"กัณวีร์"โพสต์ซัด"รัฐบาลไทย"ชวนอาชญากรสากลเข้าประเทศ หลังเชิญ"มิน อ่อง หล่าย"ผู้นำทหารเมียนมาร่วมประชุม BIMSTEC

"กัณวีร์"โพสต์ซัด"รัฐบาลไทย"ชวนอาชญากรสากลเข้าประเทศ หลังเชิญ"มิน อ่อง หล่าย"ผู้นำทหารเมียนมาร่วมประชุม BIMSTEC

59126 มี.ค. 68 20:35   |     ข่าวเวิร์คพอยท์

"กัณวีร์"โพสต์ซัด"รัฐบาลไทย"ชวนอาชญากรสากลเข้าประเทศ หลังเชิญ"มิน อ่อง หล่าย"ผู้นำทหารเมียนมาร่วมประชุม BIMSTEC วันที่ 3 - 4 เม.ย. นี้

(26มี.ค.68) นายกัณวีร์ สืบแสง หัวหน้าพรรคเป็นธรรม โพสต์ข้อความผ่าน X ระบุว่า


New Low ได้อีกรัฐบาลไทย ชวนอาชญากรสากลเข้าประเทศ !!


ความวัวยังไม่ทันหาย ความอะไรมันดันเข้ามาแทรก ผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจหมาด ๆ จัดไปกับจุดยืนการทูตไทยที่ไร้ประสิทธิภาพกับการตัดสินใจผลักดันผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์กลับจีนว่ามันมีผลลบยังไงบ้าง !!


รัฐบาลไทยยิ่งทำงานการต่างประเทศยิ่งฉุดประเทศให้ถอยหลังไปทุกที ขาดความรอบคอบไปทุกด้าน ชอบคิดว่าคนอื่นไม่รู้เรื่องการต่างประเทศ เลยทำตัวฉลาดเหนือกว่าชาวบ้านอีกแล้ว สุดท้ายประเทศพัง !!


รัฐบาลไทยเชิญมิน อ่อง หล่าย ผู้นำทหารเมียนมาที่ยึดอำนาจในปี 2564 เข้าร่วมประชุม BIMSTEC ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 - 4 เมษายนนี้ในไทย เอายังไงดีหล่ะ นี่คงเป็นควันหลงหลังจากการจัดดีลไทย-จีน-เมียนมา ส่งแก๊งคอลเซนเตอร์กลับจีนโดยไทยโดนตัดตอนข้อมูลแก๊งและขบวนการต่าง ๆ ต่อด้วยผลักดันผู้ลี้ภัยอุยกูร์ 40 ชีวิตกลับจีนโดยขัดหลักมาตรฐานสากลและหลักฐานความสมัครใจ นอกจากคำพูดเลื่อนลอยจากรัฐบาลในศึกซักฟอก 


สงสัยอันนี้จะเป็นอีก 1 ดีลในข้อตกลงที่ ผช.รมว.จีน มาช่วยไทยจัดการกับแก๊งคอลเซนเตอร์และสแกมเมอร์ในเมียนมา ที่จะร่วมมือเอาผู้นำเผด็จการพม่ามาฟอกขาวเข้าร่วมการประชุมนานาชาติ เพื่อสร้างความชอบธรรมในเวทีสากลว่าผู้นำเมียนมาที่ยึดอำนาจมีความชอบธรรมอย่างเป็นทางการโดยใช้เวทีสากลที่มาจัดในไทย ใช่หรือไม่ !!


ผู้นำทหารเมียนมาที่ตั้งตนเป็น de facto authorities ในประเทศใช้กำลังเข่นฆ่าประชาชนตนเองอย่างเหี้ยมโหด สงครามกลางเมือง เข่นฆ่าคนนับหมื่น ผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 15 ล้านคน ผู้ผลัดถิ่นภายในประเทศมากกว่า 3.5 ล้านคน และมีผู้ลี้ภัยแล้วหลังรัฐประหารมากกว่าแสนคน


หากมิน อ่อง หล่าย มาไทยจริงในวันที่ 3 เมษายนนี้จะเป็นการเดินทางออกนอกประเทศอย่างเป็นทางการครั้งที่ 3 หลังจากก่อการรัฐประหารในปี 2564 ครั้งแรกไปเยือนจีน เมื่อ พ.ย.67 ครั้งที่ 2 ไปรัสเซีย เมื่อ มี.ค.68 และครั้งนี้ในเดือน เม.ย.68 จะมาไทย !!!


