รวบสองผัวเมีย ค้ายาบ้ากว่า 11,900 เม็ด

(17 ธ.ค.67) ที่ สภ.บ้านไผ่ นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และพล.ต.ต.อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภ.จว.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านไผ่ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกันปล่อยแถว เจ้าหน้าที่ จำนวน 100 นาย เพื่อออกปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น โดยแผนปฏิบัติการ "ยุทธการพิทักษ์ขอนแก่น 2566 และปฏิบัติการไล่ล่า เด็ดปีก นักค้าอีสานเหนือ252 ครั้งที่ 3 โดยกำลังเจ้าหน้าที่แบ่งออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกเข้าตรวจค้นเป้าหมายที่ชุมชนสะพานขาว ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และชุดที่ 2 ทำการปิดล้อมตรวจค้น พื้นที่บ้านหนองแวงไร่ ม.1,ม.8,ม.9

ผลการตรวจค้นที่จุดแรก เข้าตรวจค้นภายในบ้านหมู่ 2 ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จับกุมนายธนชัย หรือ เจ อายุ 31 ปี และ น.ส.ธาราลักษ์ หรือ ยุ้ย อายุ 36 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 11,969 เม็ด ถังสีจำนวน 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Oppo สีดำ 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Vivo สีดำ 1 เครื่อง และยึดรถยนต์ เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า 1 คัน ราคาประมาณ 500,000 บาท ส่วนการเข้าปิดล้อมตรวจค้นทั้งหมู่บ้านในพื้นที่บ้านหนองแวงไร่ ม.1,ม.8,ม.9ไม่พบของกลาง ได้เพียงผู้เสพยาเสพติด พร้อมอุปกรณ์การเสพยาบ้า จำนวน 22 ราย มีทั้งชายและหญิงอายุระหว่าง 20-40 ปี 

นายธนชัย หรือ เจ อายุ 31 ปี ให้การหลังถูกจับกุมว่า ตนเคยถูกจับคดียาเสพติดมาก่อนและติดคุก 3 ปีกว่า เพิ่งพ้นโทษเมื่อเดือนตุลาคม 2567 ก็มาอยู่กับภรรยาชื่อยุ้ย ซึ่งมีลูกติด 3 คน ที่กำลังเรียนหนังสือ ตนในฐานะพ่อเลี้ยงค้าขายอะไรก็ขาดทุน จึงได้ติดต่อกับเพื่อนที่พ้นโทษมาพร้อมกัน ให้ติดต่อกับเอเย่นที่ขายยาบ้า เพื่อขอรับยาบ้ามาขายเพื่อนจึงติดต่อให้ และเอเย่นก็ให้เครือข่ายนำยาบ้ามาส่งให้ 12,000 เม็ด จึงนำยาบ้าที่ได้มา นำใส่ถังสี ฝังดินไว้ที่สวนหลังบ้านแม่ยาย กระทั่งตำรวจมาตรวจค้นและจับกุม

นายเจ ยังกล่าวอีกว่า สาเหตุที่กลับมาขายยาบ้าอีก เพราะต้องหาเงินให้ลูกเลี้ยง 3 คนเรียนหนังสือ และตนก็มีภรรยาเพิ่มอีกคนกำลังตั้งครรภ์ได้ 4 อาทิตย์ จำเป็นต้องทำงานหาเงินมาให้ลูกเลี้ยงเรียนหนังสือและหาเงินไว้ให้ภรรยาอีกคนไว้คลอดลูกเลี้ยงลูกในอนาคต แต่ยังหาลูกค้าไม่ได้ ยาบ้าจึงยังฝังดินเอาไว้

ทางด้าน นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การปราบปรามยาเสพติดของจังหวัดขอนแก่นนั้น กำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ร่วมมือกันดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง จับกุมคนขายคนเสพได้มาก แต่ก็ยังมีอยู่มาก จึงจะหยุดไม่ได้ จำเป็นต้องเดินหน้าปราบปรามต่อไป และจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ทราบว่าขบวนการค้าขายยาเสพติดนั้น น่าจะมีกำลังการผลิตได้จำนวนมาก เพราะคนนำเข้ามาลักลอบจำหน่าย ไม่ต้องจ่ายเงินแม้แต่บาทเดียวก็สามารถนำยาบ้าเข้ามาขายได้ 

ในส่วนของกลุ่มผู้เสพ แต่ละรายนั้น ถูกจับซ้ำๆหลายครั้งก็ยังไม่เลิก ยังเสพมาอย่างต่อเนื่อง เพราะมีความคิดที่ผิดที่ว่าไม่เสพ ทำงานไม่ได้ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ เพราะยาเสพติดทำลายร่างกาย ทำลายทรัพยากรมนุษย์ จึงอยากให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเดินหน้าปราบปรามต่อไป เพราะตราบใดที่กฏหมายยังให้ผู้เสพเป็นผู้ป่วย คนเสพก็ยังจะมีจำนวนมากเหมือนเดิม