ฟันค่าปรับโหดเดือนละ 1 ล้าน ขนส่งโคราชจับปรับรถบรรทุกควันดำ สร้างปัญหาฝุ่น PM 2.5

(21 ก.พ.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง จ.นครราชสีมา ดำเนินมาตรการเข้มงวดกับต้นเหตุของปัญหาฝุ่นควันพิษ PM 2.5 พุ่งเป้าไปที่กลุ่มเกษตรกรชาวไร่ชาวนาเผาตอซังข้าวหรือเผาอ้อย รวมถึงกลุ่มรถยนต์ รถบรรทุก ที่ปล่อยควันจากท่อไอเสียค่าเกินมาตรฐาน เป็นต้นเหตุของปัญหาฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบรุนแรงในวงกว้าง 

ในส่วนของสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ดำเนินมาตรการตรวจสอบมลพิษควันดำจากรถบรรทุก รถโดยสาร ที่ผ่านมาเกิดกระแสข่าวความเดือดร้อนของชาวไร่มันสำปะหลัง และชาวไร่อ้อย ที่กำลังอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งขายโรงงาน โดยใช้รถบรรทุกในการขนส่งผลผลิต แต่มาเจอกับมาตรการเข้มงวด ตั้งด่านตรวจสอบรถบรรทุกของเกษตรกร หลายต่อหลายรายเจอตั้งด่านตรวจจับควันดำ ต้องเสียค่าปรับ 5,000 บาท ตกอยู่ในสถานการณ์เดือดร้อนแสนสาหัส โดยเฉพาะผลผลิตมันสำปะหลังราคาตกต่ำ รวมถึงการตัดอ้อยส่งโรงงานล่าช้า เนื่องจากมาตรการห้ามเผาอ้อย ยังต้องมาเจอการตรวจจับรถบรรทุกควันดำ เสียค่าปรับ และห้ามใช้รถ เสมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ขาดทุน ได้ไม่คุ้มเสีย

เรื่องนี้ นางสาวสุวรรณา ปลอดโคกสูง หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่ง ได้รับมอบหมายจาก นายจรูญ จงไกรจักร ขนส่งจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยผลการดำเนินมาตรการตรวจจับรถควันดำ ระบุว่า เดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตั้งด่านตรวจ 13 นายในเขต อ.เมือง ด่านขุนทด ขามทะเลสอ ปักธงชัย โชคชัย หนองบุญมาก โนนสูง รวม 8 ครั้ง เรียกตรวจรถยนต์ 4,423 คัน พบการกระทำผิด 335 คัน มีการเปรียบเทียบปรับ 542 คัน รวมเงิน 1,214,500 บาท แยกเป็น รถไม่เสียภาษี 10 ราย อุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้อง 474 ราย เปลี่ยนแปลงสภาพรถ 9 ราย อื่น ๆ 81 ราย ขณะที่การตรวจมลพิษควันดำ 2,733 คัน พบควันดำเนินเกณฑ์มาตรฐาน 94 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุกควันดำ 76 คัน

ส่วนผลการตั้งด่านเดือนมกราคม 2568 ที่ผ่านมา มีการตั้งด่านตรวจ 10 ครั้งในพื้นที่เป้าหมายเดิม เรียกตรวจรถ 6,013 คัน พบกระทำความผิด 476 คัน เปรียบเทียบปรับแล้ว 416 คัน รวมเงิน 1,171,000 บาท แยกเป็น รถไม่เสียภาษี 12 ราย อุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้อง 369 ราย เปลี่ยนแปลงสภาพรถ 4 ราย อื่น ๆ 62 ราย ขณะที่การตรวจมลพิษควันดำ 3,609 คัน พบเกินเกณฑ์มาตรฐาน 119 ราย ส่วนใหญ่เป็นรถบรรทุกควันดำ 109 ราย

อย่างไรก็ตาม หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ยืนยันว่า มาตรการตรวจจับรถควันดำ ไม่ได้เลือกปฏิบัติ ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่รถบรรทุกมันสำปะหลัง หรือรถบรรทุกอ้อยของพี่น้องเกษตรกร แต่มีการตรวจจับรถยนต์ตาม พ.ร.บ.ขนส่ง ทั้งรถบรรทุก รถโดยสาร โดยตั้งด่านตรวจในพื้นที่ที่เหมาะสม จึงฝากเตือนผู้ประกอบการรถบรรทุก พี่น้องชาวไร่ชาวนา ขอให้หมั่นตรวจสอบสภาพการใช้งานของรถบรรทุกให้ดี มีความปลอดภัย ถูกต้องตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก อย่าปล่อยให้มีควันดำค่าเกินมาตรฐาน 30 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หากตรวจพบควันดำจะถูกสั่งห้ามใช้รถและเสียค่าปรับตามระเบียบกฎหมายขั้นเด็ดขาด.