หนุ่มสวีเดน ร้องสายไหมต้องรอด ถูกสาวไทยหลอกแต่งงานสูญเงินกว่า 3.5 แสน
หนุ่มสวีเดน ร้องสายไหมต้องรอด ถูกสาวไทยหลอกแต่งงานสูญเงินกว่า 3.5 แสน
หนุ่มสวีเดน ร้องสายไหมต้องรอด ถูกสาวไทยหลอกแต่งงานสูญเงินกว่า 3.5 แสน ช้ำใจฝ่ายหญิงมีสามีเป็นทหารจดทะเบียนสมรสอยู่แล้ว
(5 ก.ย.67) นาย AHMET (อาเหม็ด) อายุ 42 ปี สัญชาติสวีเดน ได้เดินทางเข้าร้องเรียนกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือหลังรู้จักผู้หญิงชาวไทยผ่านแอปหาคู่ ถูกหลอกให้โอนเงินสัญญาว่าจะแต่งงานด้วยแต่หลังจากนั้นกับพบว่ามีสามี เป็นคนไทยอยู่แล้วและยังไม่ได้มีการจดทะเบียนหย่าแต่อย่างใดต้องเสียเงินไปประมาณกว่า 300,000 บาทและยังถูกสามีของฝ่ายหญิงข่มขู่ จึงเกรงจะไม่ปลอดภัยและอยากได้เงินคืน
นายเอกภพ เปิดเผยว่าผู้เสียหาย รู้จักกับสาวไทยผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ชื่อดังตั้งแต่ 17 มิถุนายน และพูดคุยกันเรื่อยมา ก่อนที่จะช่วงปลายเดือนกรกฎาคม นายอาเหม็ดได้โดนหญิงหลอกว่าจะแต่งงานด้วย ตนจึงตกลง แต่ก็ถูกหญิงหลอกให้ทยอยโอนเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่ง รวมกว่า 359,000 บาท เนื่องจากฝ่ายหญิงอ้างว่าต้องการให้งานแต่งงานนี้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายร่วมกันทั้งสองฝ่ายไม่ใช่ฝ่ายหญิงออกเพียงแค่ฝ่ายเดียว ก่อนที่จะเดินทางมาแต่งงานในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมาที่บ้านฝ่ายหญิงใน ต.วัดเกาะ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ซึ่งทางฝ่ายชายเองก็เต็มใจที่จะโอนเงินให้ เพราะทำไปด้วยเชื่อว่าเป็นความรักที่แท้จริง
เมื่อไปถึง จ.สุโขทัย ในวันที่ 25 สิงหาคม ฝ่ายหญิงไทยได้พามาเปิดห้องพักชั่วคราว ได้อ้างว่าห้องพักชั่วคราวดังกล่าวเป็นของญาติฝ่ายหญิง แต่หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อเธอได้เป็นเวลา 2 วัน ในวันที่ 28 สิงหาคม นายอาเหม็ดเริ่มรู้ตัวแล้วว่าถูกหลอก จึงเดินออกมาจากรีสอร์ตที่พักเพื่อมาขอความช่วยเหลือ ก่อนจะได้มาเจอเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่กำลังไปช่วยน้ำท่วม จึงได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้กู้ภัยฟัง กู้ภัยจึงช่วยเหลือด้วยการติดต่อกับฝ่ายหญิง จนมีการพูดคุยและนัดกันไปแต่งงานในวันรุ่งขึ้น คือวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 09:00 แต่เมื่อถึงเวลานัดหมาย ฝ่ายหญิงแจ้งกับฝรั่งว่า ผู้ใหญ่บ้านติดภารกิจมาไม่ได้ จึงขอเปลี่ยนจากงานแต่ง เป็นผูกข้อมือสู่ขอตามประเพณีแทน
หลังเสร็จพิธีสู่ขอวันที่ 30 สิงหาคม ฝ่ายหญิงได้แจ้งขอให้ทางกู้ภัยลบโพสต์ที่ถ่ายรูปเธอผูกข้อมือกับชาวต่างชาติ จากนั้นไม่นานได้มีผู้ชายท่านหนึ่งโทรมาแจ้งกู้ภัย อ้างว่าชายผู้นั้นเป็นสามีกับหญิงคนที่ผูกข้อมือและยังไม่ได้หย่ากับฝ่ายหญิง พร้อมกันนี้เตรียมที่จะฟ้องนายอาเหม็ดด้วย ทางกู้ภัยจึงได้แจ้งเรื่องให้นายอาเหม็ดทราบ เขาช็อกตกใจมาก! เพราะไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน จึงได้ขอให้กู้ภัยพาไป สภ.ศรีสำโรง เพื่อแจ้งความเอาผิดกับฝ่ายหญิงที่มาหลอกลวง
แต่ปรากฏว่าตำรวจไม่ยอมรับแจ้ง นอกจากนี้สามีของฝ่ายหญิง ซึ่งมาทราบภายหลังว่าเป็นทหารอยู่ที่ จ.ตาก ได้บุกมาหาเรื่องนายอาเหม็ดถึงโรงพัก ซึ่งชายที่อ้างว่าเป็นสามีฝ่ายหญิงมาผลักหน้าอกและด่าคำว่าอวัยวะเพศชายเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้นายอาเหม็ดเกิดความหวาดกลัวมาก เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย อีกทั้งก็ต้องการเงินคืนด้วย จึงตัดสินในเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอด