แผ่นดินไหวเขย่าเมียนมา คาด'อาฟเตอร์ช็อก' ต่อเนื่องช่วง 24-48 ชั่วโมงข้างหน้า
แผ่นดินไหวเขย่าเมียนมา คาด'อาฟเตอร์ช็อก' ต่อเนื่องช่วง 24-48 ชั่วโมงข้างหน้า

แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เขย่าเมียนมาสะเทือนถึงไทย ยังไม่มีรายงานความเสียหาย อาจมีอาฟเตอร์ช็อกขนาดเล็กถึงปานกลางต่อเนื่องในช่วง 24-48 ชั่วโมงข้างหน้า
28 มีนาคม 2568 – เมื่อเวลา 13:20 น. ตามเวลาประเทศไทย (UTC+7) เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 7.7 ริกเตอร์ ในประเทศเมียนมา โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ใกล้เมืองมัณฑะเลย์ (Mandalay) ที่พิกัด 21.42°N, 96.38°E ห่างจากเมืองซะไกง์ (Sagaing) ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 16 กิโลเมตร ความลึกของแผ่นดินไหวอยู่ที่ 10 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าตื้น ทำให้แรงสั่นสะเทือนแผ่ออกไปในวงกว้าง
สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) รายงานขนาดแผ่นดินไหวที่ 7.7 ริกเตอร์ ขณะที่ศูนย์เครือข่ายแผ่นดินไหวแห่งชาติจีน (CENC) ระบุว่าอาจสูงถึง 7.9 ริกเตอร์ ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาไทย (TMD) รายงานครั้งแรกที่ 7.1 ริกเตอร์ ก่อนปรับปรุงข้อมูลให้สอดคล้องกับแหล่งข้อมูลสากลในเวลาต่อมา
ผลกระทบในเมียนมาและไทย
ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บอย่างเป็นทางการจากเมียนมา เนื่องจากจุดศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองใหญ่ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ส่งผลให้ตึกสูงในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงหลายจังหวัดในภาคเหนือของไทย เช่น เชียงใหม่และเชียงราย สามารถรับรู้ถึงการสั่นไหวได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอาคารสูงที่เกิดการสั่นพ้องจากคลื่นความถี่ต่ำ ยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงในประเทศไทย
สะพาน Ava ที่พังถล่มในเมืองซะไกง์ เมียนมา
หลังเหตุการณ์หลักเพียงไม่นาน กรมอุตุนิยมวิทยาไทยรายงานว่าเกิดอาฟเตอร์ช็อกครั้งแรกเมื่อเวลา 14:37 น. ขนาด 5.2 ริกเตอร์ ที่พิกัด 21.77°N, 96.70°E ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวหลัก แรงสั่นสะเทือนจากอาฟเตอร์ช็อกนี้ยังคงรู้สึกได้ในบางพื้นที่ของเมียนมาและภาคเหนือของไทย แต่มีความรุนแรงลดลง ผู้เชี่ยวชาญจาก USGS คาดการณ์ว่า อาจมีอาฟเตอร์ช็อกขนาดเล็กถึงปานกลางเกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วง 24-48 ชั่วโมงข้างหน้า โดยขนาดอาจอยู่ในช่วง 4.0-6.0 ริกเตอร์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติหลังแผ่นดินไหวขนาดใหญ่เช่นนี้
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานว่าอาฟเตอร์ช็อกเหล่านี้ก่อให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม
กรมอุตุนิยมวิทยาไทยได้ออกประกาศเตือนประชาชนให้ระวังอาฟเตอร์ช็อกที่อาจตามมา โดยแนะนำให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในอาคารสูงหรือบริเวณที่มีโครงสร้างไม่แข็งแรง รวมถึงติดตามข้อมูลจากหน่วยงานอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ USGS ระบุว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้มีศักยภาพส่งผลกระทบในวงกว้างเนื่องจากความตื้นของจุดศูนย์กลาง และอาจเกิดอาฟเตอร์ช็อกที่รู้สึกได้ในระยะทางไกลในช่วงเวลาต่อจากนี้