีฮั้ว สว. อาจจะเป็นประเด็นทำให้เกิดรอยร้าวของพรรคร่วมระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า มันมีเรื่องที่เห็นต่างกันจริงๆ ตนจึงได้ย้ำว่าจึงต้องคุยกัน แต่ถ้าเห็นต่างกันแล้วไม่คุยกันนั่นคือรอยร้าว ถ้าคิดไม่เหมือนกันและหันหลังให้กันนั่นคือรอยร้าว แต่ถ้าคิดไม่เหมือนกันแต่ยังเปิดใจคุยกันอยู่แบบนี้ไม่เป็นรอยร้าว เพราะคนในครอบครัวกันเองยังทะเลาะกันเลย
เพราะฉะนั้นเราเป็นคนทำงาน การที่เห็นไม่ตรงกันเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าเห็นว่ามันเป็นเรื่องไม่ปกติมันก็ไม่ปกติ นายกรัฐมนตรียืนยันว่า พรรคร่วมรัฐบาลและรัฐบาลยังคงเดินหน้า เรายังคงเดินหน้า ไม่ได้ขัดแข้งขัดขา เป็นเรื่องที่เราเห็นไม่ตรงกันมากกว่า ส่วนการร่วมรัฐบาลจนถึงสิ้นอายุรัฐบาลนั้น เป็นความตั้งใจอยู่แล้ว แน่นอนว่าไม่มีใครตั้งใจว่าร่วมรัฐบาลเสร็จแล้วแตกแยก นั่นไม่ใช่ตัวดิฉันเอง ซึ่งตัวดิฉันเองเป็นนายกรัฐมนตรีหากมีพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคแบบนี้ แล้วไปด้วยกันไม่ได้ ดิฉันต้องเป็นคนแบกและเป็นคนคุย เพราะฉะนั้นไม่ได้อยากให้มีปัญหาแบบนี้แน่นอน ดังนั้นจึงต้องมีการพูดคุยกัน และยืนยันว่ารัฐบาลนั้นจะยังอยู่ครบเทอม