เราเข้าขั้นเรียบร้อยครับ จีน รัสเซีย และไทย มันน่ากังวลยิ่งนักที่ไทยเลือกข้างฝักใฝ่ฝ่ายนี้ !!


นี่ดีนะครับไทยยังไม่ได้กำหนดและเคารพเขตอำนาจศาลสากล (Universal Jurisdiction) มิเช่นนั้นคงต้องจับ มิน อ่อง หล่าย กันเลยทีเดียว หลังจากศาลอาร์เจนตินา ที่มีเขตอำนาจศาลสากลได้ออกหมายจับเมื่อกลางเดือน ก.พ. 68 เป็นที่เรียบร้อยแล้วในข้อหาอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ (Crime against Humanity) และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) ต่อชาวโรฮิงญากว่า 7 แสนคน


ตอนนี้ก็รอต่อไปอีก 1 หมายจาก ICC ที่อัยการศาลอาญาสากลได้ยื่นต่อ ICC ขอออกหมายจับมิน อ่อง หล่าย ในกรณีอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติด้วยเช่นกัน


หลายคนคงบอกว่า ก็เมียนมาเป็น 1 ในสมาชิก BIMSTEC ไง ยังไงก็ต้องเชิญสิ ไม่เชิญมิน อ่อง หล่าย จะเชิญใคร เพราะเค้าเป็นรัฏฐาธิปัตย์ในปัจจุบัน ?? 


นี่ไงครับมันคือความสามารถทางการต่างประเทศและจุดยืนทางการทูตของไทยที่ไร้ประสิทธิภาพ แถมคาดเดาไม่ได้ ตรรกะและเหตุผลทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่สามารถนำมาเป็นสูตรในการประเมินท่าทีทางการทูตของไทย เพราะไทยเน้นการดีลลับ !! ดีลแบบทวิภาคีและการเกรงกลัวต่อความมั่นคงอนุรักษ์นิยมที่ช่างไร้เหตุผลทางการทูตในศตวรรษที่ 21 จริง ๆ 


ไทยสามารถปฏิเสธส่งคำเชิญเมียนมาได้ในเชิงการทูต เพราะมันกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทย และเมื่อไทยเป็นเจ้าภาพเองหากไม่อยากให้น่าเกลียดนักก็ลดระดับการเข้าร่วมได้เป็นเอกอัครราชทูต ตอนนี้มีแค่รักษาการ ก็เชิญมาได้แบบเงียบ ๆ (นี่ผมแนะนะ) มันจะทำให้ไทยไม่ไปร่วมสังฆกรรมกับคนมือเปื้อนเลือด ที่ทั่วโลกเค้าประณามและหลายประเทศที่มีเขตอำนาจศาลสากล เค้าจ้องจะจับทันที


รอดูครับว่าดีลนี้ท่านได้แต่ใดมาและมันจะพาไทยไปที่ใด ผลกระทบหลังจากการผลักดันผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์ 40 ชีวิตกลับจีนที่ถูกประณามและเรื่องความเป็นไปได้ในการถูกตั้งกำแพงภาษีจากอียูและสหรัฐฯ แล้ว การเชิญผู้นำเผด็จการทหารเมียนมาที่ถูกหมายตาจากชาวโลกถึงความโหดเหี้ยมเข่นฆ่าคนของตัวเองเข้าประเทศในฐานะแขกอย่างเป็นทางการ คงมีแรงต้านและเสียงสะท้อนจากเวทีโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


ตีโจทย์ให้แตก และต้องกล้าหาญทางการต่างประเทศอย่างชาญฉลาดและรอบคอบ เราจึงจะสามารถอยู่รอดในเวทีโลกได้อย่างสง่าผ่าเผยครับ


ที่มา X : @nolkannavee


ข่าวเวิร์คพอยท์23

TAGS:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